ดีเอสไอเห็นแย้งอัยการ เห็นสมควรอุทธรณ์ คดีพานทองแท้ ชินวัตร ฟอกเงินแบงก์กรุงไทย เนื่องจากมีข้อสงสัยว่าพานท้องแท้มีเจตนาพิเศษ พร้อมให้อัยการสูงสุดพิจารณา

เมื่อวันที่ 26 เม.ย. รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 24 เม.ย. นพ.ไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ รองอธิบดีดีเอสไอ รักษาการอธิบดีดีเอสไอ มีความเห็นโต้แย้งคำสั่งไม่อุทธรณ์คดีดังกล่าวของพนักงานอัยการ และให้ส่งความเห็นโต้แย้งให้นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด พิจารณา

ทั้งนี้ในส่วนความเห็นโต้แย้งนั้น คณะทำงานความเห็นแย้งของดีเอสไอพิจารณายืนยันเรื่องเจตนาพิเศษตามกม.ฟอกเงิน มาตรา 5 จากความเห็นในชั้นของพนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการ ที่เห็นควรสั่งฟ้อง นอกจากนี้ยังมีความเห็นของผู้พิพากษาที่พิจารณาในเรื่องเจตนาพิเศษว่า นายพานทองแท้ รับรู้หรือไม่ และเงินดังกล่าวเป็นเงินที่ได้มาจากความผิดมูลฐานตามกฎหมายฟอกเงิน ซึ่งมีความเห็นเป็น 2 ลักษณะ ดังนั้นดีเอสไอจึงเห็นว่าควรนำคดีเข้าสู่การพิจารณาของศาลสูง เป็นผู้ชี้ขาด

สำหรับคดีนี้ สำนักงาน ปปง. มีหนังสือกล่าวโทษต่อดีเอสไอ ให้ดำเนินคดีอาญากับนางเกศนี จิปิภพ, นางกาญจนาภา หงษ์เหิน, นายวันชัย หงษ์เหิน และนายพานทองแท้ ชินวัตร รวม 4 คน ในความผิดฐาน สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป ร่วมกันฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้สมคบกัน โดยรับเป็นคดีพิเศษที่ 25/2560 โดยทางคดีทำการสอบสวนเสร็จสิ้นและส่งสำนวนการสอบสวนไปยังพนักงานอัยการ เมื่อวันที่ 26 ก.ค.61

ต่อมาพนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษได้ยื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เมื่อวันที่ 25 พ.ย.62 ซึ่งศาลมีคำพิพากษายกฟ้อง จากนั้น พนักงานอัยการ ในฐานะโจทก์ ได้ขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์คำพิพากษา จำนวน 5 ครั้ง

ประกอบด้วย ครั้งที่ 1 ศาลอนุญาตถึงวันที่ 19 ธ.ค.62 ครั้งที่ 2 ศาลอนุญาตถึงวันที่ 25 ก.พ.63 ครั้งที่ 3 ศาลอนุญาตถึงวันที่ 25 มี.ค.63 โดยระหว่างนี้พนักงานอัยการมีคำสั่งไม่อุทธรณ์เมื่อวันที่ 19 มี.ค.63 และส่งสำนวนให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมความเห็นไม่อุทธรณ์คำพิพากษามายังอธิบดีดีเอสไอเมื่อวันที่ 26 มี.ค.63 เพื่อพิจารณาว่าจะมีความเห็นแย้งหรือไม่

ตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 มาตรา 34 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 145 ซึ่งพนักงานอัยการได้ขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์คำพิพากษา เป็นครั้งที่ 4 ศาลอนุญาตถึงวันที่ 25 เม.ย.63 ต่อมาดีเอสไอ ได้ทำหนังสือแจ้งอัยการคดีพิเศษ เพื่อขอให้ขยายเวลาอุทธรณ์คำพิพากษาออกไป เนื่องจากการพิจารณาความเห็นโต้แย้งหรือไม่ยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งศาลอนุญาตให้ขยายระยะเวลาอุทธรณ์ให้เป็นครั้งที่ 5 ถึงวันที่ 25 พ.ค. 63

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน