เนติวิทย์ แก๊งชังชาติ? :คอลัมน์ ใบตองแห้ง
พ่อมดเนติวิทย์ ตกเป็นเป้าถูกไล่ล่า ระดับผู้ใหญ่บอกให้จุฬาฯ จัดการ ระดับกเฬวรากก็โพสต์บอกบ้านเลขที่
นี่คือวิธีที่สังคมดีมีศีลธรรม รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ จัดการ กับความเห็นต่าง ระดับผู้ใหญ่คัดง้างเหตุผลไม่ได้ กลัวเด็ก 2-3 คน (แต่ดันได้รับเลือกเป็นประธานสภานิสิต) ก็บอกให้ผู้บริหารใช้อำนาจ ขณะที่ระดับกเฬวรากก็ยุให้ใช้วิธีอันธพาล
คนดีมีศีลธรรมไม่เปลี่ยนไปเลย ทั้งที่ 6 ตุลา 2519 ผ่านไปแล้ว 40 ปี
เรื่องน่าสมเพชคือคนจำนวนมากไม่ดูข้อเท็จจริงด้วยซ้ำ เพียงอ่านพาดหัวข่าวปลุกความเกลียดชัง ก็เข้าใจว่าเนติวิทย์กับเพื่อนๆ ทำลายพิธีศักดิ์สิทธิ์ ทั้งที่มีคลิปชัดเจนว่าพวกเขาเดินออกหลังตีฆ้องครั้งสุดท้าย ซึ่งนิสิตก็แยกย้ายวิ่งฮือหนีฝน แม้ดูเป็นการประท้วงจนผู้ช่วยอธิการบดีโกรธ ล็อกคอ ไอ้หนุ่มผมยาว แต่ก็ไม่ใช่เดินผ่าหมากเข้าไปทำลายพิธีซักหน่อย
ถามจริง พวกที่โกรธเกลียดนี่ มีซักกี่คนได้ดูคลิป ได้อ่านโพสต์เนติวิทย์ ซึ่งยืนยันว่าเคารพ ร.5 ผู้ทรงนำประเทศสู่ความทันสมัย เพียงแต่ไม่เห็นด้วยกับการหมอบคลาน ประเพณีประดิษฐ์ใหม่ของจุฬาฯ ซึ่งทรงประกาศยกเลิกไปแล้ว 140 กว่าปี
อย่าบอกนะว่าส่วนใหญ่ก็ รับประทานด่วน เสพข้อมูลที่สื่อใช้น้ำลายย่อยให้แล้ว ไม่หาข้อเท็จจริงไม่คิดวิเคราะห์ แต่บอกว่าเป็นคนดีมีการศึกษา
แล้วคนดียังปกป้องกันว่า ผู้ช่วยอธิการบดีที่ควรมีวุฒิภาวะ เพียงแค่พลาดไปเพราะตกหลุมพราง โดนล่อซื้อ ล่อถ่ายคลิป ไม่ได้ทำอะไรผิด ต้องโทษเนติวิทย์ ต้องไล่ล่าเนติวิทย์ ที่ขุดหลุมพราง
พูดอย่างนี้ก็ไม่ใช่อยากให้ล่าพ่อมดอีกฝั่ง แต่ผู้ช่วยอธิการฯเป็นผู้ใหญ่ ขอแค่ยอมรับแฟร์ๆ ว่าทำผิด คนอื่นอย่าช่วยแถ ก็จบ นิสิตก็ยังให้ความเคารพ
เรื่องเนติวิทย์ยังไม่ทันจบ อ.ปิยบุตร แสงกนกกุล ก็โพสต์โวยว่าไปรับภรรยาที่ดอนเมือง ติด ตม.ล่าช้ากว่า 5 ช.ม. นี่หรือประเทศที่หวังทำเงินกับนักท่องเที่ยว ซึ่ง ตม. การท่าฯ กระทั่งลุงตู่ ก็ยอมรับว่าจะต้องแก้ปัญหา ปรับระบบ
แต่เรื่องไม่จบแค่นั้น เพราะเป็นปิยบุตร นิติราษฎร์ ซึ่งตบท้ายว่า ประเทศเฮงซวย เหมือนอิมเมจ แถมเส็งเคร็ง ห่วยแตก จนไม่ค่อยอยากอยู่ประเทศนี้
เท่านั้นแหละ คนดีเป่านกหวีดปิดเมืองขัดขวางเลือกตั้งเชียร์รัฐประหาร ก็แห่ออกมาเหวี่ยงข้อหา ชังชาติ ซึ่งกินความถึงทุกคนที่ไม่พอใจ ที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล ว่าไม่ได้ดังใจก็อย่าเอาความไม่ชอบมาทำลายประเทศ ไม่รักชาติก็ออกนอกประเทศหรือไปตายเสีย
บ้างก็ว่าเกิดชาติไหนไม่ควรทรยศชาติ ไม่ควรชังชาติ ไม่ควรขายชาติ หลังคารั่วก็ช่วยกันอุด ไม่ใช่ด่า ถ้าเผลอโพสต์ขำๆ ว่าแย่งที่จอดรถคนพิการ ก็ลบเสีย แล้วไปช่วยทำเพลงชาติ
ถามหน่อย คนบ่นไม่พอใจการบริหารจัดการที่ไม่มีประสิทธิภาพ วิพากษ์วิจารณ์ระบอบการเมือง เศรษฐกิจ ความเลอะเทอะต่ำตมของสังคม นี่ไม่รักชาติหรือ ถ้าไม่รักชาติจริงก็คงไม่บ่น (และไม่สู้ยิบตาอย่างปิยบุตร) คงออกไปประเทศอื่นนานแล้ว
คนรักชาติรักแผ่นดินต้องปิดปาก? ห้ามพูดว่าประเทศต้มกบ ไร้อนาคต ต้องอวย เชื่อมั่นประเทศไทย จะผลิตตู้เย็นหุงข้าวได้ จะส่งรองเท้าแตะ แปรงสีฟัน ไปตีตลาดโลก อย่างนั้นหรือ
รักชาติแล้วต้องเกณฑ์ทหาร เอาไปโขกสับในร้านอาหาร จบโท จบนอก ก็ต้องมาฝึกทหารซ้ายหันขวาหัน เห็นแล้วซาบซึ้งน้ำหูน้ำตาไหล
รักชาติแล้วได้รับความอยุติธรรม สองมาตรฐาน ก็ห้ามไม่พอใจ ต้องสำนึกบุญคุณแผ่นดิน อย่าสร้างความวุ่นวาย
รักชาติแล้วต้องทนการละเมิดสิทธิเสรีภาพ เหยียบย่ำศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ แต่บอกว่าเกิดแผ่นดินนี้มีศักดิ์ศรี ทำประชามติมัดมือชก 15 ต่อ 10 ล้านเสียง แล้ว 10 ล้านก็ถูกบังคับให้ยอมทุกอย่าง ปิดกั้นความเห็นต่าง จับกุมคุมขัง กระทั่งรู้สึก บ้านเมืองไม่ใช่ของเรา
รักชาติแล้วต้องทนได้ กับพวกเอาตัวเองเป็นใหญ่ เสียงข้างน้อยไม่เอากติกา ปิดเมืองขัดขวางเลือกตั้ง หลังการยึดอำนาจก็ตัวพอง ใหญ่คับ ร้องดัง ตั้งตนเป็นผู้รักประเทศ
ความเป็นจริงมันก็เหมือนที่ผ่านๆ มา ความรู้สึกมีปมด้อย ลึกๆ แล้วรู้แก่ใจว่าประเทศสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน ต้องปลุกใจกันหาปมยึดเหนี่ยว ต้องชูธงชาติ ต้องติดสติ๊กเกอร์ ฯลฯ
ขณะนี้ก็รู้แก่ใจว่าปัญหาประดัง คนบ่นมากขึ้นทุกวัน ด้วยความกลัวว่าระบอบที่เชียร์จะไปไม่รอด ก็เหวี่ยงข้อหา ชังชาติ ไว้ก่อน
