อนุทิน ชี้แจง ไม่ได้ตำหนิแพทย์ เตรียมมาตรการป้องกันความเสี่ยงไว้ให้แล้ว
วันนี้ (26 มี.ค.) จากรณีที่มีการเผยแพร่คลิปของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่างถึงบุคลกกรทางการแพทย์ ที่ติดเชื้อไวรัส โควิด-19 ว่า เท่าที่ตนได้รับรายงานมา การติดเชื้อของแพทย์ที่ปฏิบัติหน้าที่ ด้วยการรักษาโควิด ยังไม่มี นี่คือสิ่งที่จะต้องไปหวดกัน อันนี้ต้องยอมรับ
พวกเราก็ไม่พอใจที่บุคลากรทางการแพทย์ ที่ไม่เฝ้าระวังตัวเอง ซึ่งเราจะต้องเป็นบุคคลตัวอย่าง ต่อให้ไม่เป็นบุคคลตัวอย่าง เราก็จะต้องตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ว่าช่วงนี้สถานการณ์โรดระบาด โรคแบบนี้เราต้องเซฟตัวเองให้มากที่สุด เรามัวแต่ระวังของนอกบ้าน บางทีของในบ้านก็ยังหละหลวมอยู่ ตนต้องขออภัย และจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก
โดยคลิปดังกล่าวถูกแชร์ออกไปเป็นจำนวนมาก และเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก และล่าสุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนี้ว่า เป็นการสื่อสารที่ผิดพลาด เพราะที่ผ่านมา เราสนับสนุนการทำงานของแพทย์ เต็มที่ เรามีมาตรการระมัดระวังอยู่ตลอด ไม่ใช่ไม่มีมาตรการป้องกัน หรือ ลดความเสี่ยงให้บุคลากรทางการแพทย์
“ผมได้เจรจากับสถานทูตจีน ขอการสนับสนุน หน้ากากอนามัย หน้ากาก N95 มาให้บุคลากรทางการแพทย์ ทั้งขอรับบริจาค และขอซื้อราคาพิเศษ โดยรัฐบาลจีน เพิ่งส่งให้มา ทางมูลนิธิของแจ๊ก หม่า ก็เพิ่งส่งให้มา ซึ่งสิ่งเหล่านี้เอาไปให้แพทย์ กับบุคลากรทางการแพทย์ ทั้งนั้น
นอกจากนี้ ยังมีกรมธรรม์ประกันภัยจาก COVID-19 ให้กับบุคลากรทางการแพทย์อีก 120,000 กรมธรรม์ ที่ผมจัดหามาให้บุคลากรทางการแพทย์ โดยที่รัฐไม่ต้องเสียเงินงบประมาณ แต่ผมไปขอรับการสนับสนุนจากบริษัทประกันภัยต่างๆ เพราะถ้าให้รัฐจัดหา จะต้องมีขั้นตอนมาก”นายอนุทิน กล่าว
รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า สำหรับเรื่องแพทย์ที่ติดเชื้อจากการทำงาน นั้น ไม่ได้มีเจตนาจะตำหนิ หรือต่อว่า เพราะตนรู้ดีว่าทุกคนทำงานหนัก และเสี่ยงชีวิต อยู่แล้ว แต่ที่ตำหนิ คือบุคลากรทางการแพทย์ที่ ไปติดเชื้อมาจากการไปสังสรรค์กับเพื่อนฝูงแล้วติดเชื้อ แต่ยังมาทำงาน
ทำให้เจ้าหน้าที่ท่านอื่นๆ ต้องถูกกักตัว เสียกำลัง ขาดบุคลากรที่จะมาทำงานให้ประชาชนไปด้วย และตนได้เตือนบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนว่า ในฐานะที่เป็นข้าราชการสาธารณสุข ต้องปฏิบัติเป็นตัวอย่างแก่ประชาชน เพราะมาตรการที่ออกไปให้ประชาชนปฏิบัตินั้น
เป็นมาตรการที่สาธารณสุข เป็นผู้กำหนดทั้งนั้น ซึ่งประเด็นที่ต้องการสื่อสารมีเพียงเท่านี้ ไม่มีเจตนาที่จะตำหนิแพทย์ หรือ บุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานหนัก อยู่ในขณะนี้ มีแต่ให้กำลังใจกันทุกวัน แต่หากการสื่อสารทำให่้เข้าใจผิด ก็ขอชี้แจงให้ทราบตามนี้
