เพื่อไทย ซัดรัฐบาลเพิ่งมาระลึกได้กู้เงินโควิดฟื้นฟูเศรษฐกิจ ปัดฝุ่นโครงการเก่าทำใหม่ เทียบแจกเงิน ชิม ช้อป ใช้ ไวกกว่าเยียวยาโควิด อย่าอ้างเป็นบุญคุณ

วันนี้ (29 พ.ค.) เมื่อเวลา 14.47 น. น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย กล่าวอภิปรายพ.ร.ก.กู้เงินว่า เราไม่ได้ต้องการขัดขวางหรือถ่วงเวลาของรัฐบาล ทุกสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศและประชาชนโดยเฉพาะการช่วยเหลือเยียวยาและการฟื้นฟูเศรษฐกิจ เราเห็นด้วย

แต่ตนต้องแสดงความกังวลต่อเงินกู้ผ่านพ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบต่อการระบาดไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2563 ซึ่งเป็นมาตรการทางการคลังจำนวน 1 ล้านล้านบาทของรัฐบาล ในการแถลงต่อรัฐสภาที่ผ่านมานายกฯ ได้ให้เหตุผลการตราพ.ร.ก.นี้

โดยอ้างข้อเสียหายที่เกิดขึ้นจากผลกระทบโควิด-19 ซึ่งตนขอยืนยันว่าวิกฤตโควิดสร้างความเสียหายต่อประเทศ โดยเฉพาะระบบเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างปฏิเสธไม่ได้ แต่รัฐบาลจะอ้างว่าเศรษฐกิจทรุดหนักอย่างเดียวคงไม่ได้ แต่เศรษฐกิจไทยแย่มาก่อนหน้านี้แล้ว 6 ปี เศรษฐกิจไทยอ่อนแอและผิดพลาดจากดการบริหารซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ในการอภิปรายแม้สมาชิกจะเรียงดับความสำคัญของปัญหาเรื่องนี้ไม่เหมือนกัน แต่เชื่อว่ามีสิ่งหนึ่งที่ทุกคนเห็นตรงกันคือ เงินจำนวน 555,000 ล้านบาทเพื่อช่วยเหลือประชาชนมีความจำเป็นเร่งด่วน ไม่สามารถรอหรือดำเนินการแบบปกติได้ มีความเหมาะสมที่จะออกเป็นพ.ร.ก.กู้เงิน แต่ตนมีข้อสังเกตว่า

เวลาใช้เงินเยียวยาประชาชนทำไมล่าช้า ไม่เร่งด่วนสมกับการออกเป็นพ.ร.ก. เมื่อดูเงินจำนวนดังกล่าวว่าว่าเยอะแล้ว แต่มาดูเงื่อนไขในการเข้าถึงเงินนี้แล้วเยอะกว่า ประชาชนต้องต่อสู้กับวิกฤตโควิดครั้งนี้ก็หนักแล้ว ยังต้องมานั่งต่อสู้กับการเข้าถึงเงินเยียวยา ทำไมตอนที่รัฐบาลแจกเงินชิม ช้อป ใช้ ไปใช้เที่ยวช้อปปิ้งถึงแจกง่ายกว่านี้

แต่พอประชาชนเกิดวิกฤต รัฐบาลกลับตั้งเงื่อนไขผลักภาระให้ประชาชน ต้องมาให้ประชาชนพิสูจน์ความจน นี่ขนาดรัฐบาลแจกเงิน 5,000 บาทยังทำให้ประชาชนด่าได้ขนาดนี้ แบบนี้ถือเป็นวิกฤตซ้อนวิกฤต และรัฐบาลจะมาอ้างว่าการแจกเงิน 5,000 บาทเป็นบุญคุณกับประชาชนไม่ได้ เพราะนี่เป็นเงินของประชาชนไม่ใช่ของรัฐบาล ที่สำคัญรัฐบาลไม่ได้แจกเงินให้ประชาชนฟรีๆ แต่ยังแถมหนี้ 1 ล้านล้านบาทพร้อมดอกเบี้ย

ส่วนการวางแผนระยะยาวฟื้นฟูเศรษฐกิจ แต่ที่ผ่านมาการเยียวยา ซึ่งเป็นนโยบายการแจกเงิน รัฐบาลยังทำให้ได้ไม่ดี ส่วนเศรษฐกิจที่หยุดไปก็จะกลับมาไม่เหมือนเดิม ดังนั้น การใช้เงินต้องมีทิศทาง แม่นยำ ในแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจที่รัฐบาลแถลงไปนั้น ก็เป็นการวางกรอบไว้กว้างๆ ตนนั่งฟังมา 3 วัน ยังมองไม่เห็นแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยที่ชัดเจน รัฐบาลทำงานแบบกู้มาก่อน แล้วค่อยคิดแผนงานทีหลัง

ในพ.ร.ก.ฉบับนี้ยังระบุไว้ให้มีการรายงานต่อ ครม.ทุก 3 เดือน แต่รายงานต่อสภาปีละครั้ง สรุปแล้วเงินนี้เป็นของใครกันแน่ แผนงานที่รัฐบาลจะฟื้นฟูเศรษฐกิจเป็นแผนเก่าทั้งสิ้นที่พล.อ.ประยุทธ์เคยบริหาร โครงการเหล่านี้รัฐบาลควรทำให้เสร็จช่วง 6 ปีที่ผ่านมา ไม่ใช่มาระลึกในช่วงโควิด ซึ่งเอาโครงการเก่ามาปัดฝุ่นแล้วทำใหม่ แสดงว่ารัฐบาลไม่ได้วางแผนอะไรมาเลย เป็นการทำงานบริหารงานที่ล้มเหลว

น.ส.จิราพร กล่าวว่า ทุกวันนี้แม้รัฐบาลจะพยายามแก้เศรษฐกิจ แต่จะไม่สามารถทำได้ถ้ายังไม่ยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั้งที่สถานการณ์เริ่มดีและควบคุมได้แล้ว เหมือนเช่นการถูกงูกัดที่ขา แล้วเอาเชือกมารัดที่คอ เราจะไม่ตายด้วยงูกัด แต่จะตายเพราะเชือกที่รัดคออยู่ ขอให้รัฐบาลใช้ความกล้าหาญในการปฏิรูป พลิกวิกฤตเป็นโอกาสให้กับประเทศและประชาชน ไม่ใช้พลิกโอกาสให้เป็นของตนเอง


 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน