“ก้าวไกล” อัด ทร. ขอซื้อเรือดำน้ำ เพิ่ม 2 ลำ 2.2 หมื่นล้าน โดนซักแจงไม่ได้!

วันที่ 18 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (17 ส.ค.) คณะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ ICT รัฐวิสาหกิจ และทุนหมุนเวียน สภาผู้แทนราษฎร ได้พิจารณางบประมาณปี 2564 ด้านครุภัณฑ์ของกองทัพเรือ ทั้งนี้ กองทัพเรือ ได้ขอจัดซื้อเรือดำน้ำเข้ามาใหม่มูลค่า 22,500 ล้านบาท รวมไปถึงงบประมาณสำหรับที่จอดและอาคารสับสนับสนุนอีกกว่า 1,218 ล้านบาท

โดยในการพิจารณาดังกล่าว น.ส.วรรณวรี ตะล่อมสิน ส.ส.เขตยานนาวา บางคอแหลม กรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล ในฐานะอนุ กมธ. ย้ำชัดถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่นำไปสู่วิกฤตเศรษฐกิจของประเทศไทยในขณะนี้ ประชาชนกำลังยากลำบาก ไม่ควรจัดซื้อเป็นอย่างยิ่ง

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

น.ส.วรรณวรี กล่าวว่า ปี 2564 กองทัพเรือได้รับการจัดสรรงบประมาณ 48,289 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 1,239 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นคิดเป็น 2.63% โดยเป็นงบด้านคุรุภัณฑ์ทั้งหมด 10,017 ล้านบาท ในการนี้ทางกองทัพเรือได้มีการขอจัดซื้อเรือดำน้ำใหม่ 2 ลำ มูลค่า 22,500 ล้านบาท ตกลำละกว่า 11,250 ล้านบาท เป็นการซื้อแบบผ่อนจ่ายเป็นงวดๆ

นอกจากนี้มีการตั้งงบประมาณปี 64 อีก 190 ล้าน สำหรับสร้างที่จอดเรือดำน้ำ โครงการก่อสร้างท่าเรือดำน้ำ และระบบสาธารณูปโภคบริเวณท่าเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ แต่หากคิดมูลค่าการสร้างที่จอดเรือดำน้ำทั้งหมดจะมีมูลค่าสูงถึง 950 ล้านบาท โดยจะใช้วิธีการตั้งงบประมาณตั้งแต่ปี 2564 -2566 โครงการก่อสร้างอาคารทดสอบพร้อมคลังตอร์ปิโดและหุ่นระเบิดสนับสนุนโครงการจัดหาเรือดำน้ำ งบประมาณทั้งสิ้น 130 ล้านบาท

โดยจะเป็นงบของปี 2564 จำนวน 26 ล้านบาทและปี 2565 จำนวน 104 ล้านบาท และโครงการก่อสร้างอาคารทดสอบและคลังอาวุธปล่อยนำวิถีสนับสนุนโครงการจัดหาเรือดำน้ำ งบประมาณทั้งสิ้น 138 ล้านบาท เป็นงบปี 2564 จำนวน 27.6 ล้านบาท และงบปี 2565 จำนวน 110.4 ล้านบาท

ซึ่งทางกองทัพเรือได้อ้างว่ามีสัญญาที่ทำไว้กับประเทศจีนว่าต้องตั้งงบมาจัดซื้อเรือดำน้ำในปีนี้ และยืนยันว่าต้องมีเรือดำน้ำให้ครบ 3 ลำ (มูลค่าทั้งหมด 36,000 ล้านบาท)ตามกำหนดการเดิมคือจะมีให้ครบทั้งหมดภายในปี 2569

ซึ่งก่อนหน้านี้ทางกองทัพเรือได้มีการจัดซื้อเรือดำน้ำไปแล้ว 1 ลำ จากมติคณะรัฐมนตรีที่มีหัวหน้ารัฐบาลคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยจะได้รับลำแรกประมาณปี 2566 ทั้งนี้กองทัพเรือได้ให้เหตุผลว่า หากชะลอออกไปจะส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อสูงขึ้นกว่าแผนเดิมที่ตั้งไว้ และมีความจำเป็นในการรักษาดูแลน่านน้ำ

น.ส.วรรณวรี กล่าวอีกว่า การมีเรือดำน้ำมีความจำเป็นมากน้อยเพียงใด ประชาชนจะได้ประโยชน์อย่างไร อีกทั้งความคุ้มค่าในเชิงยุทธศาสตร์ของกองทัพเรือในการมีเรือดำน้ำคืออย่างไรและอะไรเป็นภัยคุกคามทางทะเลที่จำเป็นต้องมีเรือดำน้ำเพื่อสร้างหลักประกันทางความมั่นคงทางทะเล เป็นสิ่งที่ทางกองทัพยังไม่สามารถให้ความชัดเจนได้

และทางคณะอนุกรรมาธิการและ ส.ส.พรรคก้าวไกล คือ ส.ส.พิจารณ์ ชาวพัฒนวงศ์ ก็ได้ช่วยการสอบถามรวมทั้งขอดูสัญญาการจัดซื้อที่ทำไว้กับประเทศจีน เมื่อกองทัพเรือไม่สามารถชี้แจงและนำมาให้ดูได้ ทางอนุฯครุภัณฑ์จึงมีมติให้แขวนงบประมาณในการจัดซื้อ เรือดำน้ำทั้ง 2 ลำ ไว้ก่อน โดยให้กองทัพเรือไปนำเอกสารมาชี้แจงว่าจะสามารถเลื่อนการจัดซื้อได้หรือไม่

“อย่างไรก็ตามสิ่งที่จำเป็นต้องจับตามองและเป็นข้อสังเกตคือ ในสถานการณ์ที่ประเทศชาติกำลังเจอวิกฤตทั้งทางเศรษฐกิจและทางด้านสุขภาพของประชาชน ซึ่งประชาชนกำลังยากลำบากเป็นอย่างมาก โดยมีการคาดการณ์ว่าประชาชนกำลังจะตกงานสูงถึงกว่า 10 ล้านคน และมีผู้ประกอบการรายเล็กรายน้อยที่จะต้องปิดกิจการลงอีกเป็นจำนวนมาก

เหตุเพราะวิกฤตเศรษฐกิจที่มีสาเหตุจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาและการบริหารงานที่ผิดพลาดของรัฐบาล แต่กองทัพเรือยังยืนยันจะซื้อเรือดำน้ำ ในส่วนของตนและพรรคก้าวไกลยืนยันว่าจะปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติอย่างเต็มที่ ไม่ให้นำงบประมาณไปใช้ในสิ่งที่ไม่จำเป็นและไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ที่ประชาชนกำลังยากลำบากแน่นอน” น.ส.วรรณวรี กล่าวทิ้งท้าย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน