นายกสมาคมทนาย เฉลย ท่อน้ำเลี้ยง ม็อบปลดเเอก คือกับดักของรัฐธรรมนูญ ปี 60 ที่สร้างความ อึดอัดเเละความล้มเหลวยุติธรรมจนเป็นจุดเสื่อมถอยของรัฐบาล

เมื่อวันที่ 21 ส.ค. นาย นรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย โพสต์เฟซบุ๊คถึง กรณีการเคลื่อนไหวของกลุ่มประชาชนปลดแอก เพื่อเรียกร้อง ให้หยุดคุกคามประชาชน ยุบสภา และ ร่างรัฐธรรมนูญใหม่

รวมทั้งการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ของนักเรียนในโรงเรียนต่าง ๆ ทั้ง การชู 3 นิ้วและ การผูกโบว์ขาว เพื่อแสดงการถึงการต่อต้านเผด็จการ โดยฝ่ายรัฐบาลก็ได้ออกมากล่าวหาว่า มีกลุ่มสนับสนุน และต่อท่อน้ำเลี้ยง เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการชุมนุมในครั้งนี้

ผมในฐานะส่วนตัว ขอแสดงความคิดเห็นว่าแท้จริงแล้ว ผู้ที่อยู่เบื้องหลังอันเป็นต้นเหตุให้เกิดการชุมนุม การต่อต้านเผด็จการ ของประชาชน นักศึกษา และนักเรียน ก็คือ

1. รัฐธรรมนูญปี พ.ศ.2560

ผลพวงของรัฐธรรมนูญปี พ.ศ.2560 ซึ่งมีที่มาจากความไม่เป็นประชาธิปไตย และผ่านการลงมติรับร่างรัฐธรรมนูญด้วยการปิดปาก จับกุมดำเนินคดีผู้เห็นต่าง รวมทั้งการมี สว.แต่งตั้ง 250 เสียง ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการสืบทอดอำนาจ พิษของรัฐธรรมนูญนี้ทำให้เกิดผลการเลือกตั้งที่ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของประชาชน

ส่งผลให้เกิดรัฐบาลผสมที่ไร้เสถียรภาพ การบริหารราชการแผ่นดินล้มเหลว ทำให้เศรษฐกิจ สังคม การเมืองตกต่ำ ประชาชน ทุกข์ยาก ลำบาก แสนเข็ญ ซึ่งถือเป็นกับดักของรัฐธรรมนูญและเป็นต้นเหตุที่ทำให้ประเทศเสื่อมถอย ไม่เป็นประชาธิปไตย และขัดกับหลักนิติธรรม สร้างภาระหนักอันส่งผลลบต่อการพัฒนาประเทศในทุกด้าน

2. ระบบยุติธรรมเสื่อมถอยไร้มาตรฐาน ประชาชนขาดศรัทธาและความเชื่อถือ

3. การคุกคาม ข่มขู่ ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือปิดปากประชาชนผู้เห็นต่าง

จากข้อเท็จจริงจะเห็นได้ว่า การชุมนุมในครั้งนี้ มีประชาชนเข้าร่วมชุมนุมจำนวนมหาศาล โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ที่ต้องเสียสละอดทน ตากแดดฝน เสี่ยงต่อภยันตรายจากผู้ไม่หวังดี และการปราบปรามของรัฐบาล ก็เพียงเพื่อต้องการประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์กลับคืนมาเท่านั้น รัฐบาลจึงไม่จำเป็นต้องหาสาเหตุ มากล่าวอ้างว่า

ใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง เป็นท่อน้ำเลี้ยง หรือให้การสนับสนุนผู้ชุมนุมในครั้งนี้แต่อย่างใด เพราะ ต้นเหตุและปัญหาที่แท้จริง มันคือ การที่ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ เบื่อหน่าย อึดอัด และรับไม่ได้ ในความล้มเหลวของรัฐบาลที่มาจากรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตย

ฉะนั้น การชุมนุมเพื่อเรียกร้องประชาธิไตย และต่อต้านเผด็จการของประชาชน ในฐานะเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยของประเทศ จึงถือเป็นการหาทางออกให้ประเทศ การร่วมมือ ร่วมใจ ของภาคสังคมและประชาชน คือการรณรงค์

เพื่อให้เกิดรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง อันจะเป็นการเดินหน้าสู่การปลดล็อค เพื่อให้ประชาชนได้กำหนดกติกาในการอยู่ร่วมกัน เกิดฉันทามติ เพื่อให้มีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย โดยประชาชน และเพื่อประชาชน


 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน