พิธา ห่วง ไพบูลย์ คุมตรวจสอบงบโควิด ซัด ประยุทธ์ พูดหล่อแค่ลมปาก!

วันที่ 18 มิ.ย. พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แสดงความคิดเห็นถึงกรณี นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ ได้รับเลือกให้เป็นประธาน กมธ.ติดตามตรวจสอบเงินกู้โควิด ความว่า เมื่อประธานกมธ.ติดตาม-ตรวจสอบงบฯโควิดมาจากรัฐบาล ประชาชนยิ่งต้องร่วมจับตามอง ผมพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในฐานะกรรมาธิการสัดส่วนพรรคก้าวไกล ต้องขอย้ำว่ากว่าจะตั้งกรรมาธิการวิสามัญติดตาม-ตรวจสอบงบประมาณ และมาตรการการแก้ไขปัญหาวิกฤติการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ชุดนี้ได้ ไม่ใช่เรื่องง่าย

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

ทุกท่านทราบกันดีว่ารัฐบาลแสดงท่าทีชัดเจนว่าไม่ได้ต้องการให้รัฐสภาตรวจสอบการใช้เงินกู้จำนวนล้านล้านบาท ซึ่งเป็นการกู้เงินที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย และไม่รู้ว่าจากนี้ไปอีกกี่สิบกี่ร้อยปีที่ประเทศของเราจะมีโอกาสกู้เงินมหาศาลขนาดนี้อีก ซึ่งแน่นอนงบประมาณมหาศาลขนาดนี้จะปล่อยให้รัฐบาลใช้ตามอำเภอใจไม่ได้ ผู้แทนประชาชนที่ต้องรักษาผลประโยชน์จำนวนมหาศาลให้กับประเทศชาติและประชาชน

พรรคก้าวไกล เป็นผู้ริเริ่มยื่นและผลักดันญัตติตั้งกมธ.ชุดนี้เป็นพรรคแรก จากนั้นก็มีพรรคฝ่ายค้านเห็นร่วมกับเสนอญัตติ ซึ่งการเกิดขึ้นของกมธ.นี้แสดงให้เห็นถึงความเห็นพ้องต้องกันของของพวกสภาผู้แทนราษฎร แม้รัฐบาลจะไม่เห็นด้วยตั้งแต่แรกก็ตาม

ในที่ประชุมในวันนี้ เสียงข้างมากได้โหวตให้ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประรัฐ ทำหน้าที่เป็นประธานกรรมาธิการนี้ โดยผมเห็นว่าจะทำให้มีความกังวลหลายอย่างในการตรวจสอบความโปร่งใสและประสิทธิภาพของการใช้เงินจำนวนมากที่รัฐบาลกู้มานี้

ผมเชื่อว่าพวกเราเห็นจุดอ่อนการระบบการตรวจสอบถ่วงดุลที่มีอยู่ว่าไม่น่าจะเพียงพอ และดูน่าแคลงใจว่าจะเป็นการตรวจสอบกันเองเสียมากกว่า ซึ่งแน่นอนมันมีความเป็นไปได้ที่จะนำมาซึ่งการทุจริตอย่างมโหฬาร ดังที่พวกเราพอได้กลิ่นโชยมาเป็นระยะๆ ว่าจะมีการแบ่งงบให้นักการเมืองเท่านั้นเท่านี้ หรือมีนักการเมืองไปพูดคุยกับท้องถิ่นเพื่อเข้าไปมีส่วนในการใช้งบประมาณ และที่ชัดเจนคือการใช้เงินไปกับโครงการที่ไม่ได้ช่วยยกเครื่องประเทศ แต่ผมยังตั้งใจและหวังเป็นอย่างยิ่งว่า กมธ.ของพวกเราซึ่งประกอบด้วยบุคคลที่มีความหลากหลาย จะช่วยตรวจสอบการใช้งบประมาณของรัฐบาลให้ใช้อย่างถูกทิศถูกทาง

ภารกิจนี้ของพวกเรามีความท้าทายอย่างมาก และที่ผมได้เคยกล่าวไปแล้วตอนเสนอญัตตินี้ว่า พวกเรากำลังเดินทางไปสู่น่านน้ำที่ไม่มีใครรู้จัก พวกเราในที่นี้ไม่มีใครเคยไป ดังนั้นการเดินทางครั้งนี้จึงสำคัญอย่างยิ่ง ด้วยเหตุนี้หน้าที่ในการตรวจสอบการใช้เงินกู้ของพวกเรามีเดิมพันคืออนาคตประเทศไทย คือการรักษาผลประโยชน์จำนวนมหาศาลของประชาชน ถ้าเราทำได้ดีประเทศไทยและพี่น้องประชาชนของพวกเราจะมีคุณภาพชีวิตที่ดี แต่ถ้าล้มเหลวพวกเราจะไม่เหลืออะไรเลย

เพื่อให้สอดคล้องกับสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศถึงแนวทางการทำงานของรัฐบาล “New Normal” ผมอยากเชิญชวนให้ประชาชนร่วมกันติดตามและตัดสินกันว่ารัฐบาลได้เปิดโอกาสให้ประชาชนร่วมแสดงความเห็นและร่วมตรวจสอบการความโปร่งใสของรัฐบาลมากเพียงใด เพราะหากดูจากผลงานที่ผ่านมาตลอดนั้น ผมคิดว่าประชาชนส่วนใหญ่ได้ตัดสินแล้วว่า สิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ได้แถลงข่าวไปนั้น น่าจะเป็นแค่เพียงลมปากเท่านั้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน