เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.การต่างประเทศ กล่าวถึงการเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในเดือนตุลาคมนี้ว่า จะหารือกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ทั้งด้านการค้า การลงทุน ความมั่นคง การทหาร รวมถึงสถานการณ์ในภูมิภาค ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ การเดินทางเยือนครั้งนี้ จะได้ประโยชน์ทั้งความสัมพันธ์ การค้าการลงทุน เพราะขณะนี้ไทยมีการค้าที่เกินดุลกับสหรัฐฯอยู่ จึงจะทำอย่างไรให้การค้าการลงทุนนี้อยู่ในตัวเลขที่สมเหตุสมผล โดยไทยอาจลงทุนกับสหรัฐฯมากขึ้น

“ยืนยันว่าสหรัฐอเมริกาไม่ได้กดดันไทยให้ปิดบริษัทของเกาหลีเหนืออย่างที่ปรากฏเป็นข่าว และนายเร็กซ์ เวย์น ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ที่เดินทางเยือนไทยในสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องดังกล่าว แต่เป็นการหารือในภาพกว้างของท่าทีของสหรัฐฯต่อเกาหลีเหนือ โดยก่อนหน้านี้ในการประชุมผู้นำสุดยอดอาเซียน เราถามว่าเป้าหมายของสหรัฐฯต่อเกาหลีเหนือเป็นอย่างไร ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงผู้นำในเกาหลีเหนือหรือต้องการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน หรือต้องการเห็นการรวมตัวของเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ หรือต้องการเห็นเกาหลีเหนือเป็นแบบที่เคยเป็นก่อนที่สหรัฐฯจะเปลี่ยนประธานาธิบดี โดยสหรัฐฯตอบว่า ต้องการเห็นเกาหลีเหนือเป็นประเทศที่ปราศจากอาวุธนิวเคลียร์ จึงต้องการหาทางออกในเรื่องนี้ร่วมกัน” นายดอน กล่าว

เมื่อถามว่า การเยือนสหรัฐฯครั้งนี้จะพูดคุยถึงปัญหาเกาหลีอีกเหนือหรือไม่ นายดอน กล่าวว่า เชื่อว่าสามารถพูดคุยกันได้อีก และเชื่อว่าท่าทีของสหรัฐฯ คงจะไม่เปลี่ยนไปจากนี้ แต่ไม่ใช่ว่าจะเกิดสงคราม เพราะทางออกที่ดีคือการพูดคุย ซึ่งอาเซียนต่างก็สนับสนุนการพูดคุย

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน