เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 10 ก.ค. ที่อาคารมติชน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เข้าหารือกับบรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์เครือข่าวสด-มติชน เพื่อรับฟังมุมมองในการขับเคลื่อนประเทศ ในรูปแบบการทำงานแบบ นิวนอร์มัล

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การมาเยือนสื่อครั้งนี้เพื่อสร้างความเข้าใจและความร่วมมือในการสื่อสารเพื่อประโยชน์ของประชาชน ไม่ได้มาก้าวล่วงฐานันดรที่ 4 ยืนยันว่ายุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีต้องมี ขณะนี้รอสภา ผู้แทนราษฎรผ่านกฎหมายหรือมีการแก้ไขกฎหมายให้ทันสมัย สอดคล้องกับนิวนอร์มัล นอกจากนี้รัฐบาลจะผลักดันการท่องเที่ยวในประเทศให้ทั่วถึง ซึ่งจะลงไปสู่เมืองรองด้วย ตอนนี้ต้องทำให้คนที่ล้ม ลุกขึ้นยืนให้ได้ก่อน และจะดูแลทุกกลุ่ม ส่วนสถานการณ์โควิด-19 จะไม่ประมาท ต้องดูแลตลอดแนวชายแดนในเรื่องการเข้าออกเพื่อไม่ให้มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด และจำเป็นต้องใช้กฎหมายหลายฉบับมาดูแลร่วมกันเสนอแนะข้อกังวลหลังวิกฤตโควิด

ด้าน น.ส.ปานบัว บุนปาน เอ็มดีเครือมติชน กล่าวว่า ยินดีและเป็นเกียรติที่นายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางมาเยือนเพื่อพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ถึงแนวทางที่จะร่วมกันสร้างประโยชน์ให้เกิดขึ้นกับเพื่อนร่วมชาติ เครือมติชนต้องขอแสดงความชื่นชมและยกย่องความพยายามและความสำเร็จของรัฐบาล ในการต่อสู้ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จนกระทั่งสังคมไทยติดอยู่อันดับต้นๆ ของโลกในการควบคุมการระบาดของไวรัสร้ายตัวนี้ เป็นความสำเร็จที่สามารถถอดมาเป็นบทเรียน เพื่อใช้ในการร่วมกันดูแลสังคม ให้ปลอดจากโรคระบาด รวมถึงภัยคุกคามอื่นๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เครือมติชนเป็นกังวล ก็คือความวิตกที่ไม่แตกต่างไปจากประชาชนอีกเป็นจำนวนมาก นั่นคือ เมื่อพ้นจากภัยคุกคามของโรคระบาดแล้ว ทำอย่างไรสังคมไทยจะไม่พลัดตกลงไปในวิกฤติเศรษฐกิจ อันเนื่องมาจากความตกต่ำที่เกิดขึ้นกับทั้งโลก ทำอย่างไรจึงจะสามารถดูแล ให้ผู้มีฐานะทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอกว่า สามารถประคับประคองตนเองและครอบครัวให้ผ่านช่วงเวลาวิกฤตินี้ไปได้ ทำอย่างไรจึงจะป้องกันมิให้เกิดภาวะการว่างงานครั้งใหญ่ ที่จะยิ่งเป็นการซ้ำเติมวิกฤติให้รุนแรงขึ้นกว่าเดิม ทำอย่างไรจึงจะกระจายปัจจัยสี่ในการครองชีวิตให้กับสมาชิกในสังคมได้อย่างทั่วถึง ด้วยต้นทุนที่คนส่วนใหญ่สามารถแบกรับได้ ทำอย่างไรจะให้การฟื้นตัวของภาคเศรษฐกิจสำคัญ เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและเป็นรูปธรรม เพื่อให้มีรายได้ใหม่เข้ามาเจือจุนและการเกิดการหมุนเวียน ทำอย่างไรจะให้กลไกต่างๆ ในสังคม ไม่ว่าจะการเมือง ภาคประชาสังคม ภาคธุรกิจ หรือภาคอื่นๆ ไม่กลายเป็นเฟืองที่ขบกันเอง แต่เป็นฟันเฟืองที่จะเคลื่อนไหวไปข้างหน้าเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหานี้


ทั้งหมดนี้ เราเชื่อว่ารัฐบาลได้ตระหนัก และพยายามดำเนินการป้องกัน แก้ไข ฟื้นฟูอยู่แล้วอย่างเต็มกำลัง เครือมติชนขอเป็นกำลังใจ และปวารนาตัวว่า หากมีสิ่งใดที่สามารถเข้าไปร่วมช่วยเหลือได้ในฐานะผู้ประกอบวิชาชีพสื่อเราพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการร่วมประคับประคองและฟื้นฟูสังคมไทยให้กลับมารุ่งเรืองและยั่งยืนต่อไป

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์เปิดให้ตัวแทนกอง บ.ก.นำเสนอความคิดเห็น นายสุริวงค์ เอื้อปฏิภาน บ.ก.ข่าวสด กล่าวยกตัวอย่างการทำหน้าที่สื่อมาช่วยสร้างนิวนอร์มัลและเป็นส่วนหนึ่งช่วยแก้ไขปัญหา กรณีข่าวสดนำจุดแข็งในฐานะสื่อออนไลน์มาช่วยดูแลคนที่เดือดร้อนในช่วงโควิด อย่างการเปิดพื้นที่ฟู้ด เดลิเวอรีให้ร้านค้าต่างๆ ที่เข้ามาใช้สื่อสารกับ ผู้บริโภคในช่วงเวลาที่ต้องปิดร้าน หรือต่อมาข่าวสดจัดคอนเสิร์ตการกุศล ร่วมมือกับสาธารณสุข นอกจากนำเงินช่วยเหลือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลแล้วยังหาทางออกให้ศิลปินพบปะกับแฟนเพลงได้ในช่วงล็อกดาวน์ ที่เรียนมานี้คือการสร้างนิว นอร์มัล สำหรับรัฐบาลจึงอยากให้ส่งเสริมอินเตอร์เน็ตให้แข็งแรงมากกว่านี้ เพื่อให้คนใช้กลไกเทคโนโลยีปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสู่นิวนอร์มัล


ด้านพล.อ.ประยุทธ์กล่าวตอบเรื่องนี้ว่า ต้องขอขอบคุณมติชนที่ได้จัดกิจกรรมดีๆ ต่างๆ ให้สังคม ไม่ว่างานที่เอ่ยมา หรืออย่างงานยางพาราเพื่อส่งเสริมเกษตรกร ถือว่าเป็นงานที่ทำประโยชน์ให้ประชาชนและช่วยเหลือรัฐบาลอีกทางหนึ่งด้วย สำหรับเรื่องการขยายอินเตอร์เน็ตเพื่อประชาชน จะได้หารือกับกสทช.และหาแนวทางที่จะเกิดประโยชน์ที่สุด








Advertisement

ส่วนเรื่องการปรับครม. พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่า ตนเป็นคนปรับเอง ต้องให้เกียรติส.ส. และทั้งหมด คงไม่ถึงกับปรับทั้งครม. จะไปไม่ได้ ปรับบางกระทรวงและหน่วยงานที่เหมาะสม คงไม่นาน ขอให้ผ่านร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 และแผนฟื้นฟูการใช้จ่ายเงินแก้วิกฤตโควิด-19 ออกมาก่อน เพราะถ้าปรับตอนนี้ไม่มีคนทำ พอหลังจากนี้ตนปรับเอง

“ถ้าคนนอกเข้ามามากก็ผิดกลไกประชาธิปไตย คนในก็ต้องสลับให้ดี คนนอกบางทีไม่ว่าง คนที่ไว้ใจ วันนี้ที่ทุกคนบอกว่าเอาคนดี ไม่เอาคนไหน ถ้าผมเอาเข้ามาก็เป็นโควตาผม ไม่ต้องไปเบียดเบียนเขา ผมเคารพพรรค พลังประชารัฐผมไม่ได้เป็นสมาชิก แต่ทุกคนก็ร่วมมือกับผมดี” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

เมื่อถามว่าพลังประชารัฐจะคอยไหวหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “ต้องไหวสิ หัวหน้าพรรคก็บอกว่าไม่มีอะไร ข้างล่างที่แหย่กันไปแหย่กันมา ก็ต้องเอาให้อยู่ ถึงบอกว่าที่ข่าวออกมาตีไปตีมา หลายคนตั้งตัวเองหมดแล้ว ผมตัดสินใจเอง โควตาอาจได้ แต่คนเรื่องของผม กระทรวงที่สำคัญผมต้องดูเอง วันนี้ถามว่าใครอยากมาร่วมมือกับผมทางการเมืองตอนนี้ ไปถามคนมีชื่อเสียงด้านเศรษฐกิจ ก็บอกอยากครับ พร้อมช่วยเต็มที่ แต่พอถามว่ามาเป็นนักการเมืองมั้ย ก็ไม่มา เขาสู้ไม่ไหว เขารู้ว่าแรง”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 จะเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรวาระ 2 และ 3 ช่วงกลางเดือนก.ย. หากผ่านสภานายกฯก็นำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อมีผลบังคับใช้เดือนต.ค.นี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน