ทวีหวั่น”บิ๊กตู่”หลงทิศผิดทาง ชี้มหาเศรษฐีไทยร่วมทำงานประชารัฐ 5 ปี ได้สัมปทานผูกขาดหลายคน

วันที่ 17 เม.ย. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ เปิดเผยหลังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม เตรียมทำจดหมายเปิดผนึกเพื่อขอความช่วยเหลือจาก 20 มหาเศรษฐีเมืองไทย

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

พ.ต.อ.ทวี ระบุเรื่องนี้ ว่า นายกรัฐมนตรีควรอุทิศเวลาให้กับประชาชนที่เดือดร้อนระทมและแก้ปัญหา ‘รวยเป็นจุดจนกระจาย”

นายกรัฐมนตรี จะเชิญมหาเศรษฐี 20 อันดับของไทยหารือ ได้เห็นความตั้งใจ แต่อดเป็นห่วงว่าจะทำให้ท่านหลงทิศผิดทางไป เนื่องจากมหาเศรษฐีของไทย ปรากฎว่าร่วมเป็นคณะทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ มาตลอด 5 ปี ในรูป ‘ประชารัฐ’ และเมื่อพิจารณาความร่ำรวยส่วนใหญ่ได้สัมปทานผูกขาดทำธุรกิจจากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ หลายคน

อาจกล่าวได้ว่าความเหลื่อมล้ำส่วนหนึ่งมหาเศรษฐีของไทยได้เป็นเงื่อนไขด้วย เป็นระบบทุนนิยมที่รัฐหนุนและกลุ่มทุนได้ผูกขาดธุรกิจหรือฉวยเอาผลประโยชน์ทำให้ประเทศไทยมีกลุ่มคนที่มั่งคั่ง ร่ำรวยอยู่เพียงไม่กี่คนแต่ครองทรัพย์สินส่วนใหญ่ของประเทศไป เรียกว่า “รวยเพียงจุดแต่จนกระจาย”

ความจริงอยากให้นายกรัฐมนตรีอุทิศเวลาฟังเสียงและสัมผัสกับประชาชนที่เดือดร้อนทุกข์ยากทั่วประเทศ ผู้ด้อยโอกาส มีฐานะยากจน และได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิดกับที่เกิดจากมาตรการรัฐบาลให้หยุด “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” ที่มีผู้ได้รับผลกระทบมากกว่า 30 ล้านคน

ประชาชนเหล่านี้จะเป็นผู้ยืนยัน “ความเป็นจริงทางสังคม” เป็นประโยชน์ต่อนายกรัฐมนตรีจะได้นำปัญหา และความเดือดร้อนไปแก้ไขได้ถูกจุด ซึ่งการฟังเสียงมหาเศรษฐีท่านต้องฟังอย่างระมัดระวังด้วย

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง

ประการสำคัญน่าใช้วิกฤตโควิด 19 ให้เป็นโอกาส โดยเฉพาะทำการปฏิรูปเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และความมั่นคงจะเป็นประโยชน์ยิ่งกว่า ส่วนตัวเห็นว่าต้องปฏิรูปประเทศเพื่อยุติปัญหาของประเทศ อาทิ

1 ยุติปัญหาความเหลื่อมล้ำและความยากจน ต้องกล้าที่จะปฏิรูประบบเศรษฐกิจ ขจัดสัมปทานการผูกขาด ผสมผสาน ระบบทุนนิยมหรือเสรีนิยม+ระบบรัฐสวัสดิการ+ระบบฐานคุณธรรม+ระบบเศรษฐกิจทางเลือกและนวัตกรรม มาสร้างรูปแบบเศรษฐกิจเป้าคือขจัดความเหลื่อมล้ำและยากจนด้วย

2. ยุติเรื่อคนไม่ที่ดินทำกินและไม่มีที่อยู่อาศัยต้องโดยปฏิรูปที่ดิน ป่าไม้และทรัพยากรสิ่งแวดล้อมใหม่ ต้องปฏิรูปให้เกษตรมีที่ดินเป็นของตนเอง คนไม่มีที่อาศัยมีที่อยู่ จะสามารถแก้ปัญหาการว่างงานได้ เพราะประชาชนจะเป็นผู้สร้างงานเอง

3.ยุติรัฐรวมศูนย์โดยกระจายอำนาจ และงบประมาณให้จังหวัด และท้องถิ่นมีอำนาจในการกำหนด การพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ประเพณี ศาสนา เกษตรกรรม การคมนาคมภายใน และภาษีท้องถิ่น ตามรูปแบบที่ท้องถิ่นต้องการ ที่ผู้นำท้องถิ่นมาจากการเลือกตั้ง อำนาจที่เป็นของรัฐบาลส่วนกลางที่ไม่มอบอำนาจ คือ ด้านการต่างประเทศ การป้องกันประเทศ ความมั่นคงและทหาร ตุลาการ การคลัง จะต้องเป็นอำนาจของส่วนกลาง

4. ปฏิรูประบบราชการ ทหาร และกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะระบบการการต้องเปลี่ยนจาก รัฐรวมศูนย์ เป็นระบบราชการที่ยึดโยงกับประชาชนมากขึ้น ปฏิรูปทหาร ต้องแยกออกจากการเมือง ทำหน้าที่ป้องกันประเทศ ปกป้องประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และงานด้านความมั่นคงของประเทศ ส่วนของกระบวนการยุติธรรมและศาล ต้องให้ธำรงค์ไว้ถึงหลักนิติธรรมประชาชนสามารถเข้าถึงได้ง่าย และนำเนคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือ AI มาใช้ในงานด้านกฎหมาย เช่นการทำสัญญา หรือการยกเลิกกฎหมายที่ขัดกับหลักยิติธรรม รวมถึงใช้ในการตัดสินคดีบางประเภทแทนศาล เป็นต้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน