เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 13 ก.ค. ที่บริเวณท้องสนามหลวง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการอำนวยการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วย พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศ และบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และคณะกรรมการอำนวยการฯ พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี (ครม.) ลงพื้นที่ตรวจติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างพระเมรุมาศและอาคารประกอบ และชมความคืบหน้างานประติมากรรม จิตรกรรมประดับพระเมรุมาศ อาทิ องค์มหาเทพ สัตว์หิมพานต์

จากนั้นตรวจเยี่ยมการก่อสร้างพระที่นั่งทรงธรรม ทิม ศาลาลูกขุน ทับเกษตร โดยมี นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วธ. ผู้บริหารระดับสูง วธ. และนายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร พร้อมนายช่างและผู้เชี่ยวชาญ ต้อนรับและรายงานงานความคืบหน้า ทั้งนี้ กรมศิลปากร ได้รายงานข้อมูลความคืบหน้าการจัดสร้างพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศ และการบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศ

สำหรับขณะนี้มีความคืบหน้า ขณะนี้มากกว่าร้อยละ 60 ได้ดำเนินการงานติดตั้งฐานชาลาทั้งสามชั้นแล้วเสร็จ ประกอบด้วย พื้น บันได ฐานสิงห์ แท่นฐานเทวดา ไปจนถึงการกรุหุ้มเสา เพดาน และชั้นหลังคาด้านบนแล้วเสร็จเกือบทั้งหมด รวมทั้งบุษบกซ่างและบุษบกหอเปลื้อง ซึ่งได้กรุผิวบริเวณฐาน หุ้มเสา และประกอบชั้นหลังคาเกือบทั้งหมดแล้ว ขณะนี้สถาปนิกและช่างศิลปกรรม ได้ออกแบบลวดลายตกแต่งพื้นผิวทั้งหมดของพระเมรุมาศ โดยจะทำด้วยผ้าทองย่นตอกฉลุลายและสาบสี ซึ่งจัดเตรียมไว้ให้พร้อมสำหรับนำมาติดตั้งเป็นขั้นตอนต่อไป เมื่อติดตั้งและตกแต่งแล้วเสร็จ พระเมรุมาศจะมีสีทองแวววาวทั้งองค์

นอกจากนี้ การก่อสร้างอาคารประกอบในพระราชพิธี อาทิ พระที่นั่งทรงธรรม ศาลาลูกขุน ทับเกษตร ทิม และพลับพลายก มีความคืบหน้าไปมาก รวมทั้งงานภูมิสถาปัตยกรรม ได้จำลองสระอโนดาตไว้บริเวณมุมทั้งสี่ของฐานพระเมรุมาศสำหรับติดตั้งเขามอและประดับด้วยเหล่าสัตว์หิมพานต์ และพื้นที่ทางด้านทิศเหนือได้เตรียมขุดปรับดินเพื่อจำลองสระแก้มลิงและฝายน้ำล้น ติดตั้งกังหันน้ำชัยพัฒนา ตลอดจนเตรียมพื้นที่สำหรับแปลงนาจำลองที่ทำคันนาเป็นรูปเลข 9 สีดินทอง ซึ่งกรมการข้าวจะจัดเตรียมพันธุ์ข้าวและกำหนดให้ออกรวงตรงกับวันออกพระเมรุมาศ รวมไปถึงการจัดเตรียมพืชพันธุ์ไม้ดอกสีเหลืองตกแต่งทั่วทั้งบริเวณ เพื่อให้ภูมิทัศน์ในวันนั้นงดงาม สมพระเกียรติที่สุด

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วน ที่ร่วมมือกันทำงานถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนภาคภูมิใจในความเป็นไทย ทั้งนี้ตนไม่กังวลอะไร และเชื่อว่าทุกอย่างจะแล้วเสร็จตามกำหนดเวลา เพราะตอนได้ติดตามและเห็นความก้าวหน้าอยู่ทุกวัน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในการชี้แจงเรื่องต่างๆ ควรมีการร่างข้อมูลต่างๆให้พอดีกับเวลาที่มีอยู่ มิเช่นนั้นพิธีกร จะหาอะไรมาพูด และอาจจะไม่ตรงไม่ถูกต้อง ทั้งนี้ก็เพื่อให้เกิดสาระและมีข้อมูลที่เชื่อมโยงกัน เพราะงานที่จะเกิดขึ้นนี้ ถือเป็นหน้าตาของประเทศ มีการถ่ายทอดสดไปยังประเทศต่างๆ ซึ่งทุกประเทศต่างเฝ้ารอชม ผู้นำและตัวแทนหลายประเทศบอกว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ไม่ได้มีความสำคัญเฉพาะในประเทศไทยประเทศเดียว แต่สำคัญทั้งภูมิภาคและทั่วโลก เพราะทรงทำสิ่งต่างๆไว้ให้มวลมนุษย์ชาติมากมายหลายประการ โดยเฉพาะปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ศาสตร์แห่งการพัฒนา

“ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้ประเทศไทย เป็นไทอยู่จนถึงทุกวันนี้ สถาบันพระมหากษัตริย์สำคัญที่สุด เราไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง สิ่งที่มีอย่างยาวนานไปสู่สิ่งใหม่ทั้งหมด เราต้องอยู่บนพื้นฐานประวัติศาสตร์ของเรา ถ้าเราไม่รู้ประวัติศาสตร์ของเรา จะไม่รู้ว่าจะรักประเทศของเราได้อย่างไร ดังนั้นต้องรู้ความเป็นมาของเรา ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีรับสั่งกับผมและหลายท่านในเรื่องดังกล่าว ว่าถ้าคนไทยไม่รู้ประวัติศาสตร์ของตัวเอง จะไม่รู้ว่าเรามาจาก แล้วคุณจะรักประเทศไทยได้อย่างไร ฉะนั้นใครที่ไม่รักชาติ แสดงว่าไม่ใช่คนไทย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่ยังเป็นห่วงคือแผนการเผชิญเหตุต่างๆ โดยต้องเตรียมความพร้อม ทั้งเรื่องไฟฟ้า ฝน เพื่อให้เกิดความราบรื่น แต่ด้วยบุญญาพระบารมี เชื่อว่าจะทำให้งานทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมพระเมรุมาศว่า ปลื้มใจและดีใจที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย อยู่ในพื้นแผ่นดินไทยที่มีสถาบันพระมหากษัตริย์ ปกป้องคุ้มครองตลอดชีวิตของตน เราคือคนไทยมีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่าหลายประเทศ แม้ว่าหลายประเทศจะเจริญมากกว่าไทย แต่ประเทศไทยพัฒนาอย่างยั่งยืน การพัฒนาแบบตะวันตกอาจรวดเร็ว แต่ไม่ยั่งยืนเท่าตะวันออก ดังนั้นจึงต้องผสมผสานกัน

“วันนี้อยากให้ทุกคนภูมิใจไปกับผมด้วย ว่าเราได้อยู่ในแผ่นดินแห่งความสุข ภายใต้ร่มพระบารมี ซึ่งในหลวงรัชกาลที่ 9 พระราชทานศาสตร์พระราชา เราจึงต้องพร้อมจิตพร้อมใจในการทำถวาย ทำสิ่งที่พระองค์ท่านทรงทำไว้ให้คงอยู่ตลอดไป และเป็นที่น่ายินดีที่ในหลวงรัชกาลที่ 10 ทรงพระราชทานกับผมไว้ด้วยว่าให้ ยึดถือแนวทางศาสตร์พระราชาในการปฏิบัติ ให้เกิดผลสัมฤทธิ์มากที่สุด ไม่มีอะไรยิ่งใหญ่ไปกว่าสิ่งที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงพระราชทานไว้ให้กับแผ่นดินนี้ โดยรัชกาลที่ 10 ทรงสืบสานต่อไป และรัฐบาลจะนำไปสู่การปฏิบัติ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกฯ กล่าวว่า การสร้างพระเมรุมาศจะเสร็จสิ้นภายในเดือนกันยายน และจะตรวจสอบความพร้อมในงานประณีตศิลป์อีกครั้ง ทั้งนี้ ต้องการให้บันทึกภาพเหล่านี้ไว้ เพราะถือเป็นหนึ่งเดียวในโลก เพราะเหล่านี้ถือเป็นประเทศไทย ที่หากไม่มีสถาบัน ก็ไม่มีใครมา

“อยากให้ประชาชนรักษาสิ่งที่ดีไว้ อย่าไปทำสิ่งที่ไม่ดี เพราะจะได้ช่วยเปลี่ยนแปลงประเทศในทางที่ก้าวหน้า อย่าไปฟังพวกไร้สาระ อยากขยายข่าวขยายความให้พวกไร้สาระ เพราะจะก่อปัญหา” นายกฯ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการแถลงข่าว ไมีฝนตกลงมาอีกครั้ง โดยนายกฯ กล่าวว่า “ฝนตกแล้วทำไม คนไทยไม่ใช่น้ำตาล ไม่ต้องไปกลัว แข็งแรงไว้ เป็นเด็กเป็นเล็ก ต้องแข็งแรง ไม่ต้องกลัวไม่สวย ผอมเกินไปไม่ดี ผู้ชายต้องแข็งแรงเพื่อปกป้องผู้หญิง ไม่ใช่ให้ผู้หญิงมาปกป้อง ฝนตกมาก็ร่มเย็น ถ้าใครกลัวก็กลับบ้านไป ทั้งนี้ในระหว่างการเยี่ยมชมประติมากรรม นายกรัฐมนตรี ได้ร่วมลงสีงานประติมากรรมสิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศ ครุฑ และเทวดายืน”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน