เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 15 มิ.ย. ที่พรรคเพื่อไทย นายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แถลงข่าวกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดกรณีทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทรว่า มองว่าเป็นเรื่องการเมืองที่มักเกิดขึ้นในช่วงที่เราวิจารณ์รัฐบาลอย่างหนัก เป็นความพยายามของผู้มีอำนาจที่จะใช้คดีมาบีบเราเพื่อให้หยุดวิจารณ์ ทั้งที่การวิจารณ์เป็นหน้าที่และเสรีภาพที่ทำได้

ส่วนเรื่องคดีให้ว่าไปตามกระบวนการยุติธรรมอย่านำมาปนกัน ที่ผ่านมาตนมักถูกผู้มีอำนาจนำคดีของ ป.ป.ช.มาข่มขู่หลายครั้ง แต่ยืนยันไม่ว่าจะมีแรงกดดันหรือบีบคั้นอะไร ก็ยังจะวิพากษ์วิจารณ์ไปตามปกติ สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เห็นว่ามีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม คงเป็นใบสั่งให้เร่งคดีเพื่อนำมาปิดปากตน

ส่วนแนวทางการต่อสู้คดีก็จะวางแนวทางการต่อสู้ไปตามปกติ อะไรที่ถูกต้องก็ทำกันไป ตนไปแทรกแซงไม่ได้ แต่เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้เห็นว่านักการเมืองที่มาจากประชาชนตรวจสอบได้เสมอ ไม่เหมือนเทวดาทั้งหลายที่ออกกฎหมายนิรโทษตัวเองและไม่ถูกดำเนินคดี แต่อีกฝั่งจะถูกดำเนินคดีเสมอ ฉะนั้นกระบวนการปรองดองที่เดินกันอยู่ก็คงไกลเกินฝัน

“เรื่องคดีก็ให้ว่ากันไป ซึ่งคนของพรรคนี้ถ้ามีคดีก็คงเป็นเรื่องปกติ แต่ที่น่าสังเกตคือเรื่องนี้ใช้ระยะเวลามานานพอสมควร ถ้ามีช่องทางก็คงถูกดำเนินคดีไปแล้ว นี่ 10 กว่าปีแต่จะถูกเร่งในช่วงที่รัฐบาลถูกวิจารณ์หนักเสมอ และเรื่องนี้ผมยังไม่เคยถูกป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหามา ทั้งที่กระบวนการปกติเมื่อไต่สวนแล้วมีมูล ก็ต้องเรียกไปชี้แจงข้อกล่าวหา แต่ยังไม่เคยได้รับ มาทราบจากสื่อว่าเรื่องส่งถึงอัยการแล้ว ที่รีบส่งไปเงียบๆ เพราะกลัวผมไปร้องขอความเป็นธรรมหรือไม่ ที่ผ่านมาผมยังไม่เคยชี้แจงเรื่องนี้กับ ป.ป.ช.อะไรทั้งสิ้น ผมโดนมาหลายคดี ก็สู้กันไปทั้ง พ.ร.บ.คอมพ์ฯ เรื่องของศาลทหาร ก็เป็นเรื่องที่เกิดจากกระบวนการรัฐประหารทั้งสิ้น หนักที่สุดคือส่งคนไปชกผม ผมก็จะไม่หยุดวิจารณ์ เรื่องเดียวที่จะทำให้ผมหยุดวิจารณ์รัฐบาลได้ คือรัฐบาลต้องทำให้ดีและงาม เพราะถ้ารัฐบาลทำดีแล้วผมไปวิจารณ์ ผมก็จะเสียหายเอง” นายวัฒนา กล่าวและว่า ขอฝากให้รัฐบาลหันมาสนใจประชาชนมากกว่าที่จะนำเงินไปซื้อรถถังหรือยานเกราะ อย่ามาสร้างประเด็นแบบนี้ เพราะไม่เกิดประโยชน์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน