“บิ๊กตู่” ยันไม่ขัดข้องแก้รัฐธรรมนูญ บอก ไม่มีความเห็นตั้ง กมธ.วิสามัญศึกษาร่างฯ ยันไม่เคยสั่งเปลี่ยนแปลงญัตติ ปัดล็อบบี้สั่ง ชี้ ส.ว. ก็มีเกียรติ

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 25 ก.ย.ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวภายการประชุมสภากลาโหม ถึงกรณีที่รัฐสภามีมติตั้งกรรมาธิการวิสามัญศึกษาก่อนลงมติในญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ไม่มีความเห็นอะไร เพราะเป็นเรื่องของรัฐสภา

โดยบรรยากาศการประชุมวันแรกเป็นไปได้ด้วยดี แต่วันที่สองเริ่มมีความขัดแย้งกันมากขึ้น ซึ่งทุกคนก็เห็นกันแล้วว่ามีการก้าวล่วงอะไรต่างๆ หลายคนก็รับไม่ได้ จึงทำให้เกิดการลงมติกันอย่างที่ว่า รวมถึงเปลี่ยนแปลงญัตติอะไรต่างๆ ที่ตนไม่เคยสั่งอะไร ซึ่งการลงมติไม่ใช่ว่าจะเห็นชอบด้วยกันทั้งหมด

เพราะมีบางส่วนก็เห็นแตกต่าง ต้องเคารพความคิดเห็นที่แตกต่างกันไม่ใช่หรือ นั่นคือผู้ทรงเกียรติใช่หรือไม่ ดังนั้น เราต้องรับฟังซึ่งกันและกัน หากมีการให้ร้ายว่ากล่าวเบียดเบียนกัน พูดจาไม่สุภาพเป็นเราก็รับไม่ได้ เพราะฉะนั้นจะทำอย่างไรให้แก้ไขปัญหาตรงนี้ได้ เขาเรียกว่าความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ทั้งนี้ ฝากพวกเราช่วยแก้ด้วยแล้วกัน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า สถานการณ์ในวันนี้มีปัญหามากมาย ไม่ว่าเรื่องโรคระบาด และการชุมนุมไม่ว่าจะทำเพื่อใครหรือเพื่ออะไร ก็ขอฝากประชาชนทั้งประเทศช่วยกันคิดด้วยแล้วกัน ในส่วนของตนคิดว่าจะผ่านไปได้ด้วยดี การทำความดีของทุกคนจะช่วยเป็นกุศลให้บ้านเมืองมีความสงบสุข

เมื่อวันที่ 24 ก.ย. ตนลงพื้นที่ต่างจังหวัดก็เห็นว่าทุกคนให้ความร่วมมือกับรัฐบาลเป็นอย่างดี โดยปัญหาที่เขาให้ความสนใจมากกว่าคน กทม.ในขณะนี้คือปัญหาเรื่องปากท้อง เรื่องอาชีพและรายได้ ซึ่งรัฐบาลทำเต็มที่เพื่อดูแล นั่นเป็นสิ่งที่อยากฝากให้ทุกคนช่วยดูแลชาติบ้านเมืองต่อไป

เมื่อถามว่าหลายฝ่ายมองว่าการตัั้งกรรมาธิการฯ เป็นการยื้อเวลา พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตอนแรกตนคิดว่าจะเรียบร้อย แต่วันที่สอง ทุกคนก็มีวุฒิภาวะและรักในศักดิ์ศรีของตนเอง บางทีการพูดจาอะไรมันก็ทำให้ทุกอย่างเดินหน้าไปไม่ได้ และที่มองว่าเป็นการชะลอ 1 เดือน ก็เป็นการทำตามกฎหมายไม่ใช่หรือ และเป็นการทำตามกติกาของสภา

มันจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปก็ให้ไปดูข้างหน้า ถ้าทุกคนสามารถผ่อนสั้นผ่อนยาวไปได้บ้าง มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับตนเลย มันก็ไม่ได้ทำให้ตนดีขึ้นหรือเลวลง เป็นเรื่องความคิดเห็นของทุกคน ถ้าทุกคนบอกว่าประชาธิปไตยนี่ก็คือประชาธิปไตย เพราะฉะนั้นต้องรับฟังเหตุผล แล้วจะทำอย่างไรให้เดินหน้าไปด้วยกันได้ด้วยความปรองดอง และการหารือรวมกันต่างๆ เหล่านี้ ตนไม่คาดหวังว่าจะเกิดอะไรขึ้น

เมื่อถามย้ำว่ามีการล็อบบี้จากทางรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามว่า จะไปล็อบบี้อะไร จะไปล็อบบี้กับใคร และจะไปสั่งใคร เพราะส.ว.ก็มีเกียรติของเขา และอย่าลืมว่าใน ส.ว.250 คนก็มี 50 คนที่มาจากการเลือกของประชาชน และอีก 200 คนก็มาจากผู้ที่มีศักยภาพและประสบกาการณ์จากภาครัฐและเอกชน ขอให้ฟังพวกเขาบ้างว่าทำอะไรที่เสียหาย

“หลายคนมองว่าเอื้อประโยชน์ให้กับผม ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเอื้อตรงไหน ผมมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องกลไกแต่ละคนที่ทำงานมา ผมไม่ได้หมายความว่าผมจะอยู่จนถึงโลกแตก เพราะอะไรที่หารือกันได้ ช่องทางไหนที่พูดกันได้ มีการแก้ไขตรงนั้นก็ว่ากันไป

แก้บางฉบับหรือแก้บางมาตราก็แล้วแต่ ก็ให้เกียรติเขา เพราะส.ว.ก็เป็นตัวแทนประชาชน หลายคนมองว่ามาจากผมนั้น ผมบอกเลยว่าไม่รู้จักทั้งหมด เป็นเรื่องการกลั่นกรองขึ้นมา ผมมองประสบการณ์ของเขาก็อนุมัติเท่านั้นเอง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

เมื่อถามว่าใจนายกฯ อยากให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนไม่เคยตอบว่าอยาก ไม่อยาก แต่ตอบว่าไม่ขัดข้องในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะแก้อย่างไรก็ว่ากันมา


 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน