‘วิษณุ’ ชี้มาตรการผ่อนปรน ต้องทบทวนและดูกันทุกวัน โดยลองเปิดดูก่อนเพื่อประเมิน ถ้าเปิดแล้วมีติด-ตายกันเยอะ อีกวันสั่งปิดทันที

เมื่อวันที่ 1 พ.ค. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมถึงแนวทางปฏิบัติตามประกาศข้อกำหนดให้จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้โดยห้ามนั่งในร้าน ว่า หากมีร้านฝ่าฝืน เจ้าพนักงานและเจ้าหน้าที่มีคำสั่งปิดร้านนั้นได้ ซึ่งคำสั่งนี้เป็นมาตรฐานกลางที่ใช้กันทั่วประเทศ เช่น ร้านอาหารเปิดพร้อมกันทั่วประเทศ แต่คำแนะนำหมายถึงในส่วนของกรุงเทพมหานคร ถ้าไม่มีการเว้นระยะห่าง เจ้าหน้าที่ต้องเข้าไปเตือน ถ้าปฏิบัติตามก็จบ แต่ถ้าไม่ปฏิบัติตามก็ปิดเฉพาะร้านนั้นร้านเดียว ซึ่งเวลาเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจนั้น เขาต้องดูสภาพหลายอย่างประกอบกัน ให้เป็นดุลยพินิจของพนักงานเจ้าหน้าที่

ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อมีมาตรฐานกลางแล้ว แต่ละจังหวัดสามารถออกระเบียบข้อบังคับ ที่ละเอียดปลีกย่อยได้เองอีกหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ทำได้สองอย่างคือ 1.อาจจะออกรายละเอียดก็ได้ 2.อนุโลมตามคำแนะนำกลางที่ได้ออกมา โดยนายกรัฐมนตรีลงนาม

ผู้สื่อข่าวถามว่าร้านที่สามารถจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้หมายถึงร้านค้าปลีก หรือร้านสะดวกซื้อ นายวิษณุ กล่าวว่า ร้านทุกชนิด 1.สุราที่ขนขึ้นรถปิกอัพไปส่งตามร้านค้าย่อยค้าปลีกทำได้ ค้าขายได้ เพราะไม่ได้ผิดกฎหมายในตัวมันเอง 2.เมื่อนำไปส่งตามเอเย่นต์แล้วเปิดขาย ก็ขายได้ซื้อได้ โดยนำกลับไปกินที่บ้าน ร้านอาหารเองก็สามารถจำหน่ายได้ ถ้าผู้ซื้อซื้อกลับไปบ้านแต่บริโภคในร้านไม่ได้ แต่สำหรับสถานบริการผับบาร์ ยังมีคำสั่งปิดอยู่ โดยในข้อกำหนดฉบับที่ห้า ข้อ 2 (6) ระบุว่าให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้ว่าราชการจังหวัด ออกคำสั่งปิดผับบาร์สถานบันเทิง ซึ่งต้องปฏิบัติ ไม่ปฏิบัติไม่ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ข้อกำหนดต่างๆที่ออกมานี้ เพื่อให้ธุรกิจเดินได้มากที่สุดใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ถูกต้อง แต่มีเงื่อนไขว่าจะต้องมีการทบทวนและดูกันทุกวัน เพราะฉะนั้นเราต้องดูการเปิดระยะที่หนึ่งนี้ ก่อนที่จะดูระยะที่สอง ลองเปิดดูก่อนแล้วเพื่อประเมิน เช่น พื้นที่สีขาวถ้าเปิดแล้วไปไม่รอด ก็อาจไปปิดในระยะที่สองได้ ถ้าจะปิดหรือเปิดก็ต้องออกข้อกำหนดฉบับใหม่มาอีกเป็นฉบับที่ 7 ก็ดูกันใน 7 วัน 14 วัน ถ้า 7 วันมีติดเชื้อหรือตายกันเยอะ ก็คงต้องถูกปิดเลยในวันที่แปด

เมื่อถามถึงคำสั่งนายกรัฐมนตรี เรื่อง การแต่งตั้งที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจและสังคม นายวิษณุ กล่าวว่า เป็นไอเดียของนายกรัฐมนตรี เหมือนที่ได้ตั้งทีมแพทย์ อาจารย์แพทย์ ทีมเศรษฐกิจภาคธุรกิจ ผู้ที่มีอาวุโสในสังคมมาแล้ว ก็ถึงการรับฟังความคิดเห็นจากนักวิชาการอีกวงหนึ่ง จึงเป็นที่มาของการตั้งคณะนี้เพื่อเชิญมาหารือ รับข้อเสนอแนะ ในเรื่องของการเมื่อเราจะฟื้นหรือเราจะรีสตาร์ท จะนิวนอร์มอล เป็นการรับฟังความคิดเห็น จากแวดวงวิชาการที่มีประสบการณ์ในทางปฏิบัติ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน