“ธนาธร” ติวเข้ม 18 ผู้สมัคร ลุยเลือกตั้งท้องถิ่น ยันใช้นโยบายนำ-ไม่ใช้เงิน
เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 4 ก.ค. ที่ทำการคณะก้าวหน้า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์ก่อนติวเข้มผู้สมัครองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) เพื่อลุยศึกเลือกตั้งท้องถิ่นทั่วประเทศ ว่า วันนี้เป็นการซักซ้อมทำความเข้าใจผู้สมัครนายก อบจ. และสมาชิกสภาอบจ.ทั่วประเทศ โดยจะส่งผู้สมัครทั้งหมดใน 18 จังหวัด วันนี้จึงมาร่วมทำความเข้าใจผู้สมัครในนามคณะก้าวหน้า ซึ่งถือเป็นการพบปะกันครั้งแรก
อย่างไรก็ตามแม้พรรคอนาคตใหม่โดนยุบไปแล้ว และได้แตกเป็นสองส่วน คือ ส.ส.ในนามพรรคก้าวไกล ที่ยังยึดมั่นหนักแน่นในอุดมการณ์ทำงานการเมืองระดับชาติในสภาผู้แทนราษฎร และอีกส่วนคือคณะกรรมการบริหารที่ถูกตัดสิทธิ์ไป แต่ทุกคนยังทำงานการเมืองเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยต่อเนื่องในนามคณะก้าวหน้า จึงยืนยันว่าเราจะเดินหน้าทำงานการเมืองทั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่นทุกระดับเป็นทิศทางที่เราจะเดินไป
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เมื่อถามว่า ความแตกต่างระหว่าง การเมืองท้องถิ่นแบบเก่ากับการเมืองท้องถิ่นในแนวทางของคณะก้าวหน้า นายธนาธร กล่าวว่า คณะก้าวหน้ายืนยันใช้แนวทางของพรรคอนาคตใหม่เดิมคือการแข่งขันด้วยอุดมการณ์ด้วยความจริงใจและความคิดสร้างสรรค์ โดยเอานโยบายใหม่ๆมาพัฒนาเมืองไม่ใช้เงินซื้อเสียงที่จะเป็นจุดเริ่มต้นการทุจริต เพราะเมื่อใช้เงินเมื่อไหร่หลังจากนั้นก็มีการถอนเงินคืน ไม่เป็นประชาชนและทำให้ประชาธิปไตยไม่เข้มแข็ง ดังนั้นเรายืนยันไม่ใช้เงิน ไม่ใช้อิทธิพลและไม่ใช้เครือข่าย แต่จะใช้นโยบายเป็นตัวนำ
นายธนาธร ยังกล่าวถึงแนวทางการส่งผู้สมัครลงชิงผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ว่า ตอนนี้ยังไม่ให้ความสำคัญถึงตรงนั้น ขณะนี้ยังอยู่ในระดับนายกอบจ. หรือส่วนท้องถิ่น ซึ่งขณะนี้ยังเปิดรับผู้สมัครเรื่อยๆ หากใครสนใจเข้ามาร่วม โดยหวังอยากให้มีผู้สมัครทั่วประเทศไทย จึงอยากใช้โอกาสนี้เชิญชวน หากใครรู้สึกเบื่อทนไม่ไหวที่เห็นบ้านตัวเองไม่พัฒนาและอยากเปลี่ยนบ้านเกิดตัวเองมา ขอให้มาร่วมกับคณะก้าวหน้าเพื่อให้เป็นผู้บริหารระดับท้องถิ่น ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นครอบครัวการเมืองหรือเป็นผู้มีอิทธิพล แต่ใครมีอุดมการณ์เดียวกับพวกเราขอเชิญชวน
เมื่อถามว่ากรณีที่ได้รับแต่งตั้งเป็นคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณางบประมาณปี 2564 นายธนาธร กล่าวว่า ยืนยันว่าการเข้าเป็นกรรมาธิการพิจารณางบประมาณปี 2564 ในครั้งนี้ ตนจะทำงานให้เต็มที่ให้สมกับที่ได้รับการแต่งตั้งจากสภาฯ เพื่อไปตรวจสอบการใช้งบฯของฝ่ายนบริหารและเสนอแนะการใช้งบฯเพื่อเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ตนจึงขอเป็นตัวแทนประชาชน เพื่อตรวจสอบการทำงานและเสนอแนะให้ใช้งบฯให้เกิดประโยชน์สูงสุด
เมื่อถามว่า มีกระแสโจมตีเพราะก่อนหน้านี้เคยลาออกจากการเป็นกรรมาธิการพิจารณางบประมาณปี 2563 นายธนาธร กล่าวว่า บริบทปีที่แล้วตนถูกตัดสินยุบพรรคและตัดสิทธิ์ทางการเมือง จึงยอมลาออกจากกรรมาธิการในบริบทางการเมืองตอนนั้น แต่แม้เราถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง แต่ไม่ได้หมายถึงความเป็นพลเมืองถูกตัดสิทธิ์ไปด้วย ดังนั้นการเป็นกรรมาธิการ ในครั้งนี้ก็เป็นสิทธิ์ไม่มีกฎหมายห้าม
