“ยิ่งลักษณ์”เปิดบ้านขอบคุณแฟนเพจเป็นกำลังใจให้กัน-ไลก์ครบ 6 ล้าน ด้านอดีตนายกฯ สมชายยกให้เป็นหญิงเหล็ก พร้อมต่อสู้คดีจำนำข้าว กรธ.เล็งเชิญพรรคการเมือง-กกต.หารือผ่าทางตันไพรมารี่โหวตภายในสัปดาห์นี้ หวั่นนำไปปฏิบัติจริงแล้วสะดุด ส่วน “มาร์ค” ร่อนจ.ม.เปิดผนึกถึงกรธ. แจงยิบปัญหาไพรมารี่โหวต ด้านจาตุรนต์ก็จวกยับเป็นต้นเหตุทำพรรคขัดแย้ง ระบบรัฐสภาทำงานไม่ได้ เป็นการวางหมากของผู้มีอำนาจปัจจุบัน สนช.ยันกม.ยุทธศาสตร์ชาติ-แผนปฏิรูปทำถูกทุกขั้นตอน เวทีแก้คอร์รัปชั่นเตือนรัฐบาลอย่าใช้มาตรา 44 พร่ำเพรื่อ หวั่นเปิดช่องทุจริต โพลเผยคนอยากเห็นปชป.-พท.จูบปากร่วมตั้งรัฐบาล แต่เชื่อว่าเป็นไปได้ยาก ตำรวจรวบตัว “รังสิมันต์ โรม” คางาน 85 ปี 24 มิถุนา จ่านิวระบุสกัดลุยทำเนียบ ยื่นค้านรถไฟไทย-จีน

กรธ.ขอเวลาผ่าทางตันไพรมารี่

เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. นายชาติชาย ณ เชียงใหม่ คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงกรณีพรรคการเมืองออกมาท้วงติงร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการ เมือง โดยเฉพาะประเด็นไพรมารี่โหวตว่า หลังจาก กรธ.ได้เชิญตัวแทนจากคณะกรรม การการเลือกตั้ง (กกต.) มาหารือและเขายืนยันว่าทำตามแนวทางที่ สนช.กำหนดได้ แต่ กรธ.เองยังไม่ค่อยมั่นใจและหวั่นว่าตอนปฏิบัติจริงจะทำได้หรือไม่ และหากมีปัญหาจะมีทางแก้ไขอย่างไร ดังนั้น กรธ.จึงต้องปรึกษากันอีก 3-4 วัน เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด รวมทั้งต้องรับฟังจากทาง กกต.และพรรคการเมืองอีกครั้งว่ามีปัญหาอะไรบ้างและจะมีทางออกอย่างไร

“ในหลักการของไพรมารี่โหวต กรธ.เห็นด้วยเพราะจะทำให้พรรคการเมืองเข้มแข็ง แต่จะทำอย่างไรให้นำไปปฏิบัติได้ เราไม่ใช่ผู้ปฏิบัติแต่เป็นผู้ออกกฎหมาย หากทำไปแล้วเกิดปัญหาตามมาก็จะถูกครหาเป็นจำเลยสังคมและโดนประชาชนด่า ตอนนี้เรายัง ไม่ได้ข้อสรุปว่าจะส่งความเห็นแย้งหรือไม่ คงต้องคุยกันอย่างละเอียดในสัปดาห์นี้อีกครั้งก่อน” นายชาติชายกล่าว

โสภณหนุนกม.พรรคการเมือง

นายโสภณ เพชรสว่าง อดีตรองประธานสภาผู้แนราษฎร กล่าวถึงพ.ร.บ.ว่าด้วยพรรคการเมืองว่า การบัญญัติให้สาขาพรรคหรือตัวแทนพรรคประจำจังหวัดและสมาชิกพรรคมีส่วนร่วมกำหนดนโยบายพรรค ข้อบังคับพรรค การเลือกผู้สมัครส.ส.เขตเลือกตั้งและบัญชีรายชื่อ รวมถึงการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคและผู้ดำรงตำแหน่งการเมือง ซึ่งเป็นการให้ประชาชนมีส่วนร่วมบริหารพรรค นี่คือการปฏิรูปพรรคการเมือง ซึ่งตนเห็นด้วย และขอเสนอว่าใน 5 ปีแรก ไม่ควรให้สมาชิกเสียค่าบำรุงพรรค เพราะประชาชนยังไม่ทราบว่าเป็นสมาชิกพรรคแล้ว ส่วนตัวได้อะไร ประเทศชาติได้อะไร รัฐบาลต้องประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึงประโยชน์ของพรรคการเมือง ประโยชน์ของสมาชิกพรรค เมื่อประชาชนเข้าใจดีแล้วจึงให้เสียค่าบำรุงสมาชิกพรรค

มาร์คยื่นกรธ.-ท้วงไพรมารี่โหวต

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงกรธ. เพี่อประกอบการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยพรรคการเมือง ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนที่ส่งให้ กรธ.พิจารณาว่าสมควรตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ร่วมขึ้นมาพิจารณาทบทวนร่างกฎหมายดังกล่าวหรือไม่ โดยนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ เรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีประสบการณ์ในเรื่องดังกล่าวให้ข้อมูลและความคิดเห็นที่จะเป็นประโยชน์ในการจัดทำกฎหมายฉบับดังกล่าว

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ระบบไพรมารี่โหวตถือเป็นเจตนาดีของผู้ร่างกฎหมาย แต่หากศึกษาจากประสบการณ์ของประเทศที่ใช้การเมืองการปกครองในระบบรัฐสภา จะพบว่าการใช้กลไกดังกล่าวมีอยู่ค่อนข้างจำกัด ด้วยเหตุผลที่สำคัญ 2 ประการ คือ 1.ความไม่แน่นอนของการมีการเลือกตั้งทั่วไปหรือการเลือกตั้งซ่อม ซึ่งต้องจัดขึ้นภายในระยะเวลาค่อนข้างสั้น ทำให้ความพร้อมในการจัดการลงคะแนนเสียงเบื้องต้น ซึ่งต้องมีกระบวนการจัดการและการเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายตั้งแต่ ผู้สมัครจนถึงผู้เลือกตั้งมีข้อจำกัดอย่างมาก

ย้ำสวนทางกับเจตนารมณ์

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า 2.กลไกการทำงานของระบบรัฐสภา ต้องอาศัยพรรคการเมืองเป็นสถาบันรวบรวมผู้มีความคิดเห็นหรืออุดมการณ์ที่คล้ายคลึงในสภาผู้แทนราษฎรอย่างเป็นระบบ ฉะนั้นการกำหนดบทบัญญัติในกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องนี้ จึงต้องคำนึงถึงโครงสร้างของการปกครองไทยในภาพรวมด้วย และแนวทางที่เหมาะสมในการจัดให้มีการลงคะแนนเสียงเบื้องต้น เพื่อคัดเลือก ผู้สมัครตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ

นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า ขอย้ำว่าหากจะบังคับพรรคให้ดำเนินการตามกฎหมายพรรคการเมืองต่างๆ ก็ทำได้ แต่ที่ท้วงติงทั้งหมดเพราะสภาพปัจจุบันและกฎหมายยังไม่เอื้ออำนวยให้การดำเนินการตามกฎหมายบรรลุตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญและของผู้ร่างกฎหมายได้อย่างแท้จริง เนื่องจากบทบัญญัติตามกฎหมายพรรคการเมืองในขณะนี้กำลังมีการปิดกั้นพรรค แม้จะมีผู้พร้อมจะสนับสนุนลงคะแนนให้ในเขตเลือกตั้ง แต่ไม่สามารถจัดตั้งสาขาพรรคหรือแต่งตั้งตัวแทนพรรคประจำจังหวัดมิให้ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งได้ จึงสวนทางกับเจตนารมณ์

“องอาจ”เชื่อเลือกตั้งตามโรดแม็ป

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. ยืนยันไม่สืบทอดอำนาจ ไม่เลื่อนการเลือกตั้งว่า เมื่อนายกฯ มีความชัดเจนก็ทำให้เห็นทิศทางของประเทศแจ่มชัดขึ้น ตนยังมั่นใจว่าทุกอย่างยังเดินหน้าตามโรดแม็ป และมีการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ สิ่งที่อยากฝากไปยัง คสช.และผู้มีอำนาจในบ้านเมือง คือทำอย่างไรให้การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นเป็นไปโดยสุจริต และเที่ยงธรรม ปราศจากซื้อสิทธิ์ขายเสียง และไม่ปล่อยให้มีการใช้อำนาจเข้ามาช่วยเหลือบุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือพรรคใดพรรคหนึ่งให้ได้เปรียบในการเลือกตั้ง ถึงแม้พ.ร.บ.ว่าด้วย กกต.จะได้รับการออกแบบให้มีความเข้มข้นมากกว่าเดิม เพื่อทำให้การเลือกตั้งสุจริต แต่เราคงหวังพึ่งกฎหมายเพียงอย่างเดียวย่อมไม่เพียงพอ

นายองอาจกล่าวว่า คสช. และผู้มีอำนาจรัฐควรใช้เวลาที่เหลืออยู่อีกปีครึ่ง รณรงค์สร้างความเข้าใจให้เห็นถึงพิษภัยของการเลือกตั้งที่ไม่สุจริตและเที่ยงธรรม ว่าทำให้บ้านเมืองเสียหายอย่างไร เพื่อให้การเลือกตั้งครั้งต่อไปประชาชนจะได้ช่วยกลั่นกรองนักการเมืองที่ดี มีคุณภาพเข้ามาบริหารประเทศมากกว่านักการเมืองที่เข้ามาโกงกินและใช้อำนาจเพื่อแสวงหาประโยชน์ให้ตนเองและพวกพ้องอย่างที่เป็นมาหลายครั้งในอดีต เชื่อมั่นว่าถ้าทุกฝ่ายช่วยกันทำให้การเลือกตั้งสุจริต และเที่ยงธรรม จะเป็นพื้นฐานที่สำคัญไม่ทำให้การเมืองไทยอยู่ในวงจรอุบาทว์อีกต่อไป

สนช.เมินปชป.ขู่ร้องศาลรธน.

นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนที่สอง กล่าวถึงพรรคประชาธิปัตย์เตรียมยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยร่างพ.ร.บ.การจัดทำยุทธศาสตร์ชาติและร่างพ.ร.บ.แผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศ อาจขัดมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ว่า สนช.ไม่ได้กังวลกับเรื่องนี้ เราทำตามมาตรา 77 และขั้นตอนการออกกฎหมายทุกประการ เราระมัดระวังอยู่แล้ว และตอนที่รัฐบาลส่งร่างพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวมาให้ สนช.เขาแนบเอกสารรับฟังความเห็นมาด้วย สนช.มีกระบวนการออกกฎหมายที่ชัดเจนตามรัฐธรรมนูญ และรับฟังความเห็นของประชาชนในทุกช่องทาง มั่นใจว่าไม่น่าจะมีปัญหาและขัดรัฐธรรมนูญแน่นอน ส่วนที่เขากังวลว่าร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้จะเป็นการมัดมือชกกับรัฐบาลใหม่ ตนเห็นว่าร่างพ.ร.บ.นี้มีหลักการและ วิธีการที่ชัดเจน และหากรัฐบาลใหม่ไม่ทำตาม ก็มีทางออกกำหนดไว้อยู่แล้ว

อ๋อยจวกไพรมารี่-ทำพรรคแตกแยก

นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกฯ และแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงระบบไพรมารี่โหวตในร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยพรรคการ เมืองว่า จะทำให้เกิดความแตกแยกกันภายในพรรค และทำให้พรรคใหม่เกิดยากขึ้น ส่วนพรรคใหญ่จะเกิดความขัดแย้งในพรรคสูง นอกจากนี้ในพ.ร.บ.ดังกล่าวยังกำหนดเงื่อนไขทำให้การเสนอนโยบายต่างๆ ได้ยากมาก ส่วนร่างพ.ร.บ.ยุทธศาสตร์ชาติและร่างพ.ร.บ.แผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศ ปัญหาใหญ่คือการที่กำหนดให้มีผลต่อเนื่องไป 20 ปีซึ่งอันตรายต่อประเทศมาก แม้จะกำหนดให้มีการแก้ไขปรับปรุงได้ทุก 5 ปี แต่การจะแก้ไขต้องทำโดย 2 สภา ซึ่งวุฒิสภามีอำนาจมากกว่ารัฐสภา จึงเป็นปัญหาต่อประเทศในระยะยาว

นายจาตุรนต์กล่าวว่า ทั้ง 3 ฉบับดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือทำให้ระบบรัฐสภาไม่สามารถทำงานต่อไปได้ และยังทำให้พรรคการเมืองอ่อนแอ ไม่สามารถนำเสนอนโยบายที่เป็นประโยชน์กับประชาชนได้ ต่อไปการบริหารประเทศตามที่กำหนดยุทธศาสตร์ต่างๆ จะอยู่ภายใต้การบริหารของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ถือเป็นการวางหมากไว้อย่างเป็นระบบตั้งแต่ต้น ทั้งรัฐธรรมนูญ กฎหมายลูก ยุทธศาสตร์ชาติและแผนปฏิรูปประเทศ ทำให้ระบบรัฐสภาไม่สามารถทำงานได้ และให้บ้านเมืองอยู่ภายใต้การกำกับ ควบคุม ทั้งในทิศทาง แนวทางการบริหารประเทศของกลุ่มบุคคลและองค์กร ที่จะเหนี่ยวนำทั้งหมดไปสู่แนวทางเดียวกัน

พท.สอบปมม.77-ยุทธศาสตร์ชาติ

นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า พรรคมีการพูดคุยกันอยู่บ้างใน 2 ประเด็น คือ 1.สาระสำคัญของพ.ร.บ.ยุทธศาสตร์ชาติ มีประเด็นที่เกี่ยวโยงกับรัฐธรรมนูญอย่างไรหรือไม่ และ 2.มาตรา 77 กำลังดูอยู่ว่าเข้าข่ายอย่างไรหรือไม่ เพราะตัวกฎหมายยุทธศาสตร์ชาติเองก็เขียนไว้ชัดเจนว่าให้รับฟังความคิดเห็นของประชาชน ซึ่งต้องไปตรวจสอบดูว่าเขาทำกันแค่ไหนอย่างไรบ้าง ทั้งนี้ ขณะนี้พรรคกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณากันอยู่ คาดว่าในสัปดาห์หน้าคงจะได้หารือกัน และมีความชัดเจนในกรณีดังกล่าวมากขึ้น

เรืองไกรยันขัดรธน.ทั้งสองฉบับ

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า แม้ สนช.มีมติผ่านร่างพ.ร.บ.การจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ และร่างพ.ร.บ.แผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศไปแล้ว แต่ตนยังเห็นว่าทั้งสองฉบับที่ ครม.มีมติให้เสนอ สนช.ตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย.นั้นไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เนื่อง จากอ้างบทบัญญัติมาตรา 65 และมาตรา 259 มาเป็นเหตุผลจัดทำร่างกฎหมายทั้งสอง ทั้งที่บทบัญญัติทั้งสองมาตราอยู่ในรัฐธรรมนูญปี 2560 ซึ่งเพิ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย. ดังนั้น เมื่อ สนช.ลงมติในวาระ 3 เห็นชอบร่างพ.ร.บ.ทั้งสองฉบับไปแล้ว และขั้นตอนต่อไปต้องส่งให้นายกฯ ดำเนินการตามมาตรา 81 โดยมีเงื่อนไขว่านายกฯ ต้องรอไว้ 5 วัน เพื่อดูว่าจะมีกรณีที่ต้องดำเนินการตามมาตรา 148 หรือไม่

นายเรืองไกรกล่าวว่า เพื่อให้นายกฯ พิจารณาดำเนินการตามความในมาตรา 148 ตนจึงส่งจดหมายลงทะเบียนตอบรับหรือ อีเอ็มเอสถึงนายกฯ ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เพื่อยืนยันความเห็นว่าทั้งสองฉบับอาจตราขึ้นโดยขัดต่อรัฐธรรมนูญ เพราะมาตรา 259 และมาตรา 275 ประกอบมาตรา 65 บัญญัติไว้ชัดเจนว่าให้จัดทำกฎหมายทั้งสองฉบับหลังจากที่รัฐธรรมนูญ 2560 มีผลใช้บังคับ

จี้”ตู่-ผู้ตรวจการแผ่นดิน”ยื่นศาลรธน.

นายเรืองไกรกล่าวอีกว่า ดังนั้น การที่ ครม.มีมติให้เสนอร่างพ.ร.บ.ทั้งสองฉบับเมื่อวันที่ 4 เม.ย. และส่งให้ สนช.รับไว้ในวันเดียวกันนั้น จึงเป็นกรณีที่มีการจัดทำกฎหมายก่อนที่รัฐธรรมนูญจะมีผลใช้บังคับในวันที่ 6 เม.ย.ถึง 2 วัน จึงต้องขอให้นายกฯ ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต่อไป ทั้งนี้ เรื่องนี้มีความสำคัญที่ควรให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย โดยเร็ว จึงจำเป็นต้องยื่นเรื่องอีกทางหนึ่งให้ ผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบเพื่อเสนอเรื่องพร้อมความเห็นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอีกทางหนึ่งด้วย โดยจะไปยื่นหนังสือที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ศูนย์ราชการ อาคารบี ถ.แจ้งวัฒนะ ในวันที่ 26 มิ.ย.นี้ เวลา 10.00 น.

สมชายห่วงรบ.เลือกตั้งทำงานลำบาก

นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ และแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงร่างพ.ร.บ. ยุทธศาสตร์ชาติว่า นักการเมืองต่างเป็นห่วง เพราะรัฐบาลหลังเลือกตั้งคงลำบาก ทำงานยากและจะไม่มีสมาธิในการบริหารงานเพื่อแก้ไขปัญหาปากท้องให้กับประชาชน เพราะต้องระมัดระวังเกรงจะทำงานไม่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ส่วนข้อกำหนดบทลงโทษหากมีการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามยุทธศาสตร์ชาติรุนแรงถึงขั้นจำคุกนั้น ต้องขอศึกษาในรายละเอียดของร่างดังกล่าวก่อน

มั่นใจ”ปู”พร้อมสู้คดีจำนำข้าว

นายสมชายกล่าวถึงการไต่สวนคดีรับจำนำข้าวที่การพิจารณาคดีเหลือสืบพยานจำเลยเพียง 3 ปาก ขณะที่กระบวนการยึดทรัพย์น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ยังเดินหน้าต่อว่า ตนให้กำลังใจน.ส.ยิ่งลักษณ์มาตลอดเพราะเป็นพี่น้องกัน ต้องเห็นใจกัน ให้กำลังใจกันเป็นธรรมดา ส่วนขั้นตอนต่างๆ เราต้องทำตามกติกา ต่อสู้กันตามกระบวนการยุติธรรม และมั่นใจว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ก็สู้อยู่และมีจิตใจที่เข้มแข็ง เป็นหญิงเหล็ก จึงไม่ต้องห่วง

แนะรัฐใช้ประโยชน์รถไฟไทย-จีน

นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กถึงโครงการรถไฟไทย-จีน ว่า “รถไฟ…ที่ต้องได้มากกว่ารถไฟ” การมีเส้นคมนาคมทางบกระหว่างไทย-จีน เป็นประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ใช้ขยายการค้าร่วมกัน สิ่งที่รัฐบาลควรพิจารณาคือการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจจากรางรถไฟ ส่วนเงินที่ใช้ก่อสร้างควรเป็นของไทยโดยออกพันธบัตรกู้เงินบาทแบบรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์กำลังจะทำแต่ถูกขัดขวาง ขณะที่การกำหนดเส้นทางรถไฟต้องคำนึงถึงเมืองที่จะใช้เป็นศูนย์กลางความเจริญ ต้องกระจายจากกรุงเทพฯ จุดหยุดรถ ควรเป็นเมืองใหม่ที่สอดรับกับการขยายตัว ทางเศรษฐกิจ รัฐบาลต้องเจรจาถึงสิทธิการนำสินค้าจากไทยไม่ว่าผัก ผลไม้ หรือสินค้าอย่างอื่น เช่น โอท็อป เข้าไปจำหน่ายในจีน รวมทั้งเจรจากระบวนการด้านศุลกากร คลังสินค้าและระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ มิเช่นนั้นสินค้าจะถูกกักจนเสียหาย

“รัฐบาลต้องคิดถึงการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจจากรางรถไฟมากกว่าค่าตั๋วโดยสาร นำผลเจรจาที่ได้มาเปิดเผยให้ประชาชนทราบ ผมไม่ได้อยากรู้ แต่หากคิดไม่ออกหรือได้ มาไม่คุ้มจะได้แนะนำให้เพราะมันเป็นผลประโยชน์ของชาติ” นายวัฒนาระบุ

จวกรัฐ-คสช.ใช้ม.44 เกินจำเป็น

เมื่อเวลา 13.00 น. ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 ร่วมกับเครือข่ายองค์กรภาคประชาชน จัดอภิปรายสาธารณะแก้ปัญหาคอร์รัปชั่น ชาตินี้หรือชาติหน้า? ครั้งที่ 8 ว่าด้วยรัฐบาล และสนช.กับมาตรา 44 และปัญหาการออกกฎหมายลูกตามรัฐธรรมนูญ มีนายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 นายกษิต ภิรมย์ อดีตรมว.ต่างประเทศ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรมว.คลัง และนายธนา ชีรวินิจ อดีตส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมอภิปราย

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า เมื่อรัฐธรรมนูญปี 2560 บังคับใช้แล้ว หัวหน้าคสช.ไม่ควรใช้อำนาจตามมาตรา 44 ในการบริหารจนเกินจำเป็น เพราะรัฐธรรมนูญคุ้มครองสิทธิเสรีภาพประชาชนไว้ทุกด้าน มาตรา 44 ควรใช้เฉพาะความมั่นคงและความขัดแย้งทางการเมืองมากกว่า ส่วนการใช้มาตรา 44 ปลดล็อกใช้ที่ดินส.ป.ก.ก็มีกลไกปกติในการแก้ปัญหา และรัฐธรรมนูญ มาตรา 53 ระบุว่ารัฐมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งกรณีดังกล่าวศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาว่า การเข้าไปประกอบกิจการบนที่ดินส.ป.ก.นั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะเจตนาของการใช้ที่ดินเพื่อเกษตรกรรมไม่ใช่อุตสาหกรรม แต่รัฐบาลกลับใช้อำนาจพิเศษเข้ามาแก้ไข ทำให้คิดได้ว่าเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนหรือไม่

หวั่นเปิดช่องทุจริต-ผิดหลักรธน.

นายศรีสุวรรณกล่าวว่า เช่นเดียวกับกรณีโครงการรถไฟไทย-จีน ที่การลงทุนอาจไม่คุ้มค่า และมีการยกเว้นการบังคับใช้กฎหมายบางฉบับ แล้วไปเขียนในคำสั่งมาตรา 44 ว่าต้องทำสัญญากับจีน แสดงให้เห็นว่ามีความไม่โปร่งใสหรือไม่ และอาจทำให้ไทยเสียสิทธิสภาพนอกอาณาเขตหรือไม่ ซึ่งทั้งหมดนี้นายกฯ พูดว่าให้เคารพกฎหมาย แต่ทำไมยังฝ่าฝืนคำสั่งศาลปกครองเรื่องส.ป.ก.ซึ่งตนจะใช้อำนาจของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 ไปยื่นเรื่องนี้ต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความการดำเนินการของรัฐบาลว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ทั้งนี้ หากรัฐบาลจะดำเนินการ ควรตอบด้วยว่าจะแก้ปัญหาคอร์รัปชั่น การตรวจสอบเงินทอนในกรณีนี้อย่างไร และหากเกิดความเสียหายจะเอาผิด กับคสช.ได้หรือไม่

ด้านนายธีระชัยกล่าวว่า โครงการรถไฟไทย-จีน ถือเป็นอภิมหาโครงการ ใช้เงินลงทุนเริ่มต้นแสนล้านบาท ซึ่งมีผลกระทบต่อฐานะการเงินของประเทศ ถ้าเกิดการทุจริตจะมีเงินทอนมหาศาล ดังนั้น การใช้มาตรา 44 คสช.ควรระวังไม่ให้ขัดรัฐธรรมนูญ ต้องเน้นให้มีการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐและตรวจสอบทุจริตโดยประชาชน เมื่อประชาชนร้องเรียนต้องตอบสนองโดยเร็ว และมาตรา 44 ต้องไม่ปิดกั้นการตรวจสอบของประชาชน อย่างไรก็ตาม ขอให้รัฐบาลตระหนักว่ากำลังทำงานการเมืองโดยที่รอนสิทธิของประชาชนอยู่ ซึ่งผิดหลักรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดให้รัฐบาลต้องทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด

โพลไม่เชื่อปชป.-พท.ร่วมตั้งรบ.

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เผยผลสำรวจ เรื่อง “2 พรรคใหญ่กับการจับมือร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล” จากประชาชน 1,250 คน ระหว่างวันที่ 21- 23 มิ.ย. เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่พรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทยจะร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลภายหลังการเลือกตั้งสมัยถัดไป พบว่าร้อยละ 53.84 ระบุไม่มีความเป็นไปได้เลย เพราะมีแนวคิด จุดยืน นโยบายที่แตกต่างกัน หากร่วมมือกันอาจเกิดความขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์ของพรรค ฐานเสียงของแต่ละพรรคอาจต่อต้าน จึงยากที่จะหันหน้าเข้าหากัน ร้อยละ 29.36 ระบุเป็นไปได้ระดับหนึ่ง เพราะทั้ง 2 พรรคเป็นรัฐบาลมาก่อน แม้มีจุดยืนหรือแนวคิดต่างกัน แต่อาจมีบางอย่างที่เห็นในทิศทางเดียวกัน ร้อยละ 6.32 ระบุเป็นไปได้สูง เพราะทุกฝ่ายน่าจะมองเห็นผลดีมากกว่าผลเสีย ซึ่งเป็นประโยชน์ในการพัฒนาประเทศ และที่ผ่านมา คสช.ได้วางแนวทางปรองดองและการปฏิรูปประเทศไว้แล้ว ร้อยละ 10.48 ไม่ระบุหรือไม่แน่ใจ

ส่วนความต้องการเห็น 2 พรรคนี้ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลภายหลังเลือกตั้ง ร้อยละ 63.60 ระบุว่าต้องการ เพราะต้องการเห็นความสามัคคีปรองดอง ประเทศชาติพัฒนาและเดินหน้าต่อไป และเพิ่มความเสถียรภาพของพรรคให้มากขึ้น ไม่อยากเห็นนักการเมืองทะเลาะหรือขัดแย้งกันจนเกิดความวุ่นวายเหมือนที่ผ่านมา ร้อยละ 26.88 มองว่าไม่ต้องการ เพราะอาจมีปัญหาขัดแย้งกัน ต้องมีอีกฝ่ายที่คานอำนาจกัน ร้อยละ 9.52 ไม่ระบุหรือไม่แน่ใจ

หนุนพรรคใหม่ดัน”ครม.ตู่”อยู่ต่อ

ส่วนการจัดตั้งพรรคใหม่ขึ้นเพื่อสนับสนุนรัฐบาลชุดปัจจุบัน ร้อยละ 53.52 เห็นด้วย เพราะอยากเห็นทางออกใหม่ๆ ที่ช่วยลดขัดแย้งและความวุ่นวายทางการเมือง และหากเข้ามาอย่างถูกต้อง ประชาชนก็ไม่ขัดข้อง เพื่อมาช่วยกันแก้ปัญหาของประเทศ สานต่อนโยบายต่างๆที่ทำไว้และสนับสนุนให้รัฐบาลชุดปัจจุบันได้บริหารประเทศต่อไป ร้อยละ 31.28 ไม่เห็นด้วย เพราะสืบทอดอำนาจของรัฐบาลชุดปัจจุบัน อีกทั้งการบริหารประเทศมีหลายอย่างที่ยังแก้ไขได้ไม่ดี โดยเฉพาะเศรษฐกิจ หากยังได้รัฐบาลชุดเดิม ประเทศอาจไม่ก้าวหน้า ประชาชนถูกจำกัดสิทธิเสรีภาพ ในบางเรื่องทำได้ไม่เต็มที่ ควรจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ และเลือกนักการเมืองที่เก่งและมีประสบการณ์บริหารประเทศเข้ามาแทน ร้อยละ 15.20 ไม่แน่ใจ

ตร.รวบตัว”โรม”สกัดยื่นค้านม.44

เมื่อเวลา 16.00 น. ที่ลานอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา มีการจัดงาน “start up people start up talk 85 ปี 24 มิถุนายน” เพื่อเปิดตัวแคมเปญ #StartUpPeople ตลอดปี 2017 มีการขายของที่ระลึกเกี่ยวกับประชาธิปไตย แสดงดนตรี และทอล์กโชว์ นำโดย นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว นายรังสิมันต์ โรม นักศึกษากลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย (ดีพีอาร์) นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บ.ก.ลายจุด แกนนอนกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง และนายวัฒนา เมืองสุข อดีตรมว.พาณิชย์ โดยรายได้ทั้งหมดรวมค่าบัตรเข้างาน 250 บาท จะใช้สมทบทุนการเคลื่อนไหว และสมทบกองทุนช่วยเหลือนักโทษการเมือง บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนเข้าร่วมงานประมาณ 100 คน ขณะเดียวกันมี เจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบจำนวนหนึ่งคอยสังเกตการณ์

ต่อมาเวลา 17.00 น. นายสิรวิชญ์เปิดเผยว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาแสดงหมายจับนายรังสิมันต์ โรม ในคดีประชามติ เมื่อปี 2559 โดยควบคุมตัวไปยังสน.ชนะสงคราม คาดว่าอาจจะส่งตัวไปยังสภ.บางเสาธง จ.สมุทร ปราการ ที่เกิดเหตุคดีประชามติ ขณะเดียวกันทางทนายได้กำลังประสานกับเจ้าหน้าที่เพื่อขอรายละเอียดการจับกุมในครั้งนี้ โดยนายโรมเป็นหนึ่งในแขกรับเชิญที่จะพูดในงานนี้ด้วย คาดว่าจะกลับมาไม่ทัน แต่กิจกรรมจะเดินหน้าจัดต่อไป ซึ่งคาดว่าการเข้าคุมตัวนายโรม ด้วยการนำคดีประชามติเมื่อปีที่ผ่านมาอ้างเพื่อสกัดกั้นนายโรม ที่มีกำหนดจะไป ยื่นหนังสือคัดค้านคำสั่งมาตรา 44 เร่งรัดโครงการรถไฟความเร็วสูงไทยกับจีน ที่ทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 26 มิ.ย.นี้

จ่านิวลั่นไม่ปล่อยคสช.มีปีที่ 4

จากนั้นนายสิรวิชญ์กล่าวว่า เราจะสานต่อเจตนารมณ์ของคณะราษฎรเมื่อพ.ศ. 2475 ให้เดินต่อไปข้างหน้า ความคิดเรื่องประชาธิป ไตยจะกลับมาทุกครั้ง เมื่อเผด็จการครองเมือง เชื่อว่าประชาชนจะลุกขึ้นสู้อีก ถึงเวลาที่ประชาชนจะต้องสตาร์ตอัพ จุดประกายต่อจากคณะราษฎรทำให้เผด็จการเหล่านี้ออกไป เพราะมันกำลังฝังตัวไปทุกแห่ง แม้กระทั่งความคิด เราต้องไม่ปล่อยให้คสช.มีปีที่ 4 อย่างไรก็ตาม ตนจะจัดงานนี้ต่อไปและจะขยายไปจัดในพื้นที่ต่างจังหวัดด้วย

ด้านนายวัฒนา เมืองสุข กล่าวว่า เชื่อว่าปี 2561 มีการเลือกตั้ง เพราะน้ำกำลังท่วมถึงจมูกของผู้มีอำนาจแล้ว ขอให้ทุกคนเชื่อมั่น ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้ ในโลกนี้ไม่เคยมีเผด็จการเอาชนะประชาชนได้ ขอแค่ไม่กลัว ไม่ว่าจะมีเรือดำน้ำ รถถังมากแค่ไหน ไม่มีระบอบอะไรรองรับพลวัตรของโลกได้นอกจากประชาธิป ไตย แต่โชคร้ายสังคมไทยเป็นสังคมดัดจริต ไม่มีจุดยืน จึงพยายามหาอรหันต์จากการเลือกตั้ง เหมือนที่รัฐธรรมนูญบอกที่มาขององค์กรอิสะต้องมีความดี ซึ่งมันไม่มี

ณัฐวุฒิยันเดินหน้าสู้เพื่อปชต.

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ(นปช.) กล่าวว่า 85 ปีควรจะเข้าใจเรื่องประชาธิปไตยได้แล้ว แต่ยังมีคนกลุ่มหนึ่งไม่เข้าใจ เรายังต้องต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยต่อไป โดยไม่ต้องเดินตามหลังแกนนำ สู้เพื่อคนเท่ากัน ไม่ให้ถูกเอาเปรียบ ให้คนที่ยิ่งใหญ่ยอมรับความเป็นประชาชน กลุ่มคนที่ไม่อยากให้คนคิดเป็น ก็จะสร้างกรอบมาครอบชักจูงคน ผ่านยุทธศาสตร์ชาติ ผู้มีอำนาจขณะนี้ก็คิดอยู่ยาว แต่ถามว่าง่ายหรือไม่ ตอบเลยว่าไม่ วันนี้ต้องเผชิญหน้ากับความเป็นจริง จะลิดรอนสิทธิเสรีภาพ ที่เริ่มมาเมื่อ 85 ปีที่แล้วไม่ได้

นอกจากนี้ยังมี พ.ต.พุทธินารถ พหลพลพยุหเสนา หรือลุงแมว หลานพระยาพหลพลพยุหเสนา แกนนำคณะราษฎร สายทหาร กล่าวถึงข้อมูลการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.2475 นายกุลศักดิ์ เรืองคงเกียรติ หรือจิ้นกรรมาชน ศิลปินเพื่อชีวิต ร่วมร้องเพลงปลุกใจด้วย ก่อนจะเสร็จกิจกรรมเวลา 21.00 น.

ตร.ส่งตัว”โรม”ขึ้นศาลทหาร

เมื่อเวลา 19.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงคราม คุมตัวนายรังสิมันต์ โรม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลทหารกรุงเทพ มาส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี สภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ หลังจับกุมได้ที่แยกคอกวัว เมื่อช่วงเย็นวันนี้ โดยมี ร.ต.อ.ธีรเดช อุดมธีรสกุล พนักงานสอบสวนเวรประจำวัน เป็นผู้รับมอบ ก่อนนำตัวนาย รังสิมันต์ โรม เข้าไปในห้องขังเพื่อรอให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีนำตัวส่งศาลทหารกรุงเทพ ในเช้าวันที่ 25 มิ.ย.

น.ส.พูนสุข พูนสุขเจริญ ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า นายรังสิมันต์ โรม ยังมีสภาพจิตใจดีอยู่ เช้าวันวันที่ 26 มิ.ย. ทางตำรวจ สภ.บางเสาธง จะนำตัวโรม ส่งให้อัยการศาลทหารกรุงเทพ เพื่อสั่งฟ้องในคดีฝ่าฝืนคำสั่งคสช.ที่ 3/2558 เมื่อวันที่ 29 ส.ค.2559 และคดี พ.ร.บ.ประชามติ จากการพูดคุยกับโรม ไม่คิดว่าจะมาถูกจับในวันนี้เพราะถูกเชิญมาเป็นวิทยากร ประกอบกับ 1 ปีที่ผ่านมาก็ไม่ได้ถูกจับกุมแต่อย่างใดถึงแม้จะมีหมายจับก็ตาม

“ปู”เปิดบ้านรับแฟนเพจ6ล.ไลก์

เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เปิดบ้านพักซอยโยธินพัฒนา 3 ต้อนรับแฟนเพจทางเฟซบุ๊ก เนื่องในโอกาสที่มีผู้ติดตามครบ 6 ล้านไลก์ และแฟนเพจเดิมที่ติดตามความเคลื่อนไหวและให้กำลังใจผ่านเพจส่วนตัวมาตลอดเวลาหลายปี เพื่อพบปะพูดคุย พร้อมแนะนำตัวแฟนเพจที่มาจากจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยจัดรูปแบบพบปะกันเป็นการ “จิบน้ำชายามบ่าย 6M Likes Be With You เคียงข้างกันตลอดไป” โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ใช้วัตถุดิบที่ปลูกไว้บริเวณบ้านนำมาทำน้ำอัญชันมะนาว ชาใบเตย ด้วยตนเอง และแต่งหน้าเค้กรูปปูพร้อมลายเซ็นไว้ต้อนรับ และเปิดสวนผักเก็บผักร่วมกับแฟนเพจให้เป็นของฝากกลับบ้านด้วย

น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์เป็นครั้งแรกเพื่อพูดคุยกับแฟนเพจที่ไม่ได้มาร่วมกิจกรรมว่า “เป็นวันพิเศษจริงๆ และวันนี้เป็นครั้งแรกที่เราเรียนเชิญแฟนเพจที่ครบ 6 ล้านไลก์ ที่เป็นตัวแทนแฟนเพจกว่า 6 ล้านไลก์ที่กำลังชมการไลก์ในวันนี้ เรามีความสุขกัน แต่เราอยากแชร์และแบ่งปันความสุขนี้ให้กับแฟนเพจที่บ้านด้วย เพราะเชื่อว่าหลายคนคงอยากมา เรายังผูกพันกัน ได้มาเจอกัน อนาคตถ้าได้ติดต่อกันหรือมีความผูกพันกันมากขึ้น ใจกับใจอยู่ด้วยกัน ทุกข์กับสุขด้วยกัน ทุกคนไม่ต้องให้แนะนำกัน เรารู้จักกันมานาน ผูกพันกันมานานมากกว่าคำพูด มีทั้งภาษากาย ภาษาใจที่ตรงกัน อยากให้บรรยากาศนี้ได้แลกเปลี่ยนกัน ขออนุญาตไลฟ์ให้อีก 6 ล้านคนได้แชร์ความรู้สึกนี้กับเราด้วย”

หลังจากน.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวเสร็จ ตัวแทนแฟนเพจได้กล่าวให้กำลังใจ พร้อมเปิดมิวสิควิดีโอเพลง “จะอยู่เคียงข้างเธอ” มอบให้เป็นกำลังใจกับน.ส.ยิ่งลักษณ์อีกด้วย

“ตู่”พอใจผลแก้ปัญหาการบิน

เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พอใจความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือน ขณะนี้มีสายการบินที่ได้ใบรับรองแล้ว 6 สายการบินคือ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ไทยแอร์เอเชีย การบินไทย นกสกู๊ต ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ และนกแอร์ ซึ่งมีเส้นทางการบินระหว่างประเทศรวมร้อยละ 80 จากเส้นทางการบินระหว่างประเทศทั้งหมดของสายการบินสัญชาติไทย และในเดือน ก.ย.นี้ คาดว่าจะออกใบรับรองได้รวม 12 สายการบิน ส่วนที่เหลือจะตรวจให้เสร็จภายในเดือนม.ค. 2561 ซึ่งการตรวจและออกใบรับรองดังกล่าวเป็นเงื่อนไขสำคัญในการขอปลดล็อกธงแดงตามหลักเกณฑ์ของไอเคโอที่ไทยดำเนินการควบคู่กับการแก้ไขข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญต่อความปลอดภัย (SSC) จำนวน 33 ข้อ

พล.ท.สรรเสริญกล่าวว่า นายกฯ กำชับกระทรวงคมนาคมให้ดำเนินการตามแผนที่วางไว้ โดยเฉพาะการยื่นเรื่องไปยังไอเคโอ ภายในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ เพื่อให้เข้ามาตรวจสอบตามที่ไทยร้องขอได้ในเดือนก.ย.นี้ นอกจากนี้ครม.เห็นชอบในหลักการร่างพ.ร.บ.การบินพลเรือน พ.ศ. เพื่อแก้ปัญหาระยะยาวด้านการบินของประเทศ หลังจากไม่เคยมีการปรับปรุงมาตั้งแต่ปี 2497 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของ สนช. รวมทั้งยังปฏิรูปองค์กรด้านการบินใหม่ ตั้งสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยและกรมท่าอากาศยาน เพื่อแยกอำนาจควบคุมและบริหารจัดการออกจากกัน เพื่อนำไปสู่การปลดล็อกธงแดงในที่สุด

โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า ไอเคโอชื่นชมความก้าวหน้าในการแก้ปัญหาการบินพลเรือนของไทย โดยนายกฯยืนยันว่ารัฐบาลได้ดำเนินการตามข้อกำหนดของไอเคโออย่างครบถ้วนเต็มที่ เพื่อแก้ปัญหาให้สำเร็จโดยเร็วและสร้างความเชื่อมั่นในอุตสาหกรรมการบินไทย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน