เปิดอีกอัน! เอกสารของบฯสู้คดี ข้อพิพาท ราชอาณาจักรไทย – บริษัท คิงส์เกต ปม เหมืองทองอัครา ยังไม่สรุปอะไร แต่ใช้อำนาจตาม ม.44 สั่งปิด

จากกรณีมีการเผยแพร่เอกสาร งบประมาณปี 2564 เป็นรายละเอียดระบุถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินการระงับข้อพิพาทระหว่างราชอาณาจักรไทย กับ บริษัท คิงส์เกต จากประเทศออสเตรเลีย ในกรณีรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งปิดเหมืองทองอัครา เมื่อปี 2559

เหตุการณ์ที่อาจทำให้ไทยอาจต้องชดใช้ค่าเสียหายมูลค่าถึง 3 หมื่นล้านบาท โดยเวลานี้ศาลอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ อยู่ระหว่างพิจารณาคดี ซึ่งใช้งบประมาณในการสู้คดีกว่า 111 ล้านบาท ตามที่มีการเสนอข่าวไปแล้วนั้น

รายงานข่าวจากสภา แจ้งว่า ในการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 2564 เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้พิจารณางบประมาณกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มีการตั้งงบ 111 ล้านบาทสำหรับสู้คดีเหมืองทองอัครานั้น มีการระบุในเอกสารชี้แจงว่า กรณีบริษัทอัคราไมนิ่ง จ.พิจิตร ผลของการที่ถูกดำเนินคดีเป็นผลมาจากการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ในการสั่งปิดนั้น

ในการประกอบการของบริษัทอัคราไมนิ่ง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 จะมีเรื่องร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ หลังจากนั้นมีการตรวจสอบพบว่าจากการตรวจเลือดของประชาชน พบสารหนักในร่างกายเกินค่ามาตรฐานเป็นจำนวนมาก รัฐบาลขณะนั้นจึงมอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริง

โดยคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ลงพื้นที่และตรวจสอบตามหลักฐานต่างๆ ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าปัญหาที่เกิดกับประชาชนในพื้นที่ เกิดจากเหมืองหรือไม่ และมีข้อขัดแย้งระหว่างกลุ่มผู้คนในพื้นที่ในการสนับสนุนการทำเหมือง รัฐบาลขณะนั้นจึงต้องการที่จะปกป้องประเด็นเรื่องสุขภาพประชาชนในพื้นที่ จึงเลือกที่จะใช้อำนาจตามมาตรา 44 สั่งปิดเหมืองแร่ทั่วประเทศ เป็นการชั่วคราว เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและหาแนวทางแก้ไขปัญหาต่อไป


 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน