เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ครม.มีมติอนุมติตามที่กระทรวงต่างๆ เสนอดังนี้ สำนักงานปลัดสำนักนายกฯ เสนอขอรับโอน พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อประโยชน์แก่ทางราชการและทดแทนตำแหน่งที่ว่าง
สำนักงบประมาณเสนอแต่งตั้ง นางสาวอมรวดี จักรไพวงศ์ ที่ปรึกษาสำนักงบประมาณ เป็นรองผอ.สำนักงบประมาณ
กระทรวงศึกษาธิการเสนอปรับย้าย และแต่งตั้ง รวม 3 ราย 1.ย้าย นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็น เลขาธิการสภาการศึกษา 2.ย้าย นายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นปลัดกระทรวงศึกษาธิการ 3.แต่งตั้ง นายบุญรักษ์ ยอดเพชร รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็น เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เสนอแต่งตั้ง 2 ราย ได้แก่ นางปิยนุช วุฒิสอน ผอ.สำนักพัฒนาฐานข้อมูลและตัวชี้วัดภาวะสังคม เป็นที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน และนางธิดา พัทธธรรม ผอ.สำนักวิเคราะห์โครงการลงทุนภาครัฐ เป็น ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน
กระทรวงแรงงานเสนอแต่งตั้ง นายสุทธิ สุโกศล ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็น อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน, นางเพชรรัตน์ สินอวย ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็น รองปลัดกระทรวง, นายวิวัฒน์ ตังหงส์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็น รองปลัดกระทรวง, นายสมเกียรติ บุญทอง ที่ปรึกษากฎหมาย เป็น ผู้ตรวจราชการกระทรวง
กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอแต่งตั้ง นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ รองปลัดกระทรวง เป็น อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม, นายสมบูรณ์ ยินดียั่งยืน อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เป็น รองปลัดกระทรวง, นายณัฐพล รังสิตพล ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม, นายทองชัย ชวลิตพิเชฐ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นรองปลัดกระทรวง, นายอภิจิณ โชติกเสถียร ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็น รองปลัดกระทรวง
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เสนอแต่งตั้ง นางพรเพ็ญ วรวิลาวัณย์ เป็น ผอ.องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ลงนามในสัญญาจ้างเป็นต้นไป
วันเดียวกัน ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นายชัยพฤกษ์ เปิดเผยภายหลังครม.มีมติโยกย้ายไปดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ว่า การพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูง (ระดับ 11) ของ ศธ.เป็นอำนาจพิจารณาของ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศธ.ในการเสนอขอความเห็นชอบจาก ครม.โดยตรง ซึ่งจากมติครม.ที่ออกมานั้น ส่วนตัวไม่มีข้อขัดข้องและมีความพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่อยู่แล้ว เนื่องจากข้าราชการสามารถปฏิบัติภารกิจหน้าที่ที่ไหนก็ได้ ตามที่ได้รับมอบหมาย ส่วนเหตุผลในการโยกย้ายนั้นส่วนตัวคงตอบไม่ได้ เพราะไม่ทราบ ต้องถามรมว.ศธ.เอาเอง
ส่วนนายการุณ กล่าวว่า เมื่อรมว.ศธ.ไว้วางใจให้ตนมาทำหน้าที่ในตำแหน่ง ปลัดศธ.ก็พร้อมที่จะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ตามที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งส่วนตัวถือว่าเป็นโอกาสหนึ่งในการทำหน้าที่ข้าราชการ เมื่อได้รับคำสั่งให้ไปอยู่ที่ไหน ก็จะพยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับประวัติของนายบุญรักษ์นั้น ในอดีตเคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (ผอ.สพป.) พิษณุโลก เขต 1 ต่อมาได้ย้ายเข้ามาส่วนกลางดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ.สมัยนายการุณดำรงตำแหน่งเลขาธิการ กพฐ. จากนั้นในวันที่ 30 ส.ค.59 ครม.ได้มีมติเห็นชอบตามที่ ศธ.เสนอให้เลื่อนขึ้นเป็นรองเลขาธิการ กพฐ. ในสมัย พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี ดำรงตำแหน่ง รมวศธ. ส่วนการทำงานในฐานะรองเลขาธิการ กพฐ. นายบุญรักษ์ได้รับผิดชอบดูแลงานวิชาการ
ล่าสุดในโครงการพัฒนาครูรูปแบบใหม่ หรือ คูปองพัฒนาครู 10,000 บาท ซึ่งเป็นนโยบายเร่งด่วนของนพ.ธีระเกียรติ โดยนายบุญรักษ์ถือเป็นหัวเรือใหญ่ในการทำงาน โดยเฉพาะการเดินสายชี้แจงทำความเข้าใจแก่ครูทั่วประเทศ ถือเป็นการสนองนโยบาย นพ.ธีระเกียรติโดยตรง
