วันที่ 5 ก.ค. ที่อาคารแบงค์ค็อกธนบุรี ฮอล์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี พรรครวมพลังประชาชาติไทย รปช. มีการจัดประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2562 เพื่อแจ้งการดำเนินกิจการของพรรคที่ผ่านมาให้สมาชิกพรรครับทราบ พร้อมให้ความเห็นชอบรายงานการเงินและการดำเนินกิจการของพรรคในรอบปีที่ผ่านมา รวมทั้งเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรค เลือกตั้งคณะกรรมการจริยธรรมและวินัย เลือกตั้งคณะกรรมการสรรหาผุ้สมัครรับเลือกตั้ง แก้ไขข้อบังคับพรรค

โดยมีนายทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง เลขาธิการพรรค รักษาการหัวหน้าพรรค พร้อมด้วยรักษาการกรรมการบริหารพรรค อาทิ นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์, น.ส.จุฑาฑัตต เหล่าธรรมทัศน์, ร.ต.อ.จอมเดช ตรีเมฆ ดำเนินการประชุม โดยมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคร่วมประชุมด้วย

นอกจากนั้นยังมีสมาชิกพรรคร่วมประชุมอย่างคับคั่ง โดยมีการปฏิบัติตามมาตรฐานการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุข ขณะที่ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล อดีตหัวหน้าพรรคไม่มาร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย เนื่องจากได้ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าและสมาชิกพรรคเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยที่ประชุมได้เลือก นายทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง เลขาธิการพรรค ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทยคนใหม่ แทน ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รมว.แรงงาน ที่ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคก่อนหน้านี้ ส่วนนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ได้รับเลือกเป็นกรรมการบริหารพรรคคนที่ 1 นายจักษ์ พันธ์ชูเพช กรรมการบริหารพรรคคนที่ 2 นายดนุช ตันเทอดทิตย์ กรรมการบริหารพรรคคนที่ 3

รปช.

ทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง หัวหน้ารปช.คนใหม่

ขณะที่นายดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง ผู้อำนวยการพรรค ได้รับเลือกเป็นเลขาธิการพรรคคนใหม่ น.ส.จุฑาฑัตต เหล่าธรรมทัศน์ เป็น เหรัญญิกพรรค นายธันย์ธรณ์เทพ แย้มอุทัย นายทะเบียนพรรค

ส่วนนายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ และ น.ส.เพชรชมพู กิจบูรณะ เป็นโฆษกพรรค นอกจากนั้นยังมีตำแหน่งที่น่าสนใจคือคณะกรรมการจริยธรรมและวินัย 5 ตำแหน่ง มีการเลือกนายสมศักดิ์ วงศ์ยืน อดีตผู้พิพากษาในศาลฎีกา และหัวหน้าทีมทนายความของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการจริยธรรมและวินัย

เปลี่ยนโลโก้โดดเด่นกว่าเดิม

นอกจากนั้นยังมีการเปลี่ยนสัญลักษณ์พรรคใหม่ จากเดิมใช้เครื่องหมายวงล้อแห่งธรรมสีแดง ล้อมรอบด้วยรูปมือสีขาว ล้อมรอบด้วยวงล้อแห่งธรรมสีน้ำเงินอีกชั้นหนึ่ง โดยโลโก้ใหม่มีการตัดรูปมือสีขาวออกไปจากเดิม

เหลือเพียงวงล้อแห่งธรรมสีน้ำเงินรอบนอก แล้วเพิ่มรูป ช้างสีขาว ยืนอยู่ภายในวงสีแดงด้านใน และมีตัวอักษรชื่อพรรคเป็นภาษาไทยว่า พรรครวมพลังประชาชาติไทย และตัวอักษรชื่อพรรค เป็นภาษาอังกฤษว่า ACTION COALITION FOR THAILAND อยู่ภายในวงล้อสีน้ำเงิน

รปช.

โลโก้พรรครปช.รูปแบบใหม่

โดยนายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมพลังประชาชาติไทย ในฐานะโฆษกพรรค กล่าวถึงการเปลี่ยนโลโก้พรรคว่า คอนเซ็ปต์ยังคงเดิมคือวงล้อแห่งธรรม พร้อมปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ และเพื่อประชาชนตามเดิม

โดยเหตุผลที่เปลี่ยนโลโก้เพราะเวลาเข้าคูหาเกือบทุกพรรคเป็นวงกลม ทำให้กาได้ยาก อีกประการหนึ่งคือเราเป็นพรรคการเมืองที่ก้าวเข้ามาแล้ว และได้พัฒนาไปเรื่อยๆ ทุกอย่างทำให้เราต้องเปลี่ยนโลโก้ในครั้งนี้ ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้โลโก้ของพรรคโดดเด่นและจดจำได้มากขึ้นแน่นอน

เทือกมั่นรมว.แรงงานไม่หลุดมือรอฟังประยุทธ์คนเดียวเท่านั้น

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.)ให้สัมภาษณ์ถึงการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ของพรรครปช. ว่า พรรคเล็กๆก็มีความกระชับ มีความเป็นปึกแผ่นดี และความที่เป็นพรรคเล็ก คนไม่มาก ผู้เข้าร่วมประชุมจึงทราบดีว่าใครเป็นใคร รู้จักกันดี และรู้ฝีมือกันดี

ดังนั้น การเสนอชื่อกรรมการบริหารพรรคเขาก็รู้ดีอยู่แล้วว่า การเลือกครั้งนี้เลือกมาเพื่อรักษาการ เรียกว่าเป็นกรรมการบริหารพรรคชุดรักษาการรอวันเวลาที่จะมีการประชุมสมัชชาพรรค ซึ่งจะประชุมสมาชิกทุกคนทั่วประเทศ โดยจะมีการลงมติโดยสมาชิกทุกคนเพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรค 7 คน ในที่ประชุมใหญ่สมัชชา

ส่วนการเสนอชื่อคณะกรรมการบริหารพรรคครั้งนี้ ถือเป็นการเตรียมความพร้อมไปถึงการเสนอชื่อคนที่จะเป็นรัฐมนตรีในการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งต่อไปหรือไม่นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า รัฐมนตรีของพรรคเราได้เสนอชื่อไปแล้วตั้งแต่วันแรกที่ ม.ร.ว. จัตุมงคล โสณกุล อดีต รมว.แรงงาน ลาออกแล้ว

โดยคณะกรรรมการบริหารพรรคมีมติ และเลขาธิการพรรคก็ได้ทำหนังสือถึงนายกฯแล้ว ดังนั้น ไม่เกี่ยวกับการเสนอชื่อคณะกรรมการบริหารพรรคในวันนี้ การเลือกกรรมการบริหารพรรควันนี้ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเลือกบุคคลเป็นรัฐมนตรีในนามของพรรค

เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่า รปช. จะไม่ได้กระทรวงแรงงานเหมือนเดิม นายสุเทพ กล่าวว่า ตนคิดว่า สิ่งที่เราต้องระมัดระวังคือข่าวสารต่างๆ มีข่าวลือ ข่าวลวง ข่าวปล่อยสาะพัด เราต้องตั้งสติคิด พิจารณาข่าวสารเหล่านี้ โดยบุคคลที่จะเป็นผู้มีอำนาจเด็ดขาดในการพิจารณาตัวบุคคลที่จะเป็นรัฐมนตรีรับผิดชอบกระทรวงต่างๆ คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ แต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น

บางคนอาจจะมาสัมภาษณ์ให้ข่าวต่างๆ อย่าไปฟัง ฟังไม่ได้ ฟังได้คนเดียวคือ พล.อ.ประยุทธ์คนเดียวเท่านั้น ทั้งนี้ ในส่วนกระทรวงแรงงาน พล.อ.ประยุทธ์ได้มอบหมายให้ รปช. รับผิดชอบงานของกระทรวงแรงงาน เมื่อ ม.ร.ว.จตุมงคลลาออกเราก็ได้เสนอชื่อ นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ เป็น รมว.แรงงานแทน ส่วนจะปรับครม.เมื่อไหร่ เวลาเหมาะสมอย่างไรคนตัดสินใจก็คือนายกฯ

เราไม่ได้ไปกดดัน หรือเร่งรัดท่าน เพราะเราเข้าใจสถานการณ์ทางการเมือง เมื่อนายกฯมอบหมายให้เราดูแลกระทรวงแรงงาน เราก็ดูแลกันทั้งพรรค ทำร่วมกับภาคเอกชน ประชาชนทั่วไป เพื่อทำให้กระทรวงแรงงานเป็นกระทรวงเศรษฐกิจของประเทศ เราได้แก้ไขปัญหาของกระทรวงมาตามลำดับ ต่อไปข้างหน้าคือการฟื้นฟูเศรษฐกิจของครอบครัวผู้ใช้แรงงาน ซึ่งพรรคได้ระดมสรรพกำลัง และสมองทำโครงการเสนอไปยังสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเรียบร้อย ซึ่งเรามั่นใจว่าเรามีความพร้อม

และเมื่อถามย้ำว่า ที่เราวางแผนการทำงานไว้แบบนี้ แปลว่าในการปรับครม.ครั้งต่อไป รปช. ยืนยันที่จะดูกระทรวงแรงงานใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า “ถูกต้องครับ”

เมื่อถามว่าถ้าไม่ได้กระทรวงแรงงาน นายสุเทพ กล่าวว่า อย่าถ้าเลย มันไม่มีอะไรที่ต้องเป็นถ้า พวกเราฟังนายกฯอย่างเดียว เราไม่ฟังคนอื่น ถ้าเอาพูดกันตามข่าว ต่างคนต่างพูดมันก็จะมีเรื่องวุ่นวายไปเยอะแยะ บ้านเมืองมีปัญหามากอยู่แล้ว เราต้องไม่สร้างปัญหาเพิ่ม

ส่วนที่การฟอร์ม ครม. ครั้งแรก กระทรวงแรงงานเป็นโควตาของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่พูดออกไปนอกกรอบนี้ ตนยืนยันว่าทุกอย่างเป็นอำนาจของนายกฯที่จะเป็นผู้ตัดสินใจ ท่านเป็นหัวหน้ารัฐบาล ท่านทราบดีว่า ท่านจะต้องให้ใครรับผิดชอบด้านไหน อย่างไร

เมื่อถามว่า สัดส่วนส.ส.ของพรรคอื่นเปลี่ยนบางพรรคมีจำนวน ส.ส. เพิ่มขึ้น แต่ รปช. มีจำนวนเท่าเดิมจะกระทบต่อโควตาของ รปช. หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนคิดว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เพราะนายกฯในฐานะหัวหน้ารัฐบาลได้ตัดสินใจแล้วว่าจะชวนพรรคไหนเข้าร่วมรัฐบาลบ้าง แล้วจะให้พรรคไหนรับผิดชอบงานด้านไหน

นายสุเทพ กล่าวว่า สำหรับเหตุผล ที่เลือกนายทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง เป็นหัวหน้า รปช. นั้น เนื่องจากก่อนหน้านี้นายทวีศักดิ์เคยทำหน้าที่เป็นเลขาธิการพรรค น่าจะมีความเหมาะสมที่จะทำหน้าที่หัวหน้าพรรค เนื่องจากมีประสบการณ์ และเพื่อต้องการแยกความชัดเจนระหว่างตำแหน่งหัวหน้าพรรคกับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานให้ชัดเจน

หัวหน้าพรรคจะได้ทำงานของพรรคได้อย่างเต็มที่ส่วน รมว.แรงงานก็จะได้ ทำหน้าที่รัฐมนตรีได้อย่างเต็มที่เช่นกัน เพราะกระทรวงแรงงานถือเป็นกระทรวงเศรษฐกิจที่สำคัญ รัฐมนตรีจะได้มีสมาธิทำงานอย่างเต็มที่ไม่ต้องมาห่วงงานของพรรคการเมือง ส่วนการประชุมสมัชชา ของพรรคจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่นั้น คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จะเป็นผู้กำหนด

โดยเบื้องต้นนายทวีศักดิ์ ประกาศว่าอาจจะมีการประชุมในช่วงปลายปี 2564 หรือช่วงต้นปี 2565 ซึ่งการจัดประชุมสมัชชาจะเป็นการรวมสมาชิกทั้งประเทศ โดยหัวใจสำคัญของการเป็นพรรคการเมืองคือการให้สมาชิกเป็นผู้ตัดสินซึ่งคาดว่าการจัดประชุมสมัชชาดังกล่าวจะเกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้ง

เมื่อถามว่า ในการประชุมสมัชชาของพรรคนั้น จะยึดแนวทางการเลือก หัวหน้าพรรค โดยแยกจากตำแหน่งรมว.แรงงาน เหมือนในครั้งนี้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับสมาชิกพรรค ที่จะเสนอชื่อใครก็ได้

แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถตอบอะไรได้ เป็นเรื่องของอนาคต เมื่อถามอีกว่าว่า หากมีสัญญาณยุบสภาหรือเลือกตั้งใหม่ก่อนรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์จะครบเทอม รปช. ต้องเลื่อนประชุมสมัชชาใหญ่ให้เร็วขึ้นหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตามความเห็นของตน เชื่อว่ารัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์จะอยู่ครบเทอม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน