พี่สาว “วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์” เดินหน้า ทวงความยุติธรรม ครบ 38 ปี เป่าเค้กวันเกิดน้องชาย ทวงถามความคืบหน้า หน้าสถานทูตกัมพูชา
เมื่อเวลา 13.45 น. ที่สถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย น.ส.สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พร้อมด้วยนางปิยนุช โคตรสาร ผอ.องค์กรเพื่อสิทธิมนุษยชนระดับโลก แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ร่วมกันเดินทางมาเพื่อขอเข้าพบนายอูก ซอร์พวน เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรกัมพูชาประจำประเทศไทย
เพื่อสอบถามถึงความคืบหน้ากรณีการสูญหายของนายวันเฉลิม หรือต้าร์ สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมืองที่ถูกอุ้มหายตัวไปอย่างลึกลับ นอกจากนี้ยังมีการเป่าเค้กฉลองวันคล้ายวันเกิด รวมทั้งแจกจ่ายโฟโต้คุกกี้รูปนายตาร์ ให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ และประชาชนเพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมต่อผู้สูญหายและครอบครัว
โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.วังทองหลาง และสันติบาล นำรั้วเหล็กมากั้นทางเข้า-ออกของสถานที่ดังกล่าว และกระจายกำลังตามพื้นที่บริเวณโดยรอบเพื่อคอยอำนวยความสะดวกและป้องกันเหตุร้ายจากบุคคลผู้ไม่หวังดี
นางปิยนุช กล่าวว่า เรามาทวงถามถึงความยุติธรรมให้กับครอบครัวของผู้สูญหายเนื่องจากเป็นวันครบรอบวันเกิด ซึ่งแท้จริงในวันนี้ควรจะฉลองงานวันเกิดอยู่กับครอบครัวและคนที่รัก แต่สถานการณ์จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับความคืบหน้าจากทางการไทยและกัมพูชา
จึงมาขอเข้าพบกับตัวแทนทางสถานทูตแต่ก็ไม่มีผู้ใดออกมาต้อนรับ ทั้งนี้ทางองค์กรจึงยังไม่ส่งรายชื่อรวมกว่า 5,000 คน เพื่อเรียกร้องขอให้มีการสืบสวนในคดี โดยหลังจากนี้จะหาแนวทางในการส่งรายชื่ออีกครั้ง
และจะคอยทวงถามความยุติธรรมไปจนถึงวันที่ 1 ต.ค. ที่จะถึงนี้ แท้จริงแล้วนายวันเฉลิม ไม่ควรลี้ภัยไปตั้งแต่แรกเพราะใช้สิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็นอย่างสงบ อีกทั้งไม่ควรมีผู้ใดต้องลี้ภัยทางการเมืองหรือสูญหายไปเพราะแสดงความคิดเห็นทางการเมือง
นางปิยนุช กล่าวต่อว่า ตนเป็นตัวแทนขอแถลงข้อเรียกร้องต่อตัวแทนกัมพูชาถึงนายฮุน เซน นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อเรียกร้องให้ดำเนินการตามมาตราการทั้งปวงในเรื่องการสอบสวนอย่างมีประสิทธิภาพ และโปร่งใส ต่อข้อกล่าวหาที่ว่ามีการลักพาตัวนายวันเฉลิม
โดยแจ้งผลการดำเนินการต่อครอบครัวผู้สูญหายทั้งหมด และพิสูจน์ให้ได้ว่าหายไปอยู่ที่ใด รวมถึงให้นำตัวผู้ต้องสงสัยเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดีอย่างเป็นธรรมโดยศาลพลเรือนปกติ และไม่ให้ประหารชีวิต
อีกทั้งทำตามอนุสัญญาระหว่างประเทศเรื่องการคุ้มครองบุคคลไม่ให้สูญหาย และต้องไม่ส่งตัวนายวันเฉลิม กลับสู่ประเทศไทยเพื่อให้สอดคล้องกับพันธกรณีที่ต้องไม่เข้าร่วมกับการบังคับส่งกลับไปยังสถานที่ที่มีความเสี่ยง
น.ส.สิตานัน กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ในวันนี้ตนมาจุดเค้กและร้องเพลงแฮปปีเบิร์ดเดย์ให้น้องชาย ซึ่งไม่ได้อยู่ด้วยกันตั้งแต่วันที่ลี้ภัยไปต่างประเทศ โดยทุกปีจะมีการอวยพรวันเกิดผ่านโปรแกรมวีดีโอคอลทางแอพพลิเคชันไลน์ แต่ในปีนี้น้องชายได้หายตัวไปก็ทำได้เพียงแค่นี้
แต่มาจนถึงขณะนี้ทางครอบครัวยังคงมีหวังตั้งตารอให้น้องชายกลับมา สำหรับเบาะแสความคืบหน้าเรื่องการติดตามตัวนั้นก็ได้ยินต่อจากบุคคลอื่นที่เล่าต่อๆกันมาแค่นั้น ทั้งนี้ตนต้องรอให้เปิดประเทศเสียก่อนถึงจะเดินทางไปตามเบาะแสนั้นๆ
ส่วนในวันนี้ตัวแทนแอมเนสตี้เพียงแค่จะมายื่นหนังสือแต่ก็ไม่มีผู้ใดออกมารับและไม่อนุญาตให้เข้าไป ซึ่งจนถึงขณะนี้ตนและครอบครัวก็ยังไม่ได้รับการประสานความคืบหน้าทั้งจากทางการไทย และกัมพูชาแม้แต่อย่างใด ดังนั้นตนจึงต้องเดินทางไปตามกระทรวงต่างๆ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่ามีการดำเนินการไปถึงไหนอย่างไรบ้าง
