พท.อัดไก่อู-โทษคนอื่น ‘ปรเมศวร์’ปลื้มกำลังใจ ผบ.ทบ.ตั้ง307ผบ.พัน. โผล่อีกชาวบ้านจุดธูป! ไหว้ประชดถนนหลุมบ่อ

บิ๊กป้อมบินฮาวายไม่ทุจริต สตง.แถลงสรุป แจงยิบยันคาเวียร์ ย้ำไร้ชื่อ‘ชลรัศมี’ ส่งคตง.สอบต่อ ป้องครหาเคลมไว ‘บิ๊กตู่’ขอความเป็นธรรมให้ผู้ถูกกล่าวหาด้วย เพื่อไทยถามกลับ‘ไก่อู’ ใครดีแต่โทษคนอื่น ‘อัยการปรเมศวร์’ปลื้มกำลังใจล้น ยันไม่ทรยศอุดมการณ์-ประชาชน ป.ป.ช.ตีตก 3 คำร้อง ทั้ง‘ปู’ไม่เปิดราคากลาง บิ๊กโอ๋แทรกแซงปลดร.ต.มาร์ค อภิสิทธิ์และพวกเอื้อเอกชน วิษณุลั่นก่อน 9 พ.ย. ทูลเกล้าฯรัฐธรรมนูญ ผบ.ทบ.แต่งตั้ง 307 ผบ.พัน.

บิ๊กตู่ออกทีวีแจงปม‘โจชัว หว่อง’

เมื่อวันที่ 7 ต.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติตอนหนึ่งว่า ตนรับฟังหลักการของโลก แล้วมาปรับให้สอดคล้องกับประเทศไทย กรณีของนายโจชัว หว่องว่า หลักของอาเซียนคือ จะไม่ให้ดินแดนของประเทศใดประเทศหนึ่งในอาเซียนเป็นที่เคลื่อนไหวต่อต้านประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงไม่ให้ชาวต่างประเทศคนใดมาเคลื่อนไหวในไทย ที่จะไปสร้างความเดือดร้อนให้กับ ประเทศอื่นๆ นี่คือหลักการสำคัญขอให้เข้าใจ ไม่ใช่การละเมิดสิทธิมนุษยชน หรือกลัวว่าเขาจะมาพูดให้เสียหาย

ขอความเป็นธรรมให้ผู้ถูกกล่าวหา

“เมื่อมีเรื่องอะไรเข้ามา ผมต้องให้หน่วยงานเขาตรวจสอบ พอเร่งรัดมากๆให้ตอบ ผมตอบไม่ได้เพราะมันยังไม่ได้ตรวจสอบ ไม่มีข้อเท็จจริงแล้วมาถามผมตลอดเวลา ซึ่งก็ไม่ผิด ผมผิดอยู่แล้ว ฉะนั้นขอให้ความเป็นธรรมกับผู้ที่ถูกกล่าวหาด้วย ทั้งในสื่อโซเชี่ยล เมื่อตรวจสอบแล้วมันไม่พบก็กรุณาชี้แจงให้ด้วย ให้ความเป็นธรรมเขาด้วย อย่าไปเรียกร้องให้ความเป็นธรรมกับคนที่ทำความผิดมากนักเลย ถ้าไม่ผิดมันก็ไม่มีเรื่อง เมื่อเรื่องเข้ากระบวน การยุติธรรมแล้ว ตรวจสอบแล้วมันก็จบ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวด้วยว่า วันนี้เราชอบใช้ความรู้สึกมาก่อน ต้องช่วยกันแก้ไข ฟังเหตุผล อย่าขยายความไปเร็วนัก แล้วตัดสินออกมาไม่ยอมรับอีก จะอยู่กันอย่างไร ขอให้เคารพกฎหมาย

ขอโทษแสดงออกไม่เหมาะสม

“ผมขอถือโอกาสนี้ขอโทษสื่อ สังคม ประชาชน กับการแสดงออกของผมที่ไม่เหมาะสมในบางเวลา ต่อไปผมจะระมัดระวังตัวให้มากที่สุด ให้สื่อไปติดตามข่าวเอาเองจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ ไม่เช่นนั้นไม่ฟังคนอื่นเลย มาฟังจากผม พอผมโมโหอารมณ์เสียมันก็กลายเป็นว่าผมมาลงกับสื่ออีก” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงกรณีหญิงสาวนุ่งกระโจมอกบนถนนน้ำขังที่อ.แม่ละมาด จ.ตาก ว่าภาพถนนน้ำขังที่อ.แม่ละมาดได้แก้ไขไปแล้ว พอรู้เรื่องก็ซ่อม 3 วันก็เสร็จ ขอร้องว่าอย่าให้ใช้วิธีการเหล่านี้อีกต่อไปเลย ตนรับฟังเสมอ ได้ย้ำว่าศูนย์ดำรงธรรมจะต้องดูแล อย่าให้เรื่องเหล่านี้มันหลุดมาถึงรัฐบาล

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลและคสช.ทำทั้งเขียนกฎระเบียบ คำสั่งที่ผ่านมา ทั้งพิเศษหรือไม่พิเศษ เป็นเพียงมาตรการชั่วคราวเท่านั้น เพื่อไม่ให้ประเทศไทยตกอยู่ในที่เรียกว่าทศวรรษที่หายไป-ว่างเปล่า เหมือนประเทศไทยที่ไม่มีตัวตน 10 ปีที่ผ่านมา เพราะทะเลาะและขัดแย้งมาก การพัฒนาเดินหน้าไม่ได้ แก้ปัญหาไม่ได้ เรียกว่าทศวรรษที่หายไป ไร้ค่า ตนไม่ยอมที่จะให้ทุกอย่างกลับไปเป็นอย่างเดิม แต่ตนทำคนเดียวไม่ได้ ขึ้นอยู่กับประชาชนว่าจะร่วมกับตนหรือไม่

ป๋าเปรมนำถก‘คอร์รัปชั่น’

ที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) นายเฉลิมศักดิ์ จันทรทิม รองประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ร่วมในงานสัมมนาในหัวข้อ “คอร์รัปชั่น”หายนะประเทศไทย

พล.อ.เปรมกล่าวเปิดงานว่า คำว่าคอร์รัปชั่น ทางการนิยมแปลความหมายว่าการโกงชาติ ส่วนตนยืนยันว่าจะแปลความหมายว่าเป็นการปล้นชาติ ผู้ทำให้ชาติประสบหายนะ ที่ผ่านมาเคยเสนอว่าต้องเริ่มต้นจากเด็กและเราต้องประพฤติตนเป็นแบบอย่าง โดยเริ่มจากคนในชาติของเรา ข้อสำคัญที่สุดคือความร่วมมือของคนในชาติ เรื่องเหล่านี้คือปัญหาที่ยากมาก และสำคัญอย่างยิ่งเราต้องช่วยกันแก้ปัญหาตรงนี้ มีวิธีใด มีสิ่งจูงใจใดบ้างที่จะได้รับความร่วมมือให้เขาเลิกคิดว่าไม่ใช่หน้าที่ เขาไม่ได้ปล้นผม เขาไม่ได้โกงดิฉัน นั่นคือปัญหาที่ยิ่งใหญ่

จี้‘5 สาย’ต้องทำตัวเป็นตัวอย่าง

นายอลงกรณ์กล่าวว่า สิ่งสำคัญบรรดาคนใกล้ชิดแม่น้ำ 5 สายต้องทำตัวเป็นตัวอย่าง อย่ากระทำผิด ถ้ามีต้องจัดการสถานเดียว อย่าปกป้อง อย่าสองมาตรฐาน นายกฯได้ทำเป็นตัวอย่างแล้วว่าพร้อมให้ตรวจสอบ

นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการสตง. กล่าวว่า หากเงินแผ่นดินถูกทุจริตไปประชา ชนทุกคนจะกลายเป็นผู้เสียหาย หากมีการเรียกสินบนจากภาคเอกชนสุดท้ายจะรวมอยู่ในต้นทุนโครงการ ต้นทุนการก่อสร้าง และจะมาเบียดเบียนเงินแผ่นดินอยู่ดี

จากนั้น พล.อ.เปรมกล่าวปิดท้ายการสัมมนาว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการปราบปรามคอร์รัปชั่นนั้นยังไม่เพียงพอ ดังนั้นทุกคนต้องมาช่วยกัน อยากให้ทุกคนไปทำอะไรสักอย่างเพื่อเป็นการริเริ่ม เพราะทุกคนต่างมีข้อมูลกันอยู่แล้ว สิ่งที่ยากมากคือระบบอุปถัมภ์ ผมคิดไม่ออกว่าจะแก้อย่างไร หากบอกว่าคนไทยช่วยเหลือคนผิด มันก็จริง แต่เขาก็ต้องตอบแทนบุญคุณ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ถูก มันจึงเป็นเรื่องยาก นี่คือปัญหาใหญ่ที่ต้องมานั่งช่วยกันคิดว่าเขาต้องแยกให้ออกว่าอะไรควรจะอุปถัมภ์ได้หรือไม่ได้

คสช.ลั่นพร้อมให้ตรวจทุจริต

ที่บก.ทบ. พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคสช. กล่าวถึงเสียงวิจารณ์ รัฐบาลและคสช. เรื่องนโยบายการต่อต้านทุจริต แต่กลับเกิดเหตุการณ์หลายกรณี ว่า ทุกหน่วยงาน รวมทั้งกองทัพบกยินดีให้ความกระจ่างโดยเฉพาะกรณีพบเห็น สงสัย เจ้าหน้าที่ที่ทำทุจริตในแง่มุมต่างๆ เกี่ยวกับจัดซื้อจัดจ้างสามารถตรวจสอบได้ ส่วนที่ช่วงนี้มักพบข้อสงสัยที่อาจกระทบ คสช. มีกล่าวหากันผ่านสื่อ เกี่ยวกับเรื่องทุจริตนั้น จะพบว่าไม่มีเรื่องเบียดบังหาประโยชน์เชิงส่วนต่าง หรืองบฯรั่วไหลแอบแฝงไปเข้าคนคนใดคนหนึ่ง ขอให้เชื่อมั่นคสช.ไม่อยากให้คล้อยตามวิธีการต่อสู้แบบการเมืองเก่าๆ ที่พยายามสื่อสารว่า ฉันไม่ดี เธอก็ไม่ดี

ด้านพ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษก คสช. กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พบปะตอบคำถามคนเสื้อแดงที่นครลอสแองเจลิส ว่า คสช.ได้ติดตามเฝ้าดูอยู่ โดยคสช.ไม่ได้ให้น้ำหนักและสาระสำคัญ ส่วนที่ระบุว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งเป็นน้องสาวถูกรังแกนั้นกระบวนการของน.ส.ยิ่งลักษณ์ดำเนินการตามอำนาจตุลาการ ส่วนคสช.และรัฐบาลเป็นฝ่ายบริหาร ไม่ได้ก้าวล่วง

ป้อมลั่นแจงหมดแล้วทัวร์ 20 ล.

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์เรียกร้องให้ชี้แจงกรณีเดินทางไปฮาวาย สหรัฐอเมริกา ว่า ที่ผ่านมาตนชี้แจงไปหมดแล้ว หากไม่เข้าใจให้มาถามโดยตรง จะชี้แจงส่วนตัวแล้วจะถามกลับบ้าง ถามคำถามเพื่อให้คนตีกัน เรียกว่าถามไม่รู้เรื่อง

เมื่อถามถึงนายทักษิณระบุรัฐบาลรังแก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในการไปพูดบนเวทีของกลุ่มคนเสื้อแดงที่สหรัฐ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไปรังแกอย่างไร รัฐบาลทำอะไร มันเป็นเรื่องศาลทั้งหมด รัฐบาลไม่ได้เกี่ยวข้อง เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมทั้งหมด

สตง.แถลงยันบินฮาวายไม่ทุจริต

ที่สตง. นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการ สตง. แถลงผลการพิจารณาข้อเท็จจริงกรณีการใช้จ่ายเงินงบประมาณเดินทางไปประชุมมรมว.กลาโหมอาเซียนและรมว.กลาโหมสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 29 ก.ย.-1 ต.ค. ของพล.อ.ประวิตรและคณะ 38 คน โดยสำนักนายกรัฐมนตรีซื้อบริการเที่ยวบินแบบเหมาลำของบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน)ว่า สตง.จะส่งเรื่องนี้ไปยังคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) ให้วินิจฉัยกรณีภายในวันที่ 10 ต.ค.นี้ โดยสตง.จะชี้แจงต่อคตง.ในข้อเท็จจริงที่ได้ ซึ่งสตง.เห็นว่ายังไม่มีประเด็นที่เป็นข้อผิดสังเกต หรือมีทุจริต แต่ขึ้นอยู่กับคตง.จะเห็นอย่างไร และที่ส่งให้คตง.วินิจฉัย เพื่อไม่ให้มาติฉินได้ว่าเรื่องนี้มาเร็วเคลมเร็ว พิจารณาไว

“เรื่องทุจริตตัดไปได้เลย กรณีนี้ใช้งบประมาณแบบกระเป๋าซ้ายเข้ากระเป๋าขวา คือจ่ายจากหน่วยงานรัฐให้กับการบินไทย ซึ่งจ่ายไปเท่าไร ใช้เงินอย่างไร สตง.ตามตรวจได้หมด ไม่เหมือนจัดงานอีเวนต์ หรือคิดค่าคอมมิชชั่นในโครงการอื่นๆ” นายพิศิษฐ์กล่าว

แจงยิบยัน‘ไข่ปลาคาร์เวียร์’

ผู้ว่าการสตง.กล่าวว่า สัญญาที่สำนักนายกฯ ทำกับบริษัทการบินไทย ก็ระบุชัดว่าค่าใช้จ่ายเป็นไปตามตัวเลขที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 20.9 ล้านบาท ทั้งนี้ การบินไทยยังไม่ได้วางบิลค่าใช้จ่ายการเดินทางครั้งนี้ รวมถึงค่าอาหารต้นทางปลายทางที่ยังไม่ได้ข้อสรุป ซึ่งต้องทำให้รอบคอบ เชื่อว่าการที่บริษัทการบินไทยจะเรียกเก็บเกินความจำเป็นนั้นไม่มี ส่วนการเลือกเครื่องบินลำใหญ่ ต้องดูว่าไม่กระทบกับตารางบิน รวมทั้งสามารถบินไกลได้โดยไม่ต้องหยุดพัก หากใช้สายการบินอื่นจะมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 5-6 แสนบาทต่อราย หรือ 22 ล้านบาท

นายพิศิษฐ์กล่าวว่า ค่าอาหารบนเครื่องกว่า 6 แสนบาทนั้น ยืนยันว่าเหมาะสมและเป็นไปตามหลักการให้บริการของสายการบิน เมื่อเทียบกับสายการบินชั้นนำอื่นๆ โดยเฉพาะเมนูไข่ปลาคาร์เวียร์มีเสิร์ฟเฉพาะที่นั่งชั้น 1 หรือเฟิร์สต์คลาส โดยคณะนี้มีที่นั่งเฟิร์สต์คลาส 9 ที่นั่ง และเสิร์ฟเป็นเมนูเรียกน้ำย่อย ส่วนรายที่นั่งชั้นประหยัดก็รับอาหารปกติไม่มีเมนูไข่ปลาคาร์เวียร์ ทั้งนี้ คณะเดินทางไป 38 คน กลับ 41 คน ไม่ปรากฏชื่อของพ.ต.หญิงชลรัศมี งาทวีสุข อย่างแน่นอน

ปปช.ไม่ก้าวล่วงสอบ‘ทัวร์ป้อม’

พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานป.ป.ช. กล่าวถึงการตรวจสอบของป.ป.ช. ต่อประเด็นที่กระทรวงกลาโหมและสำนักเลขาธิการนายกฯ เช่าเหมาลำเครื่องบินการบินไทย งบประมาณ 20.9 ล้านบาทว่า ส่วนราชการที่มีอำนาจหน้าที่กำลังพิจารณาอยู่ ถือเป็นหน้าที่ตามกฎหมาย ส่วนป.ป.ช.มีหน้าที่ตรวจสอบการทุจริตและประพฤติมิชอบ

เมื่อถามว่าแม้จะไม่มีผู้ร้องเรียนมาที่ป.ป.ช. แต่สังคมสนใจ ทางป.ป.ช.จะไต่สวนให้เกิดความชัดเจนหรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่าเราต้องทำหน้าที่ หากมีข้อร้องเรียน กล่าวหา ก็ต้องดำเนินการ แต่วันนี้หน่วยงานที่มีหน้าที่กำลังตรวจสอบอยู่ ก็ให้เขาดำเนินการไปก่อน ไม่เช่นนั้นอาจเป็นการล่วงละเมิด ทั้งนี้ หากสตง.ตรวจสอบแล้วจะส่งมาที่ป.ป.ช. ทางป.ป.ช.ต้องดูก่อนว่าเข้ากับอำนาจหน้าที่ของป.ป.ช.หรือไม่

ขอเวลาเก็บข้อมูลปมร้องบิ๊กติ๊ก

พล.ต.อ.วัชรพลยังกล่าวถึงการตั้งคณะทำงานเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริง กรณีที่มีผู้ยื่นร้องให้ตรวจสอบพล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม มีพฤติกรรมเอื้อประโยชน์ให้กับภรรยาในการสร้างฝายแม่ผ่องพรรณพัฒนา ที่จ.เชียงใหม่ และบุตรชายในการเปิดบริษัทรับเหมาก่อสร้างในพื้นที่ของกองทัพภาคที่ 3 ว่าเมื่อมีผู้ร้องเรียน เบื้องต้นต้องแสวงหาข้อเท็จจริงก่อน ส่วนจะใช้เวลานานแค่ไหนขึ้นอยู่กับการรวบรวมข้อมูล เมื่อคณะทำงานรวบรวมข้อมูลได้ครบถ้วนแล้วจะเสนอต่อที่ประชุมป.ป.ช.เพื่อพิจารณาว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร ถือเป็นขั้นตอนปกติของการทำงาน ส่วนจะตั้งคณะอนุกรรม การไต่สวนหรือไม่ ขึ้นอยู่กับเนื้อหา ข้อมูล และหลักฐานที่แสวงหามา

“การทำงานของป.ป.ช.เป็นกระบวนการบังคับใช้กฎหมายทางอาญา ซึ่งผู้ถูกกล่าวหายังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ และการไต่สวนทุกอย่าง ต้องคำนึงถึงสิทธิของผู้ถูกกล่าวหาด้วย

ปปช.ตีตกร้อง‘ปู-บิ๊กโอ๋-มาร์ค’

ที่สำนักงานป.ป.ช. นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการป.ป.ช. กล่าวถึงการพิจารณาถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ กรณีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ไม่ปฏิบัติตามพ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 ในการให้หน่วยงานของรัฐจัดทำข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้าง ราคากลาง ในระบบข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อให้ประชาชนเข้าไปตรวจสอบได้ว่า ที่ประชุมมีมติเอกฉันท์ให้ข้อกล่าวหาตกไป เนื่องจากยังรับฟังไม่ได้ว่ากระทำความผิด ถือว่าข้อกล่าวหาไม่มีมูล

นายสรรเสริญกล่าวว่า ส่วนการไต่สวนพล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต อดีตรมว.กลาโหม กรณีแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาถอดยศและมีคำสั่งปลดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ ออกจากราชการ กรณีใช้เอกสารราชการปลอมเข้ารับราชการนั้น เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ข้อกล่าวหาตกไป

นายสรรเสริญกล่าวว่า ที่ประชุมป.ป.ช.ยังมีมติยกคำร้องนายอภิสิทธิ์ นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรมว.คลัง นายศิริโชค โสภา อดีตส.ส.ประชาธิปัตย์ กรณีมีแนวคิดจะซื้อหุ้นของบริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) คืนจากบริษัท เทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ จำกัด ประเทศสิงคโปร์ รับฟังไม่ได้ว่าทั้งสามมีพฤติการณ์กระทำผิดตามข้อกล่าวหา มีมติเอกฉันท์ว่า ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป

ศรีสุวรรณผิดหวังสตง.

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย แถลงกรณี สตง.แถลงไม่พบทุจริตทริป 20 ล้านฮาวาย ว่า สมาคมรู้สึกผิดหวังกับการทำหน้าที่ของสตง. ที่เร่งรีบออกมาแถลงผลการตรวจสอบ ทั้งที่ยังไม่ได้ดำเนินการให้ครบถ้วน ถูกต้องตามขั้นตอน วิธีการ ตามที่พ.ร.บ.ว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดินบัญญัติไว้

“ซึ่งกระบวนการเช่าเหมาลำสังคมมีข้อพิรุธและข้อครหามากมาย อาทิ การใช้เครื่องบินที่มีขนาดใหญ่เกินเหตุ การใช้จ่ายเงินงบประมาณแผ่นดินที่ไม่เหมาะสม การกินไข่คาเวียร์ การนำบุคคลที่ไม่สมควรเดินทางไปกับคณะ ไม่สอดคล้องกับมติครม. 3 มี.ค. 2558 และฝ่าฝืนค่านิยม 12 ประการของหัวหน้า คสช.โดยชัดแจ้ง” นายศรีสุวรรณกล่าว

นายศรีสุวรรณกล่าวด้วยว่า อีกทั้งการแสวงหาข้อมูลของผู้เดินทางทั้ง 38 คนที่ สตง.นำมาแถลงนั้น เป็นเพียงเอกสารที่จัดทำขึ้นโดยหน่วยงานคู่กรณีที่ถูกร้องเรียน เหตุใด สตง.ไม่แสวงหาข้อเท็จจริงจากหน่วยงานอื่นมาถ่วงดุลยืนยัน สมาคมขอเรียกร้องให้ผู้ว่าฯ สตง.พิจารณาทบทวนพฤติกรรมและการกระทำของตนเองเสียใหม่ ให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของการก่อกำเนิดสตง. หรือให้เป็นไปตามพ.ร.บ.ด้วยการตรวจเงินแผ่นดินอย่างเคร่งครัด

พท.สวนไก่อูใครดีแต่โทษคนอื่น

ด้านนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีพล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกรัฐบาล และรักษาการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ระบุมีความพยายามของกลุ่มการเมืองทำให้เห็นว่าฉันชั่วแกก็ชั่วว่า รัฐบาลกำลังเกี่ยวแฝกมุงป่า ใช้องคาพยพทั้งทรัพยากรหลักของรัฐ ทุ่มปรับแก้ไขสถานการณ์ฮาวาย 20.9 ล้านบาทจนเกินพอดีหรือไม่ พล.ท.สรรเสริญเป็นรักษาการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ การใช้วิธีแบบเดิมเมื่อจวนตัวโทษใครไม่ได้ก็กล่าวโทษ โยนบาปให้ฝ่ายการเมืองแบบผังล้มเจ้า ระเบิดราชประสงค์ ลองมองย้อนกลับไปต้นทุนความน่าเชื่อถือเหลือแค่ไหน

นายอนุสรณ์กล่าวว่า พล.ท.สรรเสริญเชื่ออย่างที่พูดจริงๆหรือว่า การแฉเรื่องฝาย เรื่องบริษัทรับเหมาในค่ายทหาร จนถึงงบฮาวาย 20.9 ล้านบาท ฝ่ายการเมืองเป็นคนแฉ ถ้าคิดอย่างนั้นเท่ากับระวังผิดทาง ต้องปรับปรุงการข่าวครั้งใหญ่ และพล.ท.สรรเสริญอาจต้องกลับไปทบทวนการทำงานในหน้าที่โดยตรงของตัวเองว่าประชาชนได้ประโยชน์อะไรบ้าง ดีกว่ากล่าวโทษคนอื่นและสวนทางกับข้อเท็จจริง

นายวรชัย เหมะ อดีตส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงพล.อ.ประวิตรท้าน.ส.ยิ่งลักษณ์ให้มาถามส่วนตัวว่า เราไม่ต้องการเอาชนะใคร ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวประชา ชนสงสัย พล.อ.ประวิตรควรไปตอบกับประชา ชนเอง ไม่จำเป็นต้องมาตอบน.ส.ยิ่งลักษณ์

 

201610071246222-20091118122043

‘ปู’ขึ้นฟังศาลไต่สวนคดีข้าว

ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ พร้อมทีมทนาย เดินทางมาศาลฎีกาฯ ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสเพื่อขึ้นสืบพยานฝ่ายจำเลยเป็นนัดที่ 4 ในคดีที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ฐานความผิดปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว โดยวันนี้ทนายความนำพยานเข้าไต่สวน 2 ปาก คือนายโอฬาร ไชยประวัติ อดีตประธานผู้แทนการค้าไทยและอดีตที่ปรึกษานายกฯในรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ และนายวุฒิพงศ์ วิบูลย์วงศ์ อดีตรองอัยการสูงสุด ในฐานะอดีตหัวหน้าคณะทำงานร่วมกับป.ป.ช. พิจารณาสำนวนคดีปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว

ทั้งนี้ มีอดีตรัฐมนตรี แกนนำพรรคเพื่อไทยและอดีต ส.ส.อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรค นายชูศักดิ์ ศิรินิล หัวหน้าฝ่ายกฎหมายพรรค นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว อดีต รมช.สาธารณสุข นายวรชัย เหมะ อดีตส.ส.สมุทรปราการ พร้อมมวลชน ร่วมให้กำลังใจ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 จำนวน 1 กองร้อย ทั้งนี้ ทันทีที่น.ส.ยิ่งลักษณ์มาถึง กลุ่มมวลชนได้มอบดอกไม้ และตะโกนให้กำลังใจ นายกฯ ปูสู้ๆ” “เรารักนายกฯ ปู”

ต่อมาเวลา 15.00 น. ที่ศาลฎีกาฯ น.ส. ยิ่งลักษณ์ เดินทางออกจากศาล โดยใช้เวลาไต่สวนพยานฝ่ายจำเลยรวม 6 ชั่วโมง โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ยังคงมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ขณะที่มวลชนยังคงรอมอบดอกกุหลาบพร้อมให้กำลังใจ

นัดไต่สวนต่อวันที่ 21 ต.ค.

เวลา 09.30 น. นายชีพ จุลมนต์ รองประธานศาลฎีกา เจ้าของสำนวน พร้อมองค์คณะรวม 9 คน ได้ไต่สวนพยานจำเลยนัดที่ 4 คดีโครงการรับจำนำข้าว หมายเลขดำ อม.22/2558 ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นจำเลย โดยทนายความจำเลย ได้นำนายวุฒิพงศ์ขึ้นเบิกความเป็นพยานปากแรก จากนั้นเบิกตัว นายโอฬาร ไชยประวัติ อดีตประธานผู้แทนการค้าไทย เป็นพยานเบิกความ ทั้งนี้ภายหลังศาลไต่สวนพยานเสร็จสิ้น 2 ปาก ได้นัดไต่สวนพยานจำเลยปากต่อไปวันที่ 21 ต.ค. เวลา 09.30 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเลิกพิจารณาในวันนี้ ศาลอ่านคำสั่งที่ทนายจำเลยยื่นขอให้ตรวจสอบสื่อมวลชน 2 ช่อง นำคำเบิกความของนายสุเมธ เหล่าโมราพร ประธานคณะผู้บริหารบริษัทซีพีอินเตอร์เทรด จำกัด ไปวิเคราะห์ออกรายการ ซึ่งผิดเงื่อนไขที่ศาลเคยมีคำสั่ง ห้ามคู่ความ เสนอข่าวทำนองชี้นำให้สังคมเข้าใจคลาดเคลื่อน อาจทำให้เกิดอิทธิพลต่อการพิจารณาคดีของศาล และเป็นการชี้นำให้ประชาชนเข้าใจผิด ที่จะเป็นการกระทำละเมิดอำนาจศาล พร้อมขอให้เรียกบ.ก.ข่าวของทั้ง 2 ช่องมาเพื่อไต่สวนและมีคำสั่งตามที่ศาลเห็นสมควร องค์คณะผู้พิพากษาพิจารณาแล้วเห็นควรให้มีคำสั่งให้เลขานุการศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตรวจสอบถ้อยคำข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวและให้นำเสนอต่อองค์คณะเพื่อพิจารณาและมีคำสั่งดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไป

ให้ทนายศึกษาคดี‘เริงชัย’แล้ว

น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้สัมภาษณ์ถึงการใช้คำสั่งทางปกครองเรียกเก็บค่าเสียหายโครงการรับจำนำข้าวกว่า 35,000 ล้านบาทว่า อยากขอความเห็นใจจากประชาชนว่า นโยบายนี้ทำเพื่อช่วยเหลือชาวนาอย่างแท้จริง ได้ร้องขอความเป็นธรรมต่อคณะกรรมการต่างๆ หลายครั้งแล้ว เพราะการจะใช้คำสั่งคสช.เพื่อให้กรมบังคับคดีมีอำนาจยึดทรัพย์เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ตนอยากให้รัฐบาลนำไปพิจารณาบนข้อเท็จจริงและความสมเหตุสมผล เพราะการเลือกใช้คำสั่งทางปกครองเหมือนตัดสินแล้ว ทั้งที่ควรจะใช้การฟ้องศาลแพ่งมากกว่า และขณะนี้ยังไม่ได้รับหนังสือทางปกครอง และยังหวังว่ารัฐบาลจะไม่ใช้คำสั่งทางปกครอง แต่ควรใช้กระบวนการทางคดีแพ่ง แม้ขณะนี้คดีอาญาเดินมาครึ่งทางแล้ว เราทำหน้าที่อย่างเต็มที่และมั่นใจในพยานหลักฐานข้อเท็จจริงที่เราชี้แจง

อดีตนายกฯกล่าวว่า ส่วนคำวินิจฉัยกรณีนายเริงชัย มะระกานนท์ อดีตผู้ว่าฯธปท. ที่ระบุกำไร ขาดทุน ไม่สามารถนำมาเรียกร้องเป็นค่าเสียหายจากการดำเนินนโยบายของประเทศนั้น ตนได้ให้ทนายความศึกษาอยู่ ส่วนการร้องขอความเป็นธรรมในคดีนั้น ตนได้ร้องไปทุกที่ แต่ยังไม่ได้รับความเป็นธรรมและยังไม่ได้รับการตอบรับอย่างเป็นทางการจากทุกหน่วยงานที่ได้ร้องขอไป

วอนรัฐช่วยข้าวหอมมะลิราคาตก

น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ส่วนที่ราคาข้าวหอมมะลิกำลังตกต่ำอยู่นั้น อยากให้รัฐบาลหามาตรการช่วยเหลือชาวนาอย่างแท้จริง เพราะการที่ไม่มีมาตรการอะไรทำให้สินค้าเกษตรราคาตกต่ำ และคนที่เดือดร้อนก็คือชาวนา อีกทั้งมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ

เมื่อถามว่าจากที่ถูกดำเนินคดีคนเดียวถึง 15 คดี มองว่ามีความเป็นธรรมมากน้อยอย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า อยากให้ทุกหน่วยงานยึดสาระเหมือนที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ ให้ปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเท่าเทียมและตามหลักสากล จึงเป็นสาเหตุให้ตนต้องร้องขอความเป็นธรรมจากหน่วยงานที่เกี่ยว ข้องโดยตรงและสาธารณชน เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องได้พิจารณาสิ่งต่างๆ บนความเป็นธรรมและเท่าเทียม

น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังกล่าวถึงพล.ท.สรรเสริญระบุมีความพยายามจากฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล ลดความน่าเชื่อถือว่า ตนมองว่าโฆษกรัฐบาลมีหน้าที่ชี้แจงข้อสงสัยแก่ประชาชนให้เกิดความชัดเจน ดีกว่าโยนไปโยนมา เท่ากับรัฐบาลก็เล่นการเมืองเอง รัฐบาลถือว่าเป็นผู้นำ มีอำนาจทุกอย่าง อยู่ที่ผู้มีอำนาจที่จะคิด จะทำ ให้ประชาชนได้รับการยอมรับ

วิษณุแจงวุ่นกรณีเริงชัย

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวถึงกรณีนายนพดล หลาวทอง ทนายความน.ส.ยิ่งลักษณ์เรียกร้องให้นายกฯ นำคำพิพากษาศาลฎีกาคดีนายเริงชัยมาพิจารณา ก่อนมีคำสั่งทางปกครองต่อน.ส. ยิ่งลักษณ์ว่า คดีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องสู้คดีตามกระบวนการปกติเช่นเดียวกับกรณีนายเริงชัย ซึ่งตนไม่ทราบรายละเอียดสำนวนคดี

นายวิษณุกล่าวว่า ส่วนกรณีนายเริงชัยเดิมมีแนวคิดจะใช้กฎหมายความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่รัฐ แต่ถ้าใช้จะไม่ทันเวลาเพราะต้องรีบส่งสำนวนฟ้อง หากใช้กฎหมายความรับผิดทางละเมิดจะต้องตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง จากนั้นเมื่อตรวจสอบเสร็จต้องส่งให้กรรมการชุดที่สอง ที่มีอธิบดีกรมบัญชีกลางพิจารณา หากใช้วิธีนี้จะเสียเวลาในขั้นตอนของคณะกรรมการ ซึ่งจะใช้เวลาพิจารณาและอาจส่งฟ้องไม่ทันเวลา และข้อจำกัดเรื่องเวลาที่ต้องยื่นฟ้องร้องภายใน 1 ปี ทำให้รัฐบาลขณะนั้นจึงเลือกใช้วิธีฟ้องศาลแพ่ง เพื่อรักษาอายุความ

เผยทูลเกล้าฯรธน.ก่อน 9 พ.ย.

นายวิษณุยังกล่าวถึงการประชุมหารือกฎหมายตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ว่า ประชุมเตรียมการรองรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยในปีครึ่งที่เหลือมีกฎหมาย 4 กลุ่มที่ต้องทำคือ 1.การผลักดันกฎหมายกว่า 100 ฉบับ 2.การออกกฎหมายให้สอดคล้องกับรัฐธรรม นูญฉบับใหม่ 59 ฉบับ 3.การดำเนินการตามรัฐธรรมนูญที่ทำได้ทันที ไม่ต้องรอรัฐธรรม นูญประกาศใช้มีอยู่ 30 เรื่อง เช่น การเรียนฟรี 15 ปี และ 4.ทบทวนประกาศและคำสั่งคสช.ทั้งหมดว่า อะไรบ้างที่ควรยกเลิก หรือปรับเป็นกฎหมายธรรมดา หรือปล่อยทิ้งไว้ ซึ่งมีกว่า 400 ฉบับ ส่วนกฎหมายที่ต้องออกให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญมี 2 ฉบับที่ยังน่าห่วงคือ กฎหมายจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ และกฎหมายแผนขั้นตอนการปฏิรูป ซึ่งในกฎหมายยุทธศาสตร์ชาติ รัฐบาลในอนาคตสามารถปรับเปลี่ยนแผนได้ กฎหมายไม่ได้ล็อกให้รัฐบาลเลือกตั้งต้องอยู่ภายใต้กฎระเบียบที่พล.อ.ประยุทธ์วางไว้

นายวิษณุกล่าวด้วยว่า สำหรับขั้นตอนทูลเกล้าฯร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้น กรธ.จะส่งร่างรัฐธรรมนูญฉบับสมบูรณ์มาให้รัฐบาลในวันที่ 11 ต.ค.นี้ จากนั้นรัฐบาลมีหน้าที่เขียนคำปรารภ และบทเฉพาะกาล ต้องทำให้เสร็จใน 30 วัน และนำขึ้นทูลเกล้าฯเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย ก่อนวันที่ 9 พ.ย.นี้

มีชัยจ่อลดบทบาท‘กกต.’

ที่รัฐสภา นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ. กล่าวกรณีกรธ.ให้ตัวแทนกกต.เข้าร่วมประชุมระหว่างการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้งว่า เพื่อให้ชี้แจงประเด็นในข้อสงสัยได้อย่างชัดเจน ขณะนี้มีประเด็นที่อยู่ในการพิจารณาคือ การปรับอำนาจหน้าที่กกต.ในส่วนของการจัดการเลือกตั้งท้องถิ่น กรธ.มีแนวคิดว่ากกต.ควรเป็นผู้เฝ้าดูการเลือกตั้ง เพื่อไม่ให้เกิดการทุจริตในระดับท้องถิ่น โดยจะเหลือหน้าที่เฉพาะจัดเลือกตั้งระดับประเทศเท่านั้นหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่ากรธ.ไม่มีความคิดเซ็ตซีโร่ใคร ยกเว้นแต่จะลาออกเอง

เมื่อถามถึงสนช.กำลังพิจารณาเรื่องการถอดถอนนักการเมือง นายมีชัยกล่าวว่าก็ต้องเร่งพิจารณาให้เสร็จภายในเดือนเศษก่อนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะประกาศใช้ เพราะหากพิจารณาไม่แล้วเสร็จก็จะถือว่าต้องยุติไปโดยปริยาย และต้องเปลี่ยนเส้นทางไปทางอื่น อาทิ การยื่นศาลรัฐธรรมนูญ การยื่นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญได้เปลี่ยนการถอดถอนหลังป.ป.ช.ชี้มูลความผิด ไปให้ศาลพิจารณาว่าบุคคลนั้นขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งไม่รู้ว่าสนช.รู้เรื่องนี้หรือไม่ ดังนั้น จึงขอฝากผ่านทางสื่อมวลชนไปเตือนด้วย

11 ตค.นี้ส่งรธน.ให้บิ๊กตู่

นายนรชิต สิงหเสนี โฆษกกรธ.แถลงว่า ขณะนี้กรธ.ได้ปรับแก้ไขเนื้อหาร่างรัฐธรรม นูญให้สอดคล้องกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ให้สมาชิกของทั้งสองสภารวมกันจำนวนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา ที่ประกอบด้วย ส.ส.และส.ว. เสนอข้อยกเว้นเปิดช่องให้เสนอบุคคลนอกบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองได้ รวมทั้งยังปรับแก้ไขให้เลือกบุคคลนอกบัญชีรายชื่อของพรรคได้หลายครั้งในตลอดเวลา 5 ปี โดยกรธ.จะนำเสนอให้พล.อ.ประยุทธ์ ในวันที่ 11 ต.ค.นี้ เพื่อพิจารณาก่อนที่จะทูลเกล้าฯต่อไป

นายนรชิตกล่าวว่า สำหรับเนื้อหาที่ปรับแก้ไข ทางกรธ.ไม่ได้ใช้คำว่าสมาชิกรัฐสภาตามที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไว้ แต่ให้ใช้คำว่าสมาชิกของทั้งสองสภารวมกัน เนื่องจากคำว่าสมาชิกรัฐสภา ไม่ได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ซึ่งเรื่องดังกล่าวได้หารือกับศาลรัฐธรรมนูญเป็นการภายใน โดยศาลรัฐธรรม นูญก็เห็นชอบตามแนวทางดังกล่าวแล้ว

นายนรชิตกล่าวต่อว่า กรธ.ยังกำหนดรับฟังความเห็นต่อการร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งและนักการเมือง 4 ฉบับ ใน 4 จังหวัด ดังนี้ เวทีแรกวันที่ 18 ต.ค. ที่จ.อุบลราชธานี เวทีที่สองวันที่ 25 ต.ค ที่จ.ชลบุรี เวทีที่สามวันที่ 1 พ.ย. ที่จ.เชียงราย และเวทีที่สี่วันที่ 8 พ.ย. ที่จ.สุราษฎร์ธานี

 

201610071951395-20160916135536

สุรินทร์ปลูกต้นไม้กลางถนน

ที่จ.สุรินทร์ ชาวบ้านสำโรง ต.หนองบัวทอง อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ กว่า 100 คน นำต้นไม้มาปลูกในหลุมกลางถนนสายต.ไผ่-ต.หนองบัวทอง และนำสุ่มมาจับปลาในแอ่งน้ำกลางถนน นอกจากนั้นยังได้นำดอกไม้ธูปเทียนมาจุดไหว้กราบสักการะบนถนนเส้นนี้ เพื่อเป็นการบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางและภูตผี ปีศาจ รวมทั้งชาวบ้านที่เสียชีวิตจากการใช้ถนนเส้นนี้ ให้ช่วยไปเข้าฝันหรือดลใจให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาแก้ปัญหาให้ชาวบ้านด้วย พร้อมบนบานหัวหมู 100 หัว หากได้ถนนลาดยางหลังต้องรอมานานกว่า 10 ปี โดยถนนสายนี้เป็นของกรมพัฒนาที่ดิน ซึ่งปัจจุบันถูกยุบไปแล้ว มีระยะทางประมาณ 7 ก.ม. เป็นถนนดินลูกรังผสมหินคลุก จะมีสภาพเป็นหลุมเป็นบ่อในช่วงฤดูฝนมานานกว่า 10 ปี

นายกฤษณุ เหลืองพิบูลกิจ นายอำเภอรัตนบุรี กล่าวว่า ทราบจากการรายงานแล้ว และวันนี้ได้เรียกประชุมหัวหน้าส่วนราชการ กำนันผู้ใหญ่บ้าน และอบต.หนองบัวทอง เพื่อให้ดูแลความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะปัญหาถนนชำรุดว่ามีอยู่ในพื้นที่ใดบ้าง จะได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาแก้ไข เพราะทางจังหวัดสุรินทร์มีเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยกรณีฉุกเฉินอยู่แล้ว และเรื่องนี้ตนจะรีบดำเนินการแก้ไขให้โดยด่วนที่สุด

‘บิ๊กเจี๊ยบ’ปรับย้าย307ผบ.พัน.

เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ผู้สื่อรายงานจากกองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ว่า มีการแจกจ่ายสำเนาคำสั่ง ทบ.485/2559 เรื่องให้นายทหารรับราชการและปรับระดับเงินเดือน หรือโผโยกย้ายผู้บังคับกองพันทั่วประเทศ 307 นาย โดย พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. ลงนามเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ปรับย้ายนายทหารระดับผู้บังคับกองพัน ทั้งหน่วยทหารเหล่าราบ ม้า และปืนใหญ่ รวมถึงหน่วยคุมกำลังปฏิวัติ

สำหรับตำแหน่งที่น่าสนใจ อาทิ พ.อ.วรยุทธ แก้ววิบูลย์พันธุ์ (ตท.24) ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ผบ.ร.21 รอ.) ทหารเสือราชินี ซึ่งทำหน้าที่หัวหน้าชุดรักษาความปลอดภัยนายกฯ ขึ้นเป็น รองผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (รองผบ.พล ร.2 รอ.) โดยมีพ.อ.อมฤต บุญสุยา (ตท.27) รองผบ.ร.21 รอ. ขึ้นเป็นผบ.ร.21 รอ.แทน

พ.อ.สมหมาย บุษบา (ตท.24) ผบ.กรมพัฒนาที่ 2 กองทัพภาคที่ 2 ขึ้นเป็น เสธ.มทบ.28 โดยที่ผ่านมาได้ปฏิบัติหน้าที่เป็นหัวหน้าชุดจับกุมผู้บุกรุกป่าสงวน ในภารกิจทวงคืนผืนป่าของคสช. อาทิ การเข้าปฏิบัติการตรวจค้นสนามแข่งรถโบนันซ่า สปิดเวย์ เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา

พ.อ.เทอดศักดิ์ งามสนอง (ตท.23) เสธ.พล.ร.4 รองผู้บัญชาการหน่วยเฉพาะกิจจังหวัดยะลา (รอง ผบ.ฉก.จ.ยะลา) เป็นรองผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 4 (รอง ผบ.พล.ร.4), พ.อ.กัณฑ์ชัย ประจวบอารีย์ (ตท.27) รองผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (รอง ผบ.พล. 1 รอ.) เป็นรองผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 (พล.ร. 9) ฯลฯ

ปรเมศวร์ลั่นไม่ทรยศอุดมการณ์

จากรณีนายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา โพสต์เฟซบุ๊กพาดพิงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และถูกอัยการสูงสุด (อสส.) สั่งให้สอบข้อเท็จจริงเเละย้ายช่วยราชการชั่วคราว ในตำแหน่งรองอธิบดีสำนักงานชี้ขาดคดีอัยการสูงสุด เพราะโพสต์เฟซบุ๊กพาดพิงนายกฯ

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 7 ต.ค. นายปรเมศวร์ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า นี่ไม่ใช่แถลงข่าว นี่ไม่ใช่เรื่องคดี แต่นี่คือสิ่งที่จะบอกเพื่อนๆ ในเฟซ ในภาพที่เห็นเป็นส่วนหนึ่งของกำลังใจที่หลั่งไหลไม่ขาดสาย ไม่นับในเฟซ ไม่นับโทรศัพท์ ไม่นับจดหมายทั้งเพื่อนพ้องพี่น้องอัยการ ตุลาการ ทหาร ตำรวจข้าราชการในหน่วยงานต่างๆ อธิการบดีและคณบดีหลายสถาบัน ลูกศิษย์ แฟนรายการวิทยุ สวพ 91 และ อสมท 107.75 แฟนทีวี TNN 24. สถานีประชาชน Thailand PBS

“ที่สำคัญ อดีตอสส.หลายท่านที่เป็นห่วงใยผม ซึ่งหลายท่านผมไม่เคยรู้จักมาก่อน ขอเรียนว่าผมไม่เป็นไร พร้อมทำงานเสมอ ที่ไหนก็ได้ เราเป็นนักกฎหมาย เราเป็นทนายแผ่นดิน เราเป็นอัยการของประชาชน และเป็นครูกฎหมาย เราท้อไม่ได้ เราหมดกำลังใจไม่ได้ ยังมีประชาชนอีกหลายคนขอความช่วยเหลือทางกฎหมายจากผมอยู่ ศัตรูของเราคือความไม่ถูกต้อง ความไม่ชอบธรรม และความไม่ยุติธรรม ผมสัญญาว่าผมจะไม่ทรยศต่ออุดมการณ์และประชาชน 2-3 วันนี้มีความสุขมาก และภาคภูมิใจในการเป็นอัยการเป็นที่สุด ขอขอบคุณ” นายปรเมศวร์ระบุ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน