ทวีตฉะอำนาจเลวร้าย อาศัยกฎหมาย “ทักษิณ”ขยับครั้งแรกหลัง “ปู”หนี สื่อโลกแห่ลงข่าว พร้อมบทวิเคราะห์ “บิ๊กตู่”เมินชี้แค่ทวีตจะทำอะไรได้ “บุญทรง-ภูมิ”ป่วยความดันพุ่งกลางดึก เรือนจำส่งรักษาตัว ก่อนนำกลับคุมตัว ด้านเมียบุญทรงยื่นถอนฟ้อง 3 จนท.แล้ว กก.ปฏิรูปถกนัดแรก สรุปเบี้ยประชุมประธานครั้งละ 9 พัน กรรมการได้ 6 พัน

ทักษิณทวีตฉะ”ความเลวร้าย”

เมื่อวันที่ 30 ส.ค. นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้ทวีตข้อความทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษผ่านทวีตเตอร์ส่วนตัวว่า มงแต็สกีเยอ เคยกล่าว “ไม่มีความเลวร้ายใด ที่จะยิ่งไปกว่าความเลวร้ายที่ได้กระทำโดยอาศัยอำนาจ ตามกฎหมาย หรือในนามของกระบวนการยุติธรรม” โดยมีผู้เข้าไปสนใจและติดตามและรีทวิตข้อความดังกล่าวจำนวนมาก

สำหรับภาษาอังกฤษนายทักษิณ ใช้ประโยคที่ว่า “Montesquieu once said There is no crueler tyranny than that which is perpetuated under the shield of law and in the name of the justice.” ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่นายทักษิณ ออกมาเคลื่อนไหวผ่านโซเชี่ยล หลังจากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไม่ไปฟังคำพิพากษาของศาลฎีกาฯ ในคดีจำนำข้าวเมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา ท่ามกลางกระแสข่าวว่าได้หลบหนีเดินทางออกนอกประเทศและไปพำนักกับนายทักษิณ

ด้านสำนักข่าวต่างประเทศ อาทิ รอยเตอร์ เอเอฟพี เกียวโด นำเสนอข่าวการทวีตข้อความของนายทักษิณครั้งนี้ ว่าเป็นการแสดงความเห็นหลังการนิ่งเงียบมานาน และมีขึ้นหลัง จากน.ส.ยิ่งลักษณ์ น้องสาวเดินทางออกจากประเทศไทย สำนักข่าวส่วนใหญ่เน้นถึงคำต้นฉบับภาษาอังกฤษของมองแต็สกิเยอ นักปรัชญาการเมืองแห่งศตวรรษที่ 18 ที่นายทักษิณใช้ในการตอบโต้ ว่า “tyranny” ที่มีความหมายว่า ระบบทรราช หรือการใช้อำนาจกดขี่

พท.ยันมุ่งให้ประชาชนกินดีอยู่ดี

นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงนายทักษิณทวิตเตอร์ว่า เป็นเรื่องของนายทักษิณ ส่วนจุดยืนของพรรคเพื่อไทยก็ชัดเจนตามแถลงการณ์พรรคที่เป็นทางการที่สุดว่าจะเดินหน้าต่อไป ต่อจากนี้พรรคต้องคิดและคุยกันเท่าที่กฎหมายเอื้ออำนวย และยึดตามเจตนารมณ์ของพรรค เพื่อสู้ตามสิทธิเสรีภาพและประชาธิปไตยของประชาชน เดินหน้าให้ประชาชนกินดีอยู่ดี และต่อสู้อย่างสันติตามกระบวนการรัฐธรรมนูญและประชาธิป ไตยที่ต้องหาทางออกที่เหมาะสมที่สุดให้กับประชาชน ทั้งนี้ พรรคจะปรับตัวให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และยึดมั่นในศรัทธาที่ประชาชนได้มอบให้ ส่วนเรื่องน.ส.ยิ่งลักษณ์เมื่อถึงเวลาคงออกมาพูดเอง เพราะไม่มีใครสามารถพูดแทนน.ส.ยิ่งลักษณ์ได้

แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทยเปิดเผยว่า เหตุที่พรรคเพื่อไทยต้องออกแถลงการณ์การดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของพรรคในอนาคต ก็เพื่อสยบความเคลื่อนไหนภายในพรรค หลังมีอดีตส.ส.รวมถึงสมาชิกพรรคจำนวนมาก สอบถามถึงอนาคตและความชัดเจนของพรรค นอกจากนี้มีอดีตส.ส.บางกลุ่มเริ่มเคลื่อนไหว ทางแกนนำพรรคจึงหารือกันและออกแถลง การณ์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและเพื่อให้เกิดความชัดเจนว่าพรรคเพื่อไทยจะดำเนินกิจกรรมทางการเมืองต่อไป ส่วนกรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์ทางแกนนำพรรคตกลงกันว่าจะไม่พูดหรือแตะเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องของน.ส.ยิ่งลักษณ์ที่ตัดสินใจเอง ควรรอให้ถึงเวลาที่น.ส.ยิ่งลักษณ์พร้อมและชี้แจงสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยตัวเอง

เยี่ยมคารวะ – พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง ไหล่ ผบ.สูงสุด สาธารณรัฐแห่งสหภาพ เมียนมา เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 30 ส.ค.

“ตู่”ชี้แม้วทวีตไปจะทำอะไรได้

วันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมพล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกฯ พล.อ. สกล ชื่นตระกูล ที่ปรึกษานายกฯ คณะทำงาน และข้าราชการ เจ้าหน้าที่ทำเนียบ ออกกำลังกายประจำสัปดาห์ทุกวันพุธ ภายในตึกสันติไมตรี โดยเต้นแอโรบิก เพื่ออบอุ่นร่างกายนาน 20 นาที จากนั้นได้เต้นบอดี้คอมแบต ประมาณ 10 นาที หลังจากไม่ได้ออกกำลังกายมา 4 สัปดาห์ โดยหลังออกกำลังกายเสร็จ ได้ไปตรวจเยี่ยมการก่อสร้างอาคารรับรอง “ภักดีบดินทร์” ซึ่งเป็นอาคารรับรองหลังใหม่ ที่จะทำบุญเปิดตึกในวันที่ 31 ส.ค. เวลา 10.30 น.

ผู้สื่อข่าวถามว่าเห็นข้อความในทวิตเตอร์ของนายทักษิณหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ หันมาตอบเสียงดังว่า “ปล่อยเขาไป ทวิตเตอร์จะไปทำอะไรได้ เชื่อเขาก็ตามใจ คิดสิคิด” โดยระหว่างพูดได้เอานิ้วชี้ไปที่ขมับด้านขวา เพื่อทำท่าประกอบด้วย

ยันมุ่งมั่นทำกติกาเป็นสากล

พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวระหว่างเป็นประธานในพิธีมอบรางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น ปี 2560 ตอนหนึ่งว่า ตนยินดีและภูมิใจที่เกิดเป็นคนไทย และมีโอกาสได้เป็น นายกฯ ในช่วงเวลานี้เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านประเทศไปสู่ความยั่งยืน ซึ่งหลายคนถามว่าเหนื่อยหรือไม่ ตอบเลยว่าไม่เหนื่อย ตนเหนื่อยไม่ได้ ท้อไม่ได้ จะต้องทำทุกอย่างเพื่อให้มันดีขึ้น หลายคนขอบคุณที่ทำให้ธุรกิจดีขึ้น

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า รัฐบาลมุ่งมั่นแก้ปัญหาทุกเรื่อง ปฏิรูปประเทศ 37 เรื่อง 200 กิจกรรม รวมแล้วมีพันกว่าเรื่องย่อยที่ต้องดำเนินการ ทั้งกฎหมาย 5 หมื่นฉบับที่ต้องปฏิรูปทั้งหมด เขาเรียกว่าการปฏิรูป ไม่ใช่ว่าปฏิรูปสั่งวันนี้พรุ่งนี้เสร็จ แบบนั้นไม่ได้ การอำนวยความสะดวก การให้ข้อมูลข่าวสาร การทำกฎกติกาให้เป็นสากล เราจะทำต่อไปและส่งมอบให้รัฐบาลต่อไปได้ดำเนินการ

ปลื้มตลาดหุ้นเขียวทั้งกระดาน

พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนในการเดินทางไปเยือนสหรัฐอเมริกาว่า ต้องดูความพร้อมทั้งฝ่ายสหรัฐและของเราด้วย เบื้องต้นเท่าที่มีการคุยกันก็เป็นช่วงเดือนต.ค.

เมื่อถามถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่เดินทางมารับฟังคำพิพากษาในคดีโครงการจำนำข้าว พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. ได้ชี้แจงเรื่องดังกล่าวไปหมดแล้วก็เป็นไปตามนั้น

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวด้วยว่า ขณะนี้บ้านเมืองไปด้วยดีและสถานการณ์ดีขึ้นเพราะอะไร เมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นเขียวทั้งกระดาน ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นหรือไม่ และตนอยากให้เป็นแบบนี้เสมอไป หากบ้านเมืองสงบมีเสถียรภาพ ไม่มีปัญหาการเมือง และทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมแล้ว สถานการณ์ทุกอย่างจะนิ่งหมด จึงขอให้ช่วยกันทำให้ทุกอย่างเกิดความสงบ

ป้อมยัน”ปู”หนีไม่กระทบคสช.

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม กล่าวถึงการติดตามตัวน.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า การหลบของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้ทำให้ตนเสียสมาธิในการทำงาน ยืนยันที่ผ่านมาได้กำชับหน่วยงานความมั่นคง และให้รายงานความคืบหน้ามาตลอด ส่วนการติดตามทางตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจตระเวนชาย แดนก็ต้องตรวจสอบ เช็กตามแนวชายแดนว่าพบร่องรอยการหลบหนีออกไปหรือไม่ รวมถึงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานกับประเทศต่างๆ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้รายงานอะไรเข้ามา เบื้องต้นยังไม่ทราบที่อยู่ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่รู้ ไม่ยืนยัน เพราะตรวจสอบช่องทางต่างๆ แล้วไม่พบ ออกไปทางไหนก็ยังไม่รู้ รายงานจากประเทศสิงคโปร์ก็บอกไม่มี

พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ฝ่ายการข่าวทำตามที่ตนกำหนดทุกอย่าง จับตาอยู่แล้ว ถ้าไปดูแลอย่างใกล้ชิดเกินไปก็หาว่าไปลิดรอนสิทธิเสรีภาพ ทำให้ผบ.ตร.เรียกคนกลับมา และมีคนเฝ้าอยู่หน้าประตูบ้านบ้าง ใครเคยคิดบ้างว่าเหตุการณ์จะเป็นแบบนี้ เชื่อว่าการหลบหนีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่กระทบความเชื่อมั่นการบริหารงานของรัฐบาล และคสช. รวมถึงไม่มีการจับตาท่าทีของฝ่ายการเมืองฝั่งตรงข้าม กับน.ส.ยิ่งลักษณ์

“บิ๊กแป๊ะ”ลั่นทำเต็มที่อยู่แล้ว

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวว่า ขณะนี้ตำรวจพยายามติดตามอยู่ บางอย่างก็พูดได้ พูดไม่ได้ การประสานกับต่างประเทศยังไม่มีการตอบกลับ ซึ่งการตอบกลับไม่ได้เร็วอย่างที่คิด เพราะเวลาของแต่ละประเทศไม่ตรงกัน เราอยากได้คำตอบกลับมาเร็วๆ แต่ขึ้นอยู่กับประเทศเขา ส่วนการขอหมายค้นตามเป้าหมายต้องสงสัยต่างๆ นั้น ได้มอบให้พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. ไปหมดแล้ว ซึ่งถ้าเสนอมาอย่างไรก็ต้องมารายงานตน ตัดสินใจร่วมกัน ถ้าจุดไหนชัดเจนก็ต้องเข้าค้น ส่วน 14 คนใกล้ชิดที่อยู่กับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ก่อนหายตัวไปนั้น กำลังดำเนินการ อยู่ในดุลยพินิจเจ้าหน้าที่ว่าจะเรียกมาสอบหรือไม่ ถ้าเรียกมาแล้วไม่เป็นประโยชน์ก็จะไม่เรียกมา

เมื่อถามว่าในการตามหาตัวน.ส.ยิ่งลักษณ์หลายฝ่ายพุ่งเป้ามาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ไม่กังวล เพราะทำเต็มที่แล้ว ถ้าไม่ได้อะไรเต็มที่ ตนก็ถูกเปลี่ยนเท่านั้นเอง ไม่ได้กดดัน คดีนี้คล้ายกับคดีอื่น การแสวงหาพยานหลักฐานก็เหมือนคดีนาย วรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ทายาทกระทิงแดง ก็ประสานไปต่างประเทศ ถ้าผู้สื่อข่าวถามทุกวันว่าความคืบหน้าอย่างไร ตนก็ไม่ใช่เทวดา ทุกอย่างดำเนินการด้วยความระมัดระวัง ตนและพล.อ.ประวิตร ทำเต็มที่แล้วยังมีคนไปร้องป.ป.ช. ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่อีก ไม่หนักใจ เขาคงมีแนวคิดของเขา ทำได้อยู่แล้ว เป็นสิทธิ์ ตนโดนจนชินแล้ว ตั้งแต่คดีม็อบ คดีภาคใต้ เชื่อว่าคนดีพระคุ้มครอง

ที่กองบัญชาการกองทัพไทย พล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ ผบ.ทสส. กล่าวถึงการติดตาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ว่า เจ้าหน้าที่ทุกคน ทำงานอย่างเต็มความสามารถทั้งตำรวจ ทหาร อย่างไรก็ตาม ต้องรอดูความคืบหน้าต่อไป

กก.ปฏิรูปนัดแรก-ถกเบี้ยประชุม

ที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) นาย ปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการ สศช. แถลงผลประชุมคณะกรรมการปฏิรูปประเทศนัดแรก ที่มีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ เป็นประธานว่า ที่ประชุมจะกำหนดหลักเกณฑ์การทำงานของคณะกรรมการแต่ละคณะให้เสร็จภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันที่ได้รับการแต่งตั้ง ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 13 ก.ย.นี้ ก่อนเสนอให้คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติเห็นชอบ สำหรับเบี้ยประชุมต่อครั้งประธานคณะกรรมการจะได้รับเงิน 9,000 บาท ขณะที่กรรมการจะได้ 6,000 บาท ส่วนวันนัดประชุมแต่ละคณะขึ้นอยู่กับคณะกรรมการแต่ละชุดจะกำหนด

นายปรเมธีกล่าวว่า นายกฯ ได้เน้นย้ำให้คณะกรรมการคิดและต่อยอดข้อเสนอของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ที่ค้างอยู่จำนวนมาก ให้นำไปสู่การปฏิบัติให้เห็นผลเป็นรูปธรรมต่อไป ดังนั้น การทำงานของคณะกรรมการแต่ละคณะจึงถือว่าไม่ได้เริ่มจากศูนย์

นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง เปิดเผยว่า คาดว่าวันที่ 4 ก.ย.นี้จะนัดประชุมกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการเมืองนัดแรก แต่ขณะนี้ยังไม่ระบุสถานที่ แนวทางเบื้องต้นจะต้องนำผลการศึกษาที่เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาด้านการเมืองมาพิจารณา ไม่ว่าจะเป็นของสปช. สปท. และคณะกรรมการอื่นๆ โดยการทำงานต้องไม่นับหนึ่งใหม่แน่นอน

วิษณุยันไม่มีพิมพ์เขียวปฏิรูป

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ในฐานะตัวแทนคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ และประธานการประชุมคณะกรรมการปฏิรูป 11 ด้านกล่าวว่า แผนการปฏิรูปไม่มีพิมพ์เขียว และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำ

เมื่อถามถึงกรณีมีรายชื่อนักธุรกิจในคณะกรรมการ จะทำให้ไม่สอดคล้องกับร่างพ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวกับประโยชน์ส่วนรวม ที่รัฐบาลกำลังผลักดันหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า เป็นการปฏิรูปในทุกมิติทุกด้าน เพราะคณะกรรมการของแต่ละชุดมีส่วนผสมของคน ทุกรูปแบบ เพื่อทำงานให้เกิดความหลากหลาย บูรณาการซึ่งกันและกัน

นายวิษณุยังกล่าวถึงการดำเนินการหลังศาลอาญาแผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางพิพากษาให้ที่ดินอัลไพน์เป็นของธรณีสงฆ์ว่า เรื่องนี้ต้องให้ผู้เกี่ยวข้องอย่างกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย กรมการศาสนา พศ. ไปพิจารณาให้ดีว่าคดีมีอายุความอย่างไรและ ผู้เกี่ยวข้องยังมีอีกหรือไม่ รวมถึงจะต้องยกเลิกเพิกถอนได้หรือไม่ด้วย และไม่มีความจำเป็นต้องออกพ.ร.บ.โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินสงฆ์ ในอดีตเวลารัฐต้องการที่ดินของสงฆ์ กฎหมายคณะสงฆ์ให้ออกเป็นพระราชกฤษฎีกาได้ โดยกำหนดว่าเวลารัฐจะใช้ที่ดินของสงฆ์ให้ดำเนินการตามขั้นตอน เริ่มจากเจรจากับวัด นำเรื่องเข้าที่ประชุม มส. หาก มส.ไม่อนุญาตก็จบ แต่หากเห็นชอบก็เดินต่อตามหลัก ฉะนั้นการแลกเปลี่ยนที่ดินของพระพุทธศาสนาจึงออกเป็นพระราชกฤษฎีกา

“บุญทรง”ป่วยความดันพุ่ง

วันเดียวกัน นายกอบเกียรติ กสิวิวัฒน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงข่าวนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ผู้ต้องขังคดีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ซึ่งศาลฎีกาฯ มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา ให้จำคุก 42 ปี มีอาการป่วยหนักและถูกหามตัวส่งโรงพยาบาลว่า เบื้องต้นตนได้รับรายงานจากผู้บัญชาการเรือนจำกลางคลองเปรมว่า บ่ายวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมานายบุญทรงเกิดอาการปวดศีรษะ เจ้าหน้าที่เรือนจำจึงส่งตัวไปพบแพทย์เพื่อตรวจอาการที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ทันที เนื่องจากเรือนจำกลางคลองเปรมไม่มีสถานพยาบาลในเรือนจำ โดยแพทย์ได้วัดระดับความดัน พบว่านายบุญทรงมีความดันขึ้นสูงจึงให้ยารักษา ก่อนนำตัวกลับมาควบคุมยังเรือนจำกลางคลองเปรมตามปกติ

นายกอบเกียรติกล่าวต่อว่า วันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา นอกจากนำตัวนายบุญทรงเข้ารับการตรวจรักษาจากแพทย์แล้ว ยังมีนายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ และผู้ต้องขังในคดีเดียวกันอีกที่ถูกนำตัวส่งไปตรวจดูอาการป่วย ซึ่งทั้งหมดได้ถูกนำตัวกลับมาควบคุมยังเรือนจำกลางคลองเปรมแล้ว

เมียบุญทรงถอนฟ้อง 3 จนท.แล้ว

ด้านนายนรินทร์ สมนึก ทนายความนายบุญทรง เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ได้ส่งทีมทนายเข้าไปที่ศาลอาญาแผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อยื่นถอนฟ้องคดีที่นางปอยใจระพี เตริยาภิรมย์ ภรรยานายบุญทรง เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนางรื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี เเละนางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และเจ้าหน้าที่รวม 3 ราย ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีกรมบังคับคดีใช้มาตรการทางปกครองอายัดทรัพย์ของนายบุญทรง หลายรายการ ตามที่นายบุญทรงได้ขอให้ภรรยาถอนฟ้อง เพราะไม่อยากให้ตกเป็นเป้าทางการเมือง

นายนรินทร์กล่าวว่า นายบุญทรงพร้อมด้วยนายภูมิ และนายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ รวม 3 คน ถูกส่งตัวไปพบแพทย์ภายในทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เนื่องจากมีอาการป่วย สาเหตุส่วนหนึ่งน่าจะมาจากอาการเครียดสะสมภายหลังจากถูกคุมขัง เบื้องต้นทราบว่าทั้ง 3 คนปลอดภัยแล้ว ซึ่งทางครอบครัวของนายบุญทรงก็เป็นห่วงและกังวลเรื่องสุขภาพ ส่วนการทำเรื่องขอประกันตัวนายบุญทรงอีกครั้งนั้นยังอยู่ระหว่างการดำเนินการ ซึ่งเสร็จไปกว่า 50 เปอร์เซ็นต์แล้ว คาดว่าในสัปดาห์นี้น่าจะยื่นเรื่องประกันตัวได้อีกครั้ง โดยจะหาประเด็นเหตุผลที่ดีที่สุดในการเรียบเรียงถ้อยคำร้องอีกครั้ง แต่ยืนยันว่าจะไม่นำอาการป่วยมาเป็นเหตุผลร้องขอประกันตัวในรอบนี้ ซึ่งเหตุผลคำร้องขอประกันตัวรอบนี้จะแตกต่างกับคำร้องในรอบแรกพอสมควร

ปปช.ยันอุทธรณ์คดีพธม.ตามกม.

ที่โรงแรมริชมอนด์ สไตลิชคอนเวนชั่นโฮเทล นนทบุรี พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงที่ประชุมคณะกรรมการป.ป.ช. มีมติอุทธรณ์ผลคำพิพากษาคดีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ปี 2551 เฉพาะพล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีตผบช.น. จำเลยที่ 4 ว่า มติดังกล่าวพิจารณาจากพยานหลักฐานและคำพิพากษากลาง คำวินิจฉัยส่วนตัวของผู้พิพากษาขององค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอย่างละเอียด จึงอุทธรณ์จำเลยที่ 4 คนเดียว หากอุทธรณ์จำเลยที่ 1-3 นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกฯ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. เห็นว่ายังห่างไกลประเด็นที่ป.ป.ช. จะอุทธรณ์

พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่า การจะอุทธรณ์อะไร ต้องคิดว่าอุทธรณ์แล้วจะสำเร็จหรือไม่ และสิ่งที่เจ้าหน้าที่เสนอ ไม่ได้บอกให้อุทธรณ์จำเลยทุกคน บอกเพียงว่าประเด็นที่จะอุทธรณ์มีอะไรบ้างเท่านั้น รวมถึงคณะกรรมการ ป.ป.ช.จะเป็นผู้รับผิดชอบในมติด้วย ทั้งนี้ในวันที่ 31 ส.ค.นี้จะไปยื่นอุทธรณ์ต่อที่ประชุมศาลฎีกา เพื่อไม่ให้สุ่มเสี่ยงต่อกรอบเวลาตามรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 195

ไม่สนขู่ยื่น”ถอดถอน”

เมื่อถามว่ากลุ่มพธม.มองว่าเป็นมติสีเทา อุ้มจำเลยบางคน พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่า มุมมองตามกฎหมายเป็นเรื่องของแต่ละบุคคล แล้วแต่ใครจะมอง อาจแตกต่างกันได้ หากใครเป็นนักกฎหมายให้ไปดูคำวินิจฉัยส่วนตัวของผู้พิพากษาแต่ละคนจะเข้าใจได้ แต่บางคนที่ไม่เข้าใจก็จะไม่เข้าใจอยู่อย่างนั้น ยืนยันว่าป.ป.ช. พิจารณาทุกอย่างตามหลักกฎหมาย และพยานหลักฐาน ส่วนที่ ป.ป.ช.ชุดที่แล้วเคยมีมติเอาผิดจำเลยทั้ง 4 ราย แต่ ป.ป.ช.ชุดปัจจุบัน กลับเลือกอุทธรณ์เฉพาะจำเลยที่ 4 เพียงคนเดียวนั้น ถือเป็นคนละขั้นตอนกัน นำมาเปรียบเทียบกันไม่ได้ ส่วนกลุ่มพธม.จะยื่นเรื่องประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้ส่งประธานศาลฎีกาถอดถอนป.ป.ช.ชุดนี้ หากเห็นว่าเรื่องนี้เข้าเงื่อนไข สามารถทำได้ ไม่มีปัญหา ไม่กังวลจะถูกยื่นถอดถอน เพราะทำตามหน้าที่ ขั้นตอนของกฎหมาย ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมายได้

ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม กล่าวถึงป.ป.ช. ไม่ยื่นอุทธรณ์ 3 จำเลยในคดีสลายการชุมนุมกลุ่มพธม.ปี 2551 ว่า ตนไม่มีความเห็น เพราะไม่ได้ยุ่งเกี่ยวตั้งแต่แรก ตนไม่ได้ทำอะไรเลย ทำแต่งาน ส่วนที่มีกระแสวิจารณ์ว่าอาจเป็นเพราะเกรงใจที่พล.ต.อ.พัชรวาท เป็นน้องชายตนนั้น วิจารณ์ไปเลย “ผมไม่ได้ทำอะไร เขาทำมาตั้งนานแล้ว คดีตั้งกี่ปีมาแล้ว ผมยังไม่ได้ยุ่งเกี่ยวเลย จังหวะนี้ผมต้องมาเป็นรมว.กลาโหมก็มาหาว่ายุ่งเกี่ยว”

พธม.ฮึ่มยื่นสนช.บี้สัปดาห์นี้

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า หากดูตามความเหมาะสมแล้ว ป.ป.ช.ควรยื่นอุทธรณ์กับจำเลยทั้ง 4 คนเพื่อทำให้คดีถึงที่สุด ไม่ทำให้ผู้เสียหายค้างคาใจ และติดใจเรื่องนี้อยู่ เชื่อว่าเวลาศาลฎีกาฯตัดสินอย่างไรแล้วประชาชนคงจะรับได้เพราะคดีมันถึงที่สุดแล้ว แต่หากไปทำให้คดียังไม่ถึงที่สุด เลือกอุทธรณ์บางคน ไม่อุทธรณ์บางคน ความไม่ไว้วางใจก็จะยังอยู่ จะเกิดข้อกังขา

ที่บ้านพระอาทิตย์ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ อดีตโฆษกพธม. อ่านแถลงการณ์คณะทำงานพธม. ฉบับที่ 3/2560 ว่า พธม.มีมติว่าจะดำเนินคดีอาญาต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ที่เกี่ยวข้องกับการลงมติดังกล่าว เนื่องจากเป็น การลงมติที่ไม่เป็นธรรม ฝืนมติป.ป.ช.ชุดเดิมที่มีหลักฐานชี้มูลความผิดจำเลยทั้ง 4 อย่างชัดเจน ทีมกฎหมายพธม. เตรียมหาช่องทางเพื่อยื่นตรวจสอบถอดถอนป.ป.ช.โดยยื่นต่อประธานสนช. ให้ตั้งผู้ชำนาญการพิจารณาตรวจสอบการทำหน้าที่ของ ป.ป.ช.ตามรัฐธรรมนูญใหม่ ในกรณีละเว้นปฏิบัติหน้าที่ โดยจะยื่นต่อสนช.ปลายสัปดาห์นี้

นปช.จี้อุทธรณ์ฟันตร.ให้การเท็จ

รายงานข่าวจากแกนนำ นปช. แจ้งว่า ในวันที่ 31 ส.ค. เวลา 11.00 น. แกนนำนปช.ประกอบด้วย นายนิสิต สินธุไพร นายวรชัย เหมะ นพ.วัลลภ ยังตรง นายพายัพ ปั้นเกตุ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ นายวันชนะ เกิดดี นายสำเริง ประจำเรือ นายสมญศฆ์ พรมภา นายพงษ์พิเชษฐ์ สุขจินดาทอง นายศักดา นพสิทธิ์ นายนพพร นาทเชียงใต้ ซึ่งเป็นจำเลยในคดียุยงส่งเสริมปลุกปั่นให้เกิดความปั่นป่วนและสมคบ กันเกิน 10 คนขึ้นไป กรณีพากลุ่มมวลชนยกขบวนไปปิดล้อมและล้มการประชุม สุดยอดผู้นำอาเซียน หรืออาเซียนซัมมิท ที่โรงแรม รอยัลคลิฟบีชรีสอร์ท เมืองพัทยา เมื่อปี 2552 หรือคดีพัทยา จะเดินทางไปยื่นหนังสือต่ออัยการสูงสุด ที่ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ เพื่อแสดงความประสงค์ให้อัยการพัทยาเจ้าของสำนวน อุทธรณ์คำพิพากษาของศาลจังหวัดพัทยา

สืบเนื่องจากอัยการพัทยาเจ้าของสำนวนคดีที่พ.ต.อ.สมพล รัฐกาญจน์ อดีต ผกก.สภ.ไชยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องพ.ต.ท. ศราวุฒิ บุญชัย สวป.สภ.ขลุง จ.จันทบุรี เป็นจำเลยต่อศาลจังหวัดพัทยา ข้อหาแจ้งความเท็จและให้การเท็จต่อศาล ปรากฏว่าศาลพิพากษาจำคุกจำเลย 2 ปี 6 เดือน แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี ทั้งนี้ จำเลยคดีพัทยาหลายคนได้รับผลจากการให้การของพ.ต.ท.ศราวุฒิ ให้ได้รับโทษทางอาญา และการเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจย่อมรู้อยู่แล้วว่าการแจ้งความเท็จ ให้การเท็จต่อศาล ทำให้ผู้อื่นได้รับโทษสูญสิ้นอิสรภาพและมีคดีติดตัวเป็นความผิดร้ายแรง ซึ่งต้องมีความผิดสูงกว่าประชาชนธรรมดาทั่วไป จำเลยคดีพัทยาจึงประสงค์ให้อัยการพัทยาเจ้าของสำนวนอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลจังหวัดพัทยา ทั้งนี้ จะไปยื่นหนังสือต่ออัยการภาค 2 เพื่อติดตามคดีนี้ เพราะคดีนี้จะครบกำหนดอุทธรณ์ในวันที่ 9 ก.ย.

ศาลรธน.นัด 5 กย.ชี้คำร้องสนช.

ที่รัฐสภา นายนรชิต สิงหเสนี โฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เห็นแย้งร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กสม.ว่า กรธ.ได้มอบให้นางจุรี วิจิตรวาทการ นายนรชิต สิงหเสนี นายเธียรชัย ณ นคร พล.ต.วีระ โรจนวาศ และนายปกรณ์ นิลประพันธ์ เป็น กมธ.ร่วม 3 ฝ่าย ส่วนร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยผู้ตรวจการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ… ที่ สนช.มีกำหนดพิจารณาวาระแรก วันที่ 31 ส.ค.นี้ กรธ.ได้มอบให้ตน นายธิติพันธุ์ เชื้อบุญชัย และนายธนาวัฒน์ สังข์ทอง ร่วมเป็น กมธ.วิสามัญเพื่อร่วมพิจารณาในวาระ 2 ส่วนร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.) อยู่ระหว่างการพิจารณาของ กรธ. และอีก 2 ฉบับได้แก่ ร่างกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และร่างกฎหมายว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. ทั้ง 2 ฉบับจะเสร็จช่วงต้นเดือนธ.ค.นี้ ตามกำหนด 240 วัน

ที่ศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้ประชุมเพื่อพิจารณาคำร้องกรณีประธาน สนช.ส่งความเห็นของสมาชิก สนช.จำนวน 36 คน ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 148 วรรคหนึ่ง (1) ประกอบมาตรา 263 ว่าร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน มาตรา 56 มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ กรณีวาระการดำรงตำแหน่งของผู้ตรวจการแผ่นดินชุดปัจจุบัน โดยวันนี้ประธาน สนช.ผู้ร้องได้ส่งความเห็นของทั้งสองฝ่ายเป็นหนังสือ จึงมีคำสั่งรับไว้ในสำนวน และได้กำหนดประเด็นที่ต้องพิจารณาวินิจฉัยพร้อมทั้งอภิปราย เพื่อนำไปสู่การวินิจฉัย คดีพอวินิจฉัยได้จึงกำหนดนัดแถลงด้วยวาจาก่อนลงมติและลงมติในวันที่ 5 ก.ย. เวลา 11.00 น.

กสม.ติง6ประเด็นขัดรธน.

นายวัส ติงสมิตร ประธานกสม. เปิดเผยว่า กสม.ร่วมกันพิจารณาร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยกสม. แล้วเห็นว่ามี 6 ประเด็นโต้แย้งต่อร่างกฎหมาย ซึ่งไม่ตรงตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ดังนี้ 1.กรณีกรรมการสรรหา ร่างกฎหมายกำหนดว่าหากพ้นกำหนดเวลาเลือกกรรมการสรรหาที่เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยแล้ว ยังไม่มีกรรมการสรรหาที่เป็นผู้แทนองค์กรเอกชนด้านสิทธิมนุษยชน คณะกรรมการสรรหาไม่ต้องมีผู้แทนองค์กรเอกชนด้านสิทธิมนุษยชน ถือว่าไม่ตรงตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญมาตรา 246 วรรคสี่ 2.ประเด็นผู้สมัครเป็นกสม. ร่างกฎหมายกำหนดรายละเอียดคุณสมบัติของ กสม.เกินกว่าที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ ขณะที่หลักการปารีสมิได้กำหนดระยะเวลาเกี่ยวกับความรู้หรือประสบการณ์ จึงถือเป็นการจำกัดสิทธิบุคคลที่เสนอตัว ยากแก่การสรรหา ขัดต่อหลักนิติธรรม จึงไม่ตรงตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญมาตรา 246 วรรคสอง ประกอบมาตรา 3 วรรคสอง และ 26 วรรคหนึ่ง

นายวัสกล่าวว่า 3.ประเด็นเซ็ตซีโร่กสม.มิได้เป็นไปอย่างสุจริต ไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ จำกัดสิทธิเสรีภาพของบุคคลไม่เป็นตามเงื่อนไขในรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 วรรคสองและมาตรา 26 วรรคหนึ่ง 4.อำนาจและหน้าที่ของกสม. โดยเสนอให้แก้ไขร่างมาตรา 29 วรรคหนึ่ง ที่กำหนดให้กสม.แต่งตั้งอนุกรรมการได้เฉพาะกรณีไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ มาเป็นให้แต่งตั้งได้ในกรณีจำเป็น

5.ให้แก้ไขร่างมาตรา 34 ที่ไม่ได้กำหนดให้กสม.สามารถไกล่เกลี่ยได้ มาเป็นว่าในกรณีที่สมควร จำเป็น และได้รับความยินยอมจากคู่กรณี กสม.อาจไกล่เกลี่ยให้คู่กรณีทำความตกลงเพื่อประนีประนอมและแก้ปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนได้ 6.แก้ไขร่างมาตรา 44 ที่บังคับให้กสม.ชี้แจงรายงานข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง กรณีที่มีการรายงานสถานการณ์เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย โดยไม่ถูกต้องหรือไม่เป็นธรรมทุกกรณี มาเป็นว่ากสม.อาจพิจารณาตรวจสอบเพื่อชี้แจงและรายงานข้อเท็จจริงดังกล่าวต่อครม. หน่วยงาน หรือองค์กรที่เกี่ยวข้อง หรือเผยแพร่ต่อสาธารณชนได้ หากกสม.เห็นว่ากระทบต่อผลประโยชน์ส่วนรวมของชาติและประชาชน ทั้งนี้ได้ลงนามความเห็นดังกล่าวและส่งให้ประธานสนช. ไปเมื่อวันที่ 29 ส.ค.เพื่อตั้งกมธ.วิสามัญร่วม 3 ฝ่าย

“บิ๊กตู่”ยังไม่ตั้งผอ.พศ.คนใหม่

เมื่อวันที่ 30 ส.ค. ที่อาคารสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ จ.นครปฐม สมเด็จพระอริย วงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จทรงเป็นประธานการประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) ครั้งที่ 21/2560 โดยพ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ลาประชุม พร้อมได้มอบหมายให้นายกนก แสนประเสริฐ รอง ผอ.สำนักพุทธฯ ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการมหาเถรฯ แทน โดยภายหลังการประชุม มหาเถรฯ พระพรหมเมธี โฆษกมหาเถรฯ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ในการประชุมมหาเถรฯ ครั้งนี้ไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องการโยกย้ายพ.ต.ท.พงศ์พร แต่อย่างใด

พระครูปริยัติวีราภรณ์ ประธานกลุ่มโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษากลุ่มที่ 9 กล่าวถึง ผอ.สำนักพุทธฯ คนใหม่ ว่า ฝากถึงผู้บริหารบ้านเมืองที่เกี่ยวข้องในการแต่งตั้งผอ.พศ.คนใหม่ ขอให้คัดเลือกบุคคลที่เข้าใจการทำงานของคณะสงฆ์ โดยเฉพาะการศึกษาสงฆ์ ซึ่งต้องอาศัยบุคคลที่มีความรู้ความเข้าใจเป็นอย่างมาก รวมถึงต้องมีใจเป็นกลางไม่มีอคติ และพร้อมรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย ที่สำคัญ ผอ.สำนักพุทธฯ คนใหม่ที่เข้ามาต้องมาทำหน้าที่สนองงานคณะสงฆ์ รวมทั้งสามารถเข้ามาประสานการทำงานระหว่างคณะสงฆ์ทุกระดับ ข้าราชการ ให้เกิดความราบรื่น ไม่ใช่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง และความไม่สบายใจเหมือนที่ผ่านมา

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. ให้สัมภาษณ์ถึงคุณสมบัติผู้อำนวยการสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) คนใหม่หลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติย้ายพ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.พศ.คนปัจจุบันไปเป็นผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ตั้ง ส่วนคุณสมบัติของผอ.พศ. ก็เป็นไปตามคุณสมบัติผอ.พศ. และเป็นข้าราชการคนดีเหมือนคนเดิม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน