เมื่อวันที่ 26 ก.ค. คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการลงพื้นที่รับฟังปัญหาภาคการท่องเที่ยวในจ.ภูเก็ต หลังการระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่า จากการที่รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวซึ่งมีจุดมุ่งหมายที่ดี แต่ปฏิบัติไม่ได้จริง ไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ เช่น

โครงการเราเที่ยวด้วยกัน โรงแรมขนาดเล็กเข้าไม่ถึง หลายโรงแรมอยู่ระหว่างการรอจดทะเบียนถูกกฎหมายก็จะไม่ได้รับสิทธิ์ ส่วนโรงแรมในพื้นที่ขนาดใหญ่ก็จะวงเงินเกิน ขณะเดียวกันโครงการกำลังใจเพื่อ อสม.ใช้งานจริงไม่ได้เลย เงื่อนไขมากทำให้ปฏิบัติจริงค่อนข้างลำบาก จากการมารับฟังเสียงของผู้ประกอบการเกือบ 100% ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้

ทั้งนี้ ขอเสนอแผนการท่องเที่ยวไทยอย่างปลอดภัย 4 ระยะ โดยแต่ระยะจะมีการเตรียมตัวเองและโครงสร้างพื้นฐานให้พร้อม ได้แก่

1.ไทยเที่ยวไทย ออกคูปองส่วนลดคนมาเที่ยวภูเก็ต ทั้งเครื่องบิน โรงแรม และค่าใช้จ่ายให้คนไทยเที่ยวในประเทศ

2. Staycation ให้คนต่างชาติเดินทางเข้ามาพักผ่อนที่ภูเก็ต 14 วัน ในโรงแรมที่มีกิจกรรมสันทนาการให้พวกเขา พนักงานก็ต้องทำงานอยู่ภายในโรงแรม มีระบบการป้องกันที่ดีเหมือนการกักตัว แต่ปรับวิธีคิดวิธีบริการใหม่ ให้เหมือนกับท่องเที่ยว

3.เทศเที่ยวไทยปลอดภัย เปิดเมืองภูเก็ตให้เป็นที่เที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยมีการตรวจโรคและคัดกรองก่อนเข้าจังหวัดอย่างเข้มข้น ปิดทุกจุดเข้าออกจังหวัดเพื่อให้ท่องเที่ยวในจังหวัดเท่านั้น และให้ง่ายต่อการควบคุมพื้นที่หากมีการระบาด โดยจำกัดปริมาณคนที่จะเข้ามาให้ยังสามารถควบคุมโรคได้

4.ทำหลุมหลบภัยจากคนที่กลัวโควิดทั่วโลก และมาทำงาน Work From Home ที่ภูเก็ต โดยจ่ายเงินค่าอยู่อาศัยเป็นแพ็คเก็จที่ภูเก็ตว่าอยู่นานแค่ไหน

ทั้งหมดนี้เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อให้ทันก่อนหลายประเทศจะเริ่มเปิดให้มีการท่องเที่ยวหลังโควิด วันนี้รัฐต้องสร้างความมั่นใจ พ.ร.ก.ฉุกเฉินต้องยกเลิกอะไรที่ไม่สร้างความมั่นใจต้องเอาออก

และต้องกล้าประกาศว่าประเทศไทยปลอดโรคและที่สำคัญคือต้องห้ามเอาเชื้อเข้ามาในประเทศเพิ่ม ทุกวันนี้ไม่ใช่แค่ VIP ที่เป็นทูตหรือทหาร แต่แรงงานยังหลุดเข้ามาตามชายแดนทุกๆ วันถ้าตราบใดที่ชายแดนอย่างรั่วขนาดนี้เราจะเปิดประเทศไม่ได้ นี่คือสิ่งที่รัฐต้องเปลี่ยน


 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน