เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 8 ส.ค. ที่พรรคเพื่อไทย นายวัฒนา เมืองสุข อดีตแกนนำพรรคเพื่อไทย แถลงว่า เมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนและทนายความได้ไปพบพนักงานสอบสวนที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) โดยคณะรักษาคามสงบแห่งชาติ(คสช.)มอบอำนาจให้พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ ฝ่ายกฎหมายของ คสช. มาร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดี โดยกล่าวหาว่าการโพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 23 ก.ค. และ 31 ก.ค.มีการดูหมิ่นศาล ผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 198 และเป็นความผิดตามกฎหมายคอมพิวเตอร์ มาตรา14(2) และ(5) ซึ่งตนให้การปฏิเสธ จากนั้นเข้าสู่กระบวนการสอบสวนปกติ มีการพิมพ์ลายมือ ลงบันทึกประจำวัน ในระหว่างการสอบสวนไม่ได้ติดใจ แต่หลังจากออกมาแล้ว บอกว่ามีเรื่องพูดคุยขอให้กลับไปอีกครั้ง แต่ติดธุระด่วนไปไม่ได้ จึงมีการนัดให้ไปพบวันที่ 10 ส.ค.
นายวัฒนา กล่าวว่า มาทราบภายหลังว่า คสช.ต้องการให้พนักงานสอบสวน นำตนไปขออำนาจศาลฝากขังและคสช.จะคัดค้านการประกันตัว ซึ่งเรื่องนี้ คสช.สร้างมาตรฐานใหม่ เมื่อแสดงความเห็นไม่ถูกใจผู้มีอำนาจจะกลายเป็นความผิดทั้งหมด อีกทั้งเมื่อไปพบพนักงานสอบสวนกลับมีทหารมานั่งคุมการสอบสวน ทั้งที่ปกติมีแค่ทนายความผู้ต้องหาที่เข้าไปรับฟังได้ เป็นการใช้ทหารเข้ามาแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ แบบนี้จะเหลือพื้นที่อะไรให้ประชาชน และที่เห็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. โดนแบล็กลิสต์ห้ามเดินทางไปต่างประเทศ ก็น่าจะชัดเจนแล้วว่าต่างประเทศไม่ยอมรับ ส่วนตนก็เดินหน้าวิจารณ์ต่อไปตามเสรีภาพในรัฐธรรมนูญ เพราะไม่ได้แสดงความเห็นให้ใครมาล้มรัฐบาล
ด้านนายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ ทนายความผู้รับผิดชอบคดีของนายวัฒนา กล่าวว่า ได้รับแจ้งมาในทางลับว่าเมื่อวันที่ 7 ส.ค. มีการเตรียมออกหมายจับ ทำให้ตนและนายวัฒนาเดินทางไปพบพนักงานสอบสวน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ เมื่อไปถึงที่น่าตกใจ คือมีการทำสำนวนแล้วเสร็จ ซึ่งพนักงานสอบสวนต่างตกใจที่มีการล่วงรู้ข้อมูลตรงนี้ จึงทำได้เพียงแค่ให้พบพนักงานสอบสวน รับทราบข้อกล่าวหาตามปกติ แต่กลับมีการระบุแนบท้ายไว้ว่าในวันที่ 10 ส.ค.ต้องนำตัวนายวัฒนามาด้วยให้ได้ ซึ่งเริ่มมีการชี้นำแบบไม่ปกติ ถ้ากระบวนการสอบสวนมีอำนาจพิเศษมาชี้นำ บ้านเมืองจะไปได้อย่างไร และหากวันที่ 10 ส.ค. มีการออกหมายจับจริงขอฝากสื่อมวลชนติดตามเรื่องนี้ด้วยเพราะเป็นการออกหมายจับที่บิดเบี้ยว บิดเบือนจากกฎหมายโดยสิ้นเชิง ซึ่งสู้ไปคงจะไม่ชนะในชั้นการต่อสู้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน