“พิชัย” ชี้ คดีกบต้ม เป็นหลักฐานว่า “บิ๊กตู่” ไม่ฟังคำเตือเรื่องเศรษฐกิจ แนะหากไม่รู้ อย่าอวดรู้ อย่าสอนใคร สับ “สมคิด” ได้แต่โกหกประชาชนไปเรื่อยๆ

เมื่อวันที่ 16 พ.ค. นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว. พลังงาน กล่าวว่า วันนี้ได้รับหนังสือที่ ตช 0026(12)3/1177 ลงวันที่ 12 พ.ค.63 จากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.)

ในฐานะผู้ต้องหาในคดี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยแจ้งให้นำพยานมาสืบเพิ่มเติม หลังจากครั้งที่แล้วที่นำพยานคือ นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รมว.คลังเข้าให้ปากคำแล้ว และตนได้มอบหมายให้นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่แล้ว ทั้งนี้ ตนอยากให้ประชาชนได้เห็นว่าคดีกบต้มเป็นหลักฐานอย่างชัดเจน

ว่าตนได้เตือนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ มาตลอดว่ารัฐบาลบริหารงานทางเศรษฐกิจผิดพลาด แล้วจะทำให้ประชาชนค่อยๆ เดือนร้อนจนถึงเดือดร้อนกันอย่างหนัก เหมือนในทฤษฎีกบต้มของต่างประเทศที่มีอยู่จริง

นอกจาก พล.อ.ประยุทธ์จะไม่รับฟังแล้วยังส่งคนใน คสช.มาดำเนินคดีกับตนเหมือนเป็นการกลั่นแกล้งใช่หรือไม่ ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยย่ำแย่ทรุดตัวลงมาตลอดหลังการปฏิวัติ ตั้งแต่ก่อนมีการระบาดของไวรัสโควิด-19 เศรษฐกิจไทยก็ย่ำแย่อยู่แล้ว ขยายตัวได้เพียง 1.6% เท่านั้น

พอมีวิกฤตไวรัสซึ่งเปรียบเสมือนเป็นการเร่งไฟให้กับหม้อต้มกบ ทำให้เศรษฐกิจไทยถดถอยและติดลบหนักในปีนี้ ธุรกิจจะล้มละลายปิดตัวกันจำนวนมาก การว่างงานเพิ่มขึ้นสูง คาดกันว่าจะมีคนตกงานกันถึง 7-10 ล้านคน รัฐบาลน่าจะต้องสำนึกได้แล้ว แทนที่จะมาดำเนินคดีกับตน

นายพิชัย กล่าวต่อว่า ในสภาวะเศรษฐกิจที่ทรุดหนักและจะทรุดหนักลงอีกเรื่อยๆนี้ พล.อ.ประยุทธ์จะต้องเปิดใจรับฟังความเห็นทางเศรษฐกิจทุกด้าน อย่าอวดอ้างว่ามีความรู้ทางเศรษฐกิจดี ทั้งที่ไม่เคยแสดงว่ามีความรู้เลย อีกทั้งยังให้ความเห็นทางเศรษฐกิจผิดพลาดมาโดยตลอด ล่าสุดบอกว่าให้คนไทยดูตัวอย่างประเทศที่ทำงานเพียง 6 เดือนแต่อยู่ได้ทั้งปี

โดยที่ไม่ได้ศึกษาเลยว่าประเทศเหล่านั้นเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว รายได้ของประชากรของเขาสูงกว่าของคนไทยหลายเท่า ทั้งนี้ รัฐบาลของประเทศเขาฉลาด เก่ง มีความสามารถในการพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า สามารถให้การศึกษาที่ดีแก่ประชาชน สร้างงานที่สร้างรายได้สูงให้กับประชาชนได้ ต่างกันลิบลับกับของประเทศไทยที่ตลอด 5 ปี รัฐบาลบริหารเศรษฐกิจไทยได้อย่างย่ำแย่

เศรษฐกิจขยายตัวได้ต่ำเตี้ย รัฐบาลนอกจากไม่สร้างงานที่มีรายได้สูงแล้ว ยังทำประชาชนตกงานและอดอยาก ต้องฆ่าตัวตายกันมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย หากผู้นำของประเทศยังมีกรอบคิดที่แคบแบบนี้ ไม่มีทางเลยที่ประเทศไทยจะพัฒนาได้ ไม่มีทางเลยที่คนไทยจะสามารถทำงาน 6 เดือนแล้วอยู่ได้ทั้งปีเหมือนประเทศอื่น นอกจาก 250 ส.ว.ที่ พล.อ.ประยุทธ์แต่งตั้งมาเพื่อกินเงินเดือนสูงๆ แต่ไม่ได้ทำประโยชน์อะไรเท่านั้น

นายพิชัย กล่าวอีกว่า ตามที่ตนได้เตือนการใช้เงินกู้ 400,000 ล้านบาทไว้แล้ว แต่กลับมีแนวทางที่สะเปะสะปะ ไม่มีแผนงานที่ชัดเจน นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ประกาศว่าจะใช้เงินเพื่อให้ประชาชนเข้าสู่ภาคเกษตรมากขึ้น ซึ่งเป็นแผนงานทึ่ย้อนยุค

แทนที่จะย้ายคนจากออกจากภาคเกษตรที่มีรายได้ต่ำ มาสู่ภาคบริการที่มีรายได้สูงกว่า อีกทั้งเกษตรแบบไหนถึงจะรับคนที่จะตกงานได้หลายล้านคนซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ แล้วเอสเคอร์ฟในกลุ่มธุรกิจต่างๆ ที่นายสมคิดเคยเสนอเพื่อการพัฒนาประเทศหายไปไหน คงไม่ต่างจากที่ นายวีรพงษ์ รามางกูร อดีตรองนายกฯ วิจารณ์ว่านายสมคิดได้แต่โกหกประชาชนไปเรื่อยๆ

และอาจจะให้ข้อมูลที่บิดเบือนกับ พล.อ.ประยุทธ์ด้วย อีกทั้งยังมีการประกาศว่าจะใช้เงินเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวในเชิงคุณภาพ ซึ่งก็เป็นแนวทางเดิมของประเทศอยู่แล้ว ไม่ใช่แนวทางใหม่ เห็นได้ว่ารัฐบาลไม่มีแนวทางที่จะฟื้นเศรษฐกิจอย่างชัดเจน ไม่ยอมฟังเสียงท้วงติง พอโดนประชาชนด่ากันมากๆ ถึงจะคิดแก้ไข จะยิ่งทำให้เศรษฐกิจไทยมีปัญหาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนประชาชนจะทนกันไม่ไหวอย่างแน่นอน


 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน