เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 23 มิ.ย. ที่ศูนย์ประชุม ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อาคารวัน ตรงข้ามศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายไพบูลย์ นิติตะวัน รักษาการรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงบรรยากาศแกนนำพรรคเทียบเชิญ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มาเป็นหัวหน้า พรรค พปชร. ว่า
บรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย การเข้าไปขอเข้าพบเพื่อขอร้องให้พล.ประวิตร มาเป็นหัวหน้าพรรค เพราะพล.อ.ประวิตรเป็นเสาหลักและสร้างความเป็นเอกภาพ ทำให้พรรคเข้มแข็งขึ้น การที่ไปขอร้องนั้น แกนนำก็เดินทางไปในที่ พล.อ.ประวิตร สะดวก
ยืนยันว่าพล.อ.ประวิตร ไม่ได้อยากจะเป็นหัวหน้าพรรค แต่ด้วยเหตุผลต่างๆจึงต้องยอมรับตำแหน่ง และทุกคนในพรรคก็มีความต้องการที่อยากจะให้พล.อ.ประวิตร มาทำหน้าที่
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าไปเชิญที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดหรือไม่ นายไพบูลย์กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ผู้สื่อข่าวทราบอยู่แล้ว โดยเข้าไปใช้เวลาไม่นาน
ส่วนกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จะไปร้องเรียนยังปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะนายทะเบียนมูลนิธิตามกฎหมาย และร้องเรียนต่อป.ป.ช. ให้ตรวจสอบการกระทำดังกล่าว ว่าเป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับของมูลนิธิที่ระบุไว้คือห้ามเกี่ยวข้องกับการเมือง ว่ามีสิ่งที่ผิดกฎหมายและฝ่าฝืนต่อจริยธรรมหรือไม่
นายไพบูลย์ กล่าวยืนยันว่าไม่ผิดกฎหมายแน่นอน ว่าถ้ามูลนิธิเป็นสถานที่ราชการ อย่างนั้นนักการเมืองก็ต้องห้ามไปกกต. ตนตั้งมูลนิธิมามาก จะมีข้อบังคับอยู่ว่าห้ามยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่ที่ไปนั้นคือไปหาพล.อ.ประวิตร ไม่ใช่ไปหามูลนิธิ
และเนื่องจากพล.อ.ประวิตร สะดวกที่นั่น ยืนยันว่าไม่ได้ใช้พื้นที่ของมูลนิธิเพื่อทำกิจกรรมทางการเมือง หากใครมองว่าเป็นเรื่องผิด จะดำเนินการไปฟ้องก็ไปฟ้องได้เลย และตนก็อยู่ในนั้น หากจะฟ้องก็มาฟ้องตนด้วย เพราะไม่เห็นว่าผิดตรงไหน
เมื่อถามถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าการที่พล.อ.ประวิตร มาเป็นหัวหน้าพรรค จะถูกมองว่าเป็นพรรคของทหาร นายไพบูลย์ กล่าวว่า คนที่เคยเป็นทหาร และมาเป็นนักการเมืองถือว่าเหมาะที่สุด เพราะทหารเสียสละเพื่อชาติ และการที่ทหารมาเป็นหัวหน้าพรรคการเมือง จึงถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ถ้าเทียบกับอาชีพอื่นแล้ว ทหารมาเป็นนักการเมืองถือว่าดีที่สุด
