แชร์ว่อน! ‘กลาโหม’ ทำหนังสือ ขอตำแหน่งมือถือทุกคน ที่เคยอยู่ในบริเวณเดียวกัน กับผู้ติดเชื้อ อ้างอำนาจตาม พ.ร.บ. ควบคุมโรค ประกอบ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน

วันนี้ (8 มิ.ย) น.ส.สฤณี อาชวานันทกุล นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์ นักเขียน นักแปลชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊กผ่านแฟนเพจ Sarinee Achavanuntakul – สฤณี อาชวานันทกุล พร้อมลิงก์เอกสาร หนังสือจากกระทรวงกลาโหมถึง กสทช. และหนังสือจากกรมควบคุมโรคถึง กสทช. ขอให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือส่งข้อมูลตำแหน่งสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ย้อนหลัง 14 วัน โดยระบุรายละเอียด ดังนี้

มีคนส่งเอกสารชุดนี้มาให้ค่ะ เป็นหนังสือจากกระทรวงกลาโหม ถึง กสทช. และ หนังสือจากกรมควบคุมโรคถึง กสทช. ขอให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ ส่งข้อมูลตำแหน่งสัญญาณโทรศัพท์ เคลื่อนที่ย้อนหลัง 14 วัน ของผู้ติดเชื้อรายใหม่ รวมถึงข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ของทุกคนที่เคยอยู่ในบริเวณเดียวกันกับผู้ติดเชื้อ เพื่อส่ง SMS แจ้งเตือน และเพื่อดำเนินการสอบสวนโรค ทั้งหมดนี้อ้างอำนาจตาม พ.ร.บ. ควบคุมโรค ประกอบ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน

อ่านแล้วก็เกิดคำถามสามข้อทันที อยากให้ช่วยกันถามดังๆ และอยากให้สื่อมวลชนไปถามกระทรวงกลาโหม กสทช. กระทรวงดีอี กรมควบคุมโรค และ TRUE, AIS, DTAC ด้วย

1. กระทรวงกลาโหมเกี่ยวอะไรด้วยกับเรื่องนี้ กระบวนการสอบสวนโรคควรเป็นเรื่องของกรมควบคุมโรคล้วนๆ และหนังสือนี้มีมาตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 แล้ว ทำไมกระทรวงกลาโหม / กสทช. / กรมควบคุมโรค ถึงไม่เคยเปิดเผยกระบวนการนี้ให้ประชาชนรับรู้เลย ทั้งที่จะใช้ข้อมูลส่วนบุคคล?

2. หนังสือทั้งสองฉบับออกตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 ก่อนวันเปิดตัวโครงการ “ไทยชนะ” เกือบหนึ่งเดือน เกิดคำถามทันทีว่าแล้วทำไมต้องมีโครงการ “ไทยชนะ” อีก ในเมื่อข้อมูลเบอร์และสัญญาณมือถือที่ขอตามหนังสือนี้ก็มากเกินพอแล้วต่อการสอบสวนโรค (แถมละเอียดและครอบคลุมกว่าข้อมูล QR code ที่ได้จาก “ไทยชนะ” หลายเท่า)

เชื่อว่าจนถึงวันนี้คนไทยทั้งประเทศไม่รู้เลยว่ามีกระบวนการนี้อยู่ นึกว่ามีแต่ “ไทยชนะ” เท่านั้นที่เป็นการใช้ข้อมูลมือถือช่วยกระบวนการสอบสวนโรค (และอย่าลืมว่า สามสัปดาห์ผ่านไป “ไทยชนะ” ก็ไม่ได้โปร่งใสแม้แต่น้อย เรายังคงไม่รู้ว่าใครใช้ข้อมูลเหล่านั้นบ้างและเอาไปทำอะไรบ้าง)

3. วันนี้บริษัทมือถือทั้งสามเจ้ามีการส่งข้อมูลให้กรมควบคุมโรคทุกวัน ตามขั้นตอนที่ระบุในหนังสือนี้แล้วหรือไม่ การส่งข้อมูลเป็นไปตามระบบและนโยบายการคุ้มครองข้อมูล (data governance) ขององค์กรหรือไม่ (ที่ผู้ให้บริการทุกเจ้าได้ปรับปรุงแล้วเพื่อให้เป็นไปตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล)


 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน