10 ปี สลาย นปช. สี่แยกคอกวัว ครอบครัวยังรอคอยความยุติธรรม
ผ่านมาครบ 10 ปีแล้ว สำหรับเหตุการณ์สลายการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือคนเสื้อแดง เมื่อวันที่ 10 เม.ย.2553
ภาพความรุนแรง เปลวไฟ กระสุนปืน นำมาซึ่งความสูญเสียเป็นจำนวนมาก มีผู้คนบาดเจ็บ และล้มตาย
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account
ย้อนกลับไป เหตุการณ์ในวันนั้นเกิดขึ้นหลังรัฐบาลอภิสิทธิ์ ตัดสินใจเข้าสลายการชุมนุม ภายใต้วาทกรรม “ขอคืนพื้นที่” จากผู้ชุมนุมที่ปักหลักที่สะพานผ่านฟ้าฯ ยาวถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนดินสอและแยกคอกวัว
ซึ่งเป้าหมายของกลุ่มคนเสื้อแดงที่มารวมตัวกันนั้นเพื่อเรียกร้องให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในขณะนั้น ยุบสภา
เหตุการณ์ในวันดังกล่าว ทำให้มีประชาชนเสียชีวิต 20 คน และ ทหารอีก 5 นาย รวมทั้ง พ.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม (ยศในขณะนั้น)
ความสูญเสียที่เกิดขึ้นในวันนั้น สร้างบาดแผลความเจ็บปวดให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตเป็นอย่างมาก
ซึ่งตลอด 10 ปีที่ผ่านมา สิ่งที่พวกเขายังเฝ้ารอ คือความยุติธรรม ที่หน่วยงานภาครัฐจะนำตัวผู้สังหารประชาชนมาลงโทษให้ได้
สุวิมล ฟุ้งกลิ่นจันทร์ แม่ของ เทิดศักดิ์ ฟุ้งกลิ่นจันทร์ ชายหนุ่มที่ถูกยิงถึง 6 นัด บริเวณสี่แยกคอกวัว ย้อนเล่าเหตุการณ์ในวันนั้นว่า วันที่ 10 เม.ย.53 ลูกชายไปทำงานครึ่งวัน แล้วเขาเห็นว่าทหารจะเข้าสลายการชุมนุมที่สี่แยกคอกวัวเขาก็เลยชวนเพื่อนไปด้วยกัน
ซึ่งวันนั้นเราก็นัดกับลูกว่า 6 โมงเย็นมาเจอกันที่ราชประสงค์ แต่ปรากฎว่ารอยังไงลูกก็ยังไม่มา ก็เลยโทรหาเขา ตอนนั้นเขายังคุยกับเราได้ ซึ่งเสียงที่ได้ยินตอนนั้นคือกำลังวุ่นวายกันอยู่ แต่จากนั้นหลัง 2 ทุ่มก็ไม่สามารถติดต่อลูกชายได้อีกเลย
แม่ผู้สูญเสีย เล่าอีกว่า แม่ก็นั่งรอลูกอยู่ที่ราชประสงค์กระทั่งตี 1 กว่าของวันที่ 11 เม.ย.53 มีเบอร์ของเขาโทรเข้ามาที่เครื่องเรา แต่เสียงที่เราได้ยินจากปลายสายนั้นไม่ใช่ลูกของเรา ซึ่งเขาโทรมาบอกว่า เวลานี้ลูกคุณถูกยิงหายใจรวยริน รักษาตัวอยู่ที่ร.พ.ราชวิถี เขาบอกว่าลูกคุณถูกยิงที่หัวใจ เนื้อหัวใจแตก เรามารู้ทีหลังว่าเขาโดนยิง 6 นัด
“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเวลาเราเล่าขึ้นมา จะมีความรู้สึกเหมือนว่ามันเพิ่งเกิดกับเรา ชีวิตคนทั้งชีวิตยิงเขานัดเดียวเขาก็ตายแล้ว ” สุวิมล เล่าอย่างสลด
แม่ผู้สูญเสีย ยังสะท้อนความในใจอีกว่า พอไม่มีเขา เราก็ใช้ชีวิตลำบากมากขึ้น เช่น เราทำมาค้าขาย พอไม่มีเขาก็ขายแบบตาแก่ยายแก่ ขายไปเรื่อยเปื่อย ใช้ชีวิตเหมือนไม่มีอนาคตอะไร ใช้ชีวิตแบบอยู่ไปวันๆ
“แม้จะผ่านมาแล้ว 10 ปี แต่ทุกวันนี้ก็ยังคิดถึงลูก บอกตรงๆว่าคิดถึงลูก เรายังคิดถึงลูก มันทรมานนะ เมื่อถึงวันครบรอบที่เสียเขาไป พอถึงวันที่ที่เขาจากไป เราจะมีความรู้สึกเลยว่า ถึงแล้วหรอ อีกปีนึงแล้วหรอ ซึ่งคดีความก็ยังไม่ไปไหน เราก็ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร”
ทั้งนี้ เนื่องในวันครบรอบ 10 ปี สุวิมล พร้อมครอบครัวฟุ้งกลิ่นจันทร์ ได้ไปทำบุญให้ลูกชายที่เสียชีวิต ที่วัดเกิดการอุดม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
เช่นเดียวกับ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. และ แกนนำคนเสื้อแดง ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความ ทำบุญใส่บาตรข้าวสารอาหารแห้ง อุทิศส่วนกุศลแด่ดวงวิญญาณของประชาชนและเจ้าหน้าที่ผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ เมษา – พฤษภา 53 ขอทุกดวงวิญญาณสุข สงบ ในสัมปรายภพ
อย่างไรก็ดี แม้จะผ่านมา 10 ปี แต่ทั้งคนทำ และคนสั่งการให้เกิดเหตุในวันดังกล่าวยังไม่มีใครถูกลงโทษแม้แต่คนเดียว ถึงแม้ว่าศาลจะมีคำตัดสินในบางส่วนแล้วว่า ผู้ชุมนุมส่วนหนึ่ง เสียชีวิตจากกระสุนของทหารก็ตาม
