เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 30 มิ.ย. ที่อาคารไปรษณีย์กลาง บางรัก (ทีซีดีซี) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังเยี่ยมชมศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบกรุงเทพ (ทีซีดีซี) ถึงกรณีที่หลายฝ่ายมีความกังวลถึงบทลงโทษที่ระบไว้ในพ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว ว่า ตนสั่งการไป 2-3 วันแล้วให้กระทรวงแรงงานไปหามาตรการที่เหมาะสม

โดยเฉพาะในประเด็นที่หลายฝ่ายกลัวว่าจะเป็นปัญหา ซึ่งตนรับรองว่าจะทำให้ดีที่สุด ซึ่งหากทำอย่างถูกต้องก็ไม่ต้องกลัวอะไร แต่สิ่งที่ตนกลัวคือที่ผ่านมาทำผิดกันจำนวนมาก จึงต้องให้มีการขึ้นทะเบียนทั้งในส่วนที่ทำงานอยู่แล้ว โดยเฉพาะแรงงานตามบ้าน ภาคธุรกิจขนาดย่อมและร้านค้าปลีก ซึ่งหากยกเลิกทั้งหมดก็ย่อมทำให้เดือดร้อน ดังนั้นกระทรวงแรงงานต้องแก้ปัญหาในกฎหมายที่จะออกมา ส่วนจะออกเป็นคำสั่งตามอำนาจมาตรา 44 เพื่อแก้ปัญหาในช่วงเปลี่ยนผ่านที่อาจจะขาดแคลนแรงงานหรือไม่นั้น หากจำเป็นก็ต้องใช้ แต่วันหน้าเมื่อมีกฎหมายออกมาแล้วก็ต้องปฏิบัติตาม ไม่เช่นนั้นจะถูกดำเนินการ

“ถ้าอย่างอื่นไม่มีก็ต้องใช้มาตรา 44 มีอะไรนอกกว่า 44 หรือไม่ ถามดูสิวันหน้าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าไม่มีมาตรา 44 ไม่ใช่ว่าจะขอให้มีมาตรา 44 แต่นี่คือสิ่งที่ต้องคิดว่า วันนี้ที่มันแก้ได้อยู่บ้างเพราะมีมาตรา 44 แต่วันหน้าถ้ากฎหมายออกมาแล้วก็ต้องทำ ต้องรู้จักกฎระเบียบและทำให้ถูกต้อง ไม่ใช้อะไรก็ไม่เอาสักอย่าง ให้รัฐผ่อนปรนไปเรื่อยแล้วเมื่อไหร่จะกลับสู่ความถูกต้อง ผมเข้าใจความเดือดร้อน แต่ถามว่าที่ผ่านมามีความสุขมากๆ แต่ไม่มีใครบอกว่าถูกหรือผิดกฎหมาย แล้วจะเอาไง จะไม่มีกฎหมายหรืออย่างไร มันต้องมี แต่ในช่วงที่เปลี่ยนผ่าน มันจะเท่าไหร่ไม่รู้กี่เดือนกี่ปีไม่รู้ หลังจากนั้นก็ต้องใช้กฎหมายที่จะออกมา ทีบางเรื่องบอกให้ประหารชีวิตไปเลย ทีเรื่องแบบนี้ให้ปรับไม่ปรับ ผมว่าความคิดมันไม่ได้ แต่ช่วงนี้ต้องผ่อนปรนไม่ให้เดือดร้อน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกฯ กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงแรงงานบินไปประเทศเมียนมา เพื่อเจรจาขอให้คนที่มีหนังสือเดินทางมาทำงานได้ว่า เป็นเรื่องของแรงงานใหม่ที่จะเข้ามา เพื่อปรับให้สอดคล้อง ไม่เกี่ยวกับแรงงานที่ทำงานอยู่แล้วที่ต้องนำมาจดทะเบียนให้ได้ก่อน ถ้าไม่ทำอีกตนก็ต้องใช้กฎหมายใหม่ดำเนินการ ไม่ใช่ตามใจไปจนเรื่อยเปื่อย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน