ยิ่งลักษณ์ž ยิ่งรักเกลียด : คอลัมน์ ใบตองแห้ง

คดียิ่งลักษณ์จะจบแบบไหน ผิดไม่ผิด ติดคุกไม่ติดคุก ศาลห้ามทำนายทายทัก จะมีความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล แต่เชื่อเถอะ วงสนทนาชาวบ้าน กลุ่มแช็ตกลุ่มไลน์ คาดเดาให้ยุ่งไปหมด

ก็เป็นธรรมดา อดีตนายกฯ เป็นบุคคลสาธารณะ มีคนรักมากเกลียดมาก มีทั้ง 6 ล้านไลก์และคนสาปแช่งให้พินาศฉิบหายอีกหลายล้าน

แถมความผิดที่ถูกกล่าวหายังเป็นเรื่องนโยบาย ที่นายกรัฐมนตรีแถลงต่อสภา คำพิพากษาจะเป็นบรรทัดฐานต่อไปว่า นักการเมืองที่เข้ามาบริหารประเทศต้องรับผิดทางอาญาจากการดำเนินนโยบายหรือไม่ เพียงไร

ไม่ว่าศาลจะตัดสินอย่างไร ในทางการเมืองก็เห็นชัดว่า ความแตกแยกของคน 2 ฝ่ายไม่ยุติอยู่ดี แค่ศาลนัดแถลงปิดคดี นัดฟังคำพิพากษา บรรยากาศก็คุกรุ่นขึ้นทันใด ฝั่งเสื้อแดงมีข่าวจะนัดกันมาให้กำลังใจ อีกฝั่งก็นัดกันให้ร้าย รับจ้างหัวละ 1,500Ž จะขนอาวุธเข้ามาทางชายแดน ฯลฯ แถมนักการเมืองคู่แค้นก็ฉวยโอกาสกระหน่ำซ้ำตี

นี่สะท้อนชัดๆ ว่า 3 ปี ความแตกแยกไม่หายไปไหน แค่ถูก คสช.กดไว้ การปรองดองจริงๆ ไม่มีหรอก แม้อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อ้างว่าคดียิ่งลักษณ์ไม่กระทบปรองดอง เพราะเป็นเรื่องของกฎหมาย ก็ยังมีคนย้อนถามว่า กฎหมายคืออะไร ทำไมอภิสิทธิ์ไม่ต้องขึ้นศาลคดี 99 ศพปี 53

เนลสัน แมนเดลา ก็ทำผิดกฎหมายนะครับ กฎหมายที่บัญญัติว่าคนขาวเท่านั้นมีสิทธิปกครองคนดำ

มีข้อสังเกตขำๆ ว่าระยะหลัง พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย บางครั้งก็รวมหัวกันวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล เสื้อเหลืองเสื้อแดงบางเรื่องก็เห็นตรงกัน คัดค้าน คสช. แต่พอมีเรื่อง ไอ้แม้ว อีปูŽ จู่ๆ ก็เหมือนกดสวิตช์กลับหลังหัน ปลุกความเกลียดชัง กลับไปเป็นน้ำมันกับกองไฟ บางคนเป็นอะไรไม่รู้ เหมือนถูกสะกดจิต แทบจะร้องกรี๊ดๆ ชักดิ้นชักงอ

นี่เป็นประจักษ์พยาน เหลืองแดงรวมกันไม่ได้ ต่อให้มีชาติหน้าตอนบ่ายๆ

ถามว่า ไอ้แม้ว อีปูŽ เป็นพ่อ-เป็นแม่-พวกเสื้อแดงจนตายแทนกันได้หรือไง ไม่ใช่หรอกครับ เพียงแต่สิ่งที่ ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ พูดไว้ว่า คนเสื้อแดงคับข้องใจจากการไม่ได้รับความยุติธรรมในกระบวนการยุติธรรม การถูกปฏิบัติสองมาตรฐานŽ มันผูกติดกันจนแยกไม่ออก

สังเกตสิว่า เรื่องที่เหลืองแดงไม่สามารถมีจุดร่วมกันได้เลย ก็คือเรื่องคดีความ ตั้งแต่คดียุบพรรค คดีทักษิณ มาถึงคดีของแกนนำและมวลชนทั้งสองข้าง ตั้งแต่คดีม็อบพันธมิตรยึดทำเนียบ ยึดสนามบิน คดีม็อบเสื้อแดงปี 52,53 คดีสลายการชุมนุม 99 ศพ จนกระทั่งปิดเมืองปิดสถานที่ราชการขัดขวางเลือกตั้ง (ซึ่งยังไม่ถูกดำเนินคดี)

การที่คนฝั่งหนึ่งไชโยโห่ร้องเมื่ออีกฝ่ายติดคุกหัวโต ขณะที่พวกตัวยังไม่โดนอะไร แค่นี้ก็ชัดเจนว่าไม่มีปรองดอง ไม่ฆ่ากันตายก็บุญโข

วันนี้ ยิ่งลักษณ์กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักความเกลียด จากความแตกแยกฝังลึกสิบกว่าปี กระทั่งการชี้ถูกชี้ผิดโดยอำนาจตุลาการ ก็ไม่สามารถเปลี่ยนความรัก ความเกลียด ความนิยมไม่นิยม หรือความพอใจไม่พอใจของแต่ละฝ่าย

เพียงแต่พอใจหรือไม่พอใจอย่างไร ก็ไม่มีใครทำอะไรได้หรอกครับ ภายใต้ระบอบอำนาจปัจจุบัน ที่ รัฐพันลึกŽ ยังเป็นปึกแผ่น ต่อให้มีคนมาให้กำลังใจยิ่งลักษณ์เป็นแสน ก็คงไม่มีใครอยากเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงคุกเสี่ยงตะรางหรือเสี่ยงชีวิต อย่างไร้ทิศทาง

คดียิ่งลักษณ์จึงไม่สำคัญเท่าการมองข้ามช็อตว่า สังคมไทยจะเป็นอย่างไรต่อไป ภายใต้การนำของอำนาจระดับบนที่เป็นปึกแผ่น แต่ระดับล่างมีความแตกแยกฝังลึก แตกแยกแต่ไม่สามารถแตกหัก ไม่ยอมรับแต่ไม่สามารถต่อต้าน ภายใต้กระแสชี้นำว่าสังคมต้องการความสงบ อยากทำมาหากิน หรือเกิดเป็นคนไทยก็ต้องรู้จักแทนคุณแผ่นดิน อย่าสร้างความวุ่นวาย แม้ไม่พอใจต่อความไม่ยุติธรรม หรือการละเมิดสิทธิเสรีภาพ ก็ต้องอดทนอดกลั้น

นั่นละครับคือสังคมไทยในวันหน้า 5 ปี 10 ปี หรืออาจจะ 20 ปี เราอาจต้องอยู่กันไปอย่างที่คนส่วนหนึ่งพึงพอใจ คนส่วนหนึ่งคับแค้นใจ บ้านเมืองไม่ใช่ของเราŽ แต่ทำอะไรไม่ได้ ขณะที่คนส่วนใหญ่ก็อาจไม่สนใจอะไร ดูหนังดูละคร ดูบอล อ่านข่าวดราม่าไปวันๆ โดยบางคนก็หวังว่าจะก้าวข้ามความขัดแย้งโดยไม่ต้องสะสาง เหมือนยุครัฐประหาร 2490 หรือ 6 ตุลา 2519

สำคัญว่าจะเป็นไปตามที่หวังหรือเปล่า ไม่สะดุดเลยหรือเปล่า เท่านั้นเอง

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน