คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง : ร้าวลึก ร้าวใหญ่ ภายใน พลังประชารัฐ เปิดหน้า ชกหน้า
ร้าวลึก ร้าวใหญ่ – มีความแจ่มชัดภายในพรรคพลังประชารัฐมากยิ่งขึ้น
เป็นความแจ่มชัดในความขัดแย้ง เป็นความแจ่มชัดในกระบวนท่าที่แต่ละฝ่ายงัดขึ้นมาเป็นเครื่องมือ เป็นอาวุธในการต่อสู้
เห็นได้จากจังหวะก้าวของ นายอุตตม สาวนายน
ไม่ว่า นายอุตตม สาวนายน ไม่ว่า นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ไม่ว่า นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ สัมผัส ได้จากการชูภาพการเมือง“ใหม่”เพื่อต่อกรกับการเมือง“เก่า”
ประสานกับการเคลื่อนไหวของ “กลุ่ม 6 ส.ส.”
ถามว่าแล้วกลุ่มที่ถูกเรียกว่าการเมือง“เก่า” ดำเนินกลยุทธ์อย่างไร
หากมองจากภาพการเคลื่อนไหวผ่านใบลาออกของ 18 กรรมการบริหารพรรค เด่นชัดอย่างยิ่งว่ายึดกุมหลักกฎหมายพรรคการเมืองอย่างเคร่งครัด
เอาจำนวนเข้าไปกำหนดในแต่ละจังหวะก้าว
ยิ่งหากมองจากท่วงท่าอาการของ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ที่คอยกระตุ้นชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นต้องจัดการประชุมเพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคภายใน 45 วัน
ยิ่งเห็นชัดว่าเอาหลัก“กฎหมาย”มาเป็น “เครื่องมือ”
ภายในการเคลื่อนไหวของแต่ละฝ่าย“รอยร้าว” ยิ่งปรากฏอย่างมิอาจปิดบัง
โดยเฉพาะเมื่อภาพของการเมือง“ใหม่”ได้รับ การขยายผ่านบทบาทของ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ นับแต่ตั้งคำถามอย่างชนิดติดต่อกันรายวัน
ถามว่าเบื่อมั้ย ถามว่าทำไม“คนดี”จึงถูกกีดกัน
ก็ได้รับการสวนกลับอย่างรุนแรงแข็งกร้าวเป็นรายวันเหมือนกัน รุนแรงแข็งกร้าวถึงกับเรียกร้องให้ลาออก เรียกร้องให้ไปเลี้ยงหลานอยู่บ้าน
ไม่ประนีประนอม ไม่ถ้อยทีถ้อยอาศัย
นับแต่มีการเคลื่อนไหวเพื่อเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค
มีความพยายามจะกลบเกลื่อนว่าไม่มีอะไรร้ายแรง มีความพยายามจะยืนยันว่าเป็นเรื่องภายในที่ในที่สุดก็จะสามารถตกลงกันได้
แต่ยิ่งนานวันยิ่งเห็นชัดว่าต้องการเปลี่ยนจริงๆ ไม่ใช่ปาหี่
