ฝ่ายค้าน ไม่เอาด้วย! สภามีมติตั้งกมธ.ฟังความเห็นนศ. ลั่นบิ๊กตู่ต้องฟังเอง

ฝ่ายค้าน ไม่เอาด้วย! สภามีมติตั้งกมธ.ฟังความเห็นนศ. ลั่นบิ๊กตู่ต้องฟังเอง

เวลา 12.20 น. วันที่ 23 ก.ค. น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องตอบสนองต่อข้อเรียกร้องในการแก้รัฐธรรมนูญ ด้วยการส่งสัญญาณไปยังรัฐบาล และ ส.ว. ขณะที่ฝ่ายค้านมีความพร้อม มีเพียงพล.อ.ประยุทธ์ ที่ไม่เคยแสดงท่าทีใด ๆ

คนที่ตอบคำถามเรื่องนี้ได้ดีที่สุดคือ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ใช่สภา คนมีอำนาจยุบสภาก็คือ พล.อ.ประยุทธ์เช่นกัน หากจำกันได้ครั้งที่รัฐบาลมีปัญหาจัดสรรปัญหาภายในไม่ลงตัว พล.อ.ประยุทธ์ ขู่ทุกวันว่าจะยุบสภา จึงเกิดคำถามว่าการยุบสภาเป็นเพียงเครื่องมือที่ใช้เพื่อขู่พรรคร่วมรัฐบาลเท่านั้นหรือ

หากจำเป็นต้องเลือกตั้งใหม่ ฝ่ายค้านก็พร้อมพิสูจน์ศรัทธาประชาชนอีกครั้ง แต่หากเลือกตั้งภายใต้รัฐธรรมนูญเดิม ก็จะเป็นเพียงพิธีกรรมให้ พล.อ.ประยุทธ์ และรัฐบาลชุบตัว สร้างความชอบธรรมในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ดังนั้นก่อนยุบสภาหรือลาออก จะต้องมีการแก้รัฐธรรมนูญก่อน ต้องทำให้เป็นรัฐธรรมนูญของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชนอย่างแท้จริง

“คู่กรณีโดยตรงของนักเรียน นักศึกษา คือรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ใช่สภา ที่ผ่านมานายกฯรับฟังคนอื่นได้ แต่เหตุใดรับฟังลูกหลานไม่ได้ หรือเห็นประชาชนเป็นศัตรู ไม่รับฟังไม่เท่าไหร่แต่ยังต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกไปอีก”

“วันนี้สภาต้องไม่บิดเบือนข้อเรียกร้อง นักเรียน นักศึกษา ที่ส่งเสียงไปยังรัฐบาล การตั้งกมธ.ไม่มีประโยชน์ คนที่แก้ปัญหาเรื่องนี้ได้คือลุงตู่ ไม่ใช่ลุงชวน เขาถามรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์จะปัดความรับผิดชอบแล้วใช้สภาเป็นเครื่องมือซื้อเวลาไม่ได้ ท่านสามารถฟังเสียงประชาชนได้โดยตรง ลงมือแก้ปัญหาได้ตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป”

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า รัฐบาลต้องรับฟังข้อเรียกร้องของนักเรียน นิสิต นักศึกษา อย่างจริงใจ ต้องไม่มองเป็นศัตรู ไม่มองเป็นภัยคุกคาม พร้อมกันนี้พรรคเสนอ 5 ข้อ ได้เแก่ 1. ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2. ทบทวนการดำเนินคดีทางการเมืองที่ผ่านมาทั้งหมด 3. หยุดใช้ปฏิบัติการ io ปั่นข่าวสาร 4. พล.อ.ประยุทธ์ ต้องออกไป 5. ต้องเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ที่มาจากประชาชนที่แท้จริงโดยประชาชนมีส่วนร่วม

หลังการอภิปรายเสร็จสิ้น ที่ประชุมได้ลงมติเห็นด้วยให้ตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญตามญัตติขอให้สภาผู้แทนราษฎร รับฟังความคิดเห็นของนักเรียน นิสิต และนักศึกษา ด้วยคะแนน 260 เสียง ต่อ 178 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง และมีมติไม่เห็นด้วยที่จะส่งเรื่องไปยังรัฐบาล โดยให้ตั้งคณะกมธ.วิสามัญฯ จำนวน 39 คน โดยที่พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคเสรีรวมไทย และพรรคประชาชาติ ไม่ส่งบุคคลร่วมเป็นกมธ.ดังกล่าว เพราะไม่ต้องการให้สภาเป็นตรายางส่งเรื่องให้รัฐบาล แต่เห็นว่านายกฯควรได้รับฟังปัญหาเองโดยตรง