“พิธา” ชี้ เศรษฐกิจไทย ดื้อยาขนาดหนัก เป็น “มหาประยุทธตภัย” ถมงบเท่าไหร่ไม่กระเตื้อง จัดงบเหมือนไม่ใช่ภาวะวิกฤต ระบุ ปชช.ต้องการรัฐบาลหา ใช้ กู้เงินเป็น

เวลา 12.30 น. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล อภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 วงเงิน 3.3 ล้านล้านบาท ว่า ปี 64 นอกจากจะเป็นปีที่ประชาชนจะทุกข์แสนสาหัส ยังต้องบันทึกในประวัติศาสตร์ชาติไทยด้วยว่า

เป็นปีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ใช้งบประมาณแผ่นดินครบ 20 ล้านล้านบาท ต่อเนื่องยาวนานมากที่สุดตั้งแต่บริหารประเทศยึดอำนาจมา ตั้งแต่ปี 57 ถึงปัจจุบัน

แต่น่าแปลกใจ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศได้น้อยมาก การแก้ปัญหาที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยดื้อยาขนาดหนัก เป็นมหาประยุทธตภัยที่แม้ว่าจะถมงบประมาณไปเท่าไหร่เศรษฐกิจก็ไม่เต็มไม่กระเตื้อง การแก้ไขปัญหาประเทศต่อจากนี้หากแก้ปัญหาแบบเดิมงบแบบเดิม แล้วคาดหวังว่าจะได้ผลลัพธ์แบบใหม่คงเป็นไปไม่ได้ ไม่ว่าเราจะใส่เม็ดเงินลงไปมากเท่าไหร่ก็ตาม เรากำลังเผชิญมหาวิกฤตที่ล้อมประเทศ มหาวิกฤตที่โลกกำลังปรับตัวบังคับให้ไทยต้องเปลี่ยน

วันนี้รัฐบาลกุมทรัพยากรซึ่งเป็นงบประมาณจากส่วนต่างๆอยู่มหาศาล ที่จะแก้ไขปัญหาของประชาชน ซึ่งเงินจำนวนมหาศาลในวิกฤตครั้งนี้หากรัฐบาลใช้เป็นเราจะพลิกวิกฤตเป็นโอกาสได้ แต่น่าเสียดายที่งบ 64 เป็นการจัดงบประมาณเหมือนประเทศไทยไม่มีวิกฤต ไม่แตกต่างจากการจัดงบปี 63 ซึ่งหากชุดความคิดยังเหมือนเดิมการจัดงบปีต่อๆไปก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลง

นายพิธา กล่าวว่า สถานการณ์ทั้งรายจ่าย และรายได้ของประเทศหนักหนาสาหัส การใช้จ่ายเงินแต่ละเม็ดต้องคุ้มค่า ตอนนี้ไม่ใช่เวลาของเรือดำน้ำ ไม่ใช่เวลาของกระสุนปืน แต่เป็นเวลาของวัคซีน การสร้างงาน ความมั่นคงทางสิ่งแวดล้อม รัฐบาลคือความหวังสุดท้ายของประชาชน ประเทศจะรอดได้ รัฐบาลต้องใช้เงิน หาเงิน และกู้เงินเป็น ต้องใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เป็นและคุ้มค่า

“งบประมาณของประเทศเป็นงบข้าราชการไม่ใช่งบประชาชน เพราะงบมีภาระผูกพันอยู่แล้ว งบที่สามารถโยกย้ายไปใช้สำหรับประชาชนได้มีน้อยกว่าค่าใช้จ่ายบุคลากรของภาครัฐ ทั้งหมดเป็นเรื่องที่ทดสอบรัฐบาลว่าใช้เงินเป็นหรือไม่ ที่สำคัญไม่แพ้กันคือประชาชนต้องการรัฐบาลที่หาเงินเป็น โลกข้างหน้าคือโลกที่เราต้องพึ่งพาตัวเองให้มากที่สุด เราต้องพยายามสร้างนวัตกรรมใหม่ๆทดแทนการกินบุญเก่าของอุตสาหกรรมเก่าๆ รวมถึงการหาฐานภาษีใหม่ๆที่จะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับรัฐบาลที่กำลังจะถังแตก” นายพิธา กล่าว

นายพิธา กล่าวอีกว่า ฝากไปถึงรัฐบาลที่ใช้เงินหาเงินไม่เป็น ว่าวิกฤตครั้งนี้เราคาดหวังต่างประเทศไม่ได้แล้ว เพราะลำบากกันทุกประเทศ ตอนนี้มี 90 กว่าประเทศทั่วโลกขอกู้จากไอเอ็มเอฟ ดังนั้น งบที่ตนจะเห็นชอบต้องสะท้อนว่ารัฐบาลหาเงินเป็น ใช้เงินเป็น และกู้เงินเป็น

รัฐบาลต้องมีเงินเพียงพอต่อความเดือดร้อนของประชาชน และใช้จ่ายเพื่ออุตสาหกรรมแห่งโลกอนาคต ต้องกระจายอำนาจให้การคลังท้องถิ่นจัดเก็บรายได้มากขึ้น การกู้เงินให้เป็นรัฐบาลต้องบริหารให้เกิดความน่าเชื่อถือ สร้างเสถียรภาพให้ประเทศ เป็นการกู้เพื่อหารายได้ให้ประเทศ

ถ้ากู้เพื่อแบ่งเค้กคอร์รัปชั่นกินกันเอง ปราบปรามประชาชนของตัวเองที่เห็นต่าง เศรษฐกิจจะยิ่งวิกฤตไปกันใหญ่ ขอฝากคำถามถึงนายกฯ ว่าจะแก้วิกฤตได้อย่างไร เพราะงบ 64 ยังร่างมาเหมือนประเทศไม่ได้อยู่ในวิกฤต โลกปรับแต่ไทยไม่เปลี่ยน เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตนจึงไม่สามารถเห็นชอบร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ในวาระแรกได้


 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน