“อนุทิน” แจง เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว ลดการกักตัวเหลือ 7 วัน สำหรับประเทศที่มีการติดเชื้อน้อย ยันต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีประโยชน์

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 28 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. ว่า

กระทรวงสาธารณสุขมีความพร้อมต่อมาตรการเปิดประเทศในระยะต่างๆ ขอให้มั่นใจว่าหากมีเหตุการณ์ติดเชื้อ ทางสาธารณสุขมีความพร้อมทั้งการควบคุมโรคและรักษาพยาบาล เราจึงต้องรีบผ่อนคลายมาตรการให้เป็นปกติเกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด โดยต้องเฝ้าระวังและตั้งกฎเกณฑ์ขึ้นมาในแต่ละระยะ เหมือนช่วงที่เราล็อกดาวน์ก็มีระยะที่ 1 ระยะที่ 2 และระยะที่ 3

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการลดเวลากักตัวจาก 14 วันเป็น 7 วันหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ในแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน ประเทศที่ควบคุมและป้องกันการติดเชื้อได้ดี ไม่มีการแพร่ระบาดในประเทศเป็นระยะเวลาพอสมควร เราไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการเข้มข้นที่สุด

เพราะมันจะเป็นการชะลอการทำมาหากิน การเดินทางสัญจรไปมาเพื่อประกอบธุรกิจ ยืนยันว่าเราดำเนินการทุกอย่างด้วยความระมัดระวัง เพื่อความมั่นใจ ซึ่งในที่ประชุมคงยกตัวอย่างประเทศที่มีความปลอดภัยมาก อาจจะออกมาในรูปแบบของการจับคู่ประเทศท่องเที่ยว หรือทราเวล บับเบิ้ล

ส่วนแนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ หรือ Special tourist Visa (STV) ยืนยันไม่ได้เป็นการสร้างเงื่อนไข แต่จะมีการตั้งกฎเกณฑ์ ส่วนการล็อกดาวน์จะตั้งแนวทางเป็นลำดับ และจะมีการผ่อนคลายไปเรื่อยๆ โดยหลักเกณฑ์แต่ละประเทศจะไม่เหมือนกัน เพราะจะดูตามตัวเลขการติดเชื้อภายในประเทศนั้นๆ จะไม่เข้มงวดทั้งหมด

เช่น อาจปรับลดระยะเวลากักตัวสำหรับประเทศที่ติดเชื้อไวรัสน้อย ขณะที่บางประเทศอาจจะยังต้องคงการกักตัว ซึ่งเป็นข้อเสนอของกระทรวงสาธารณสุข หากที่ประชุม ศบค.เห็นด้วยในหลักการนี้เราก็จะสนับสนุนความพร้อมของกระทรวงสาธารณสุข การแพทย์ การพยาบาล เวชภัณฑ์ต่อไป

ดังนั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของแต่ละประเทศ ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าจะไม่มีภูเก็ตโมเดล แต่จะเป็นไทยแลนด์โมเดล เพราะไม่เช่นนั้นคนภูเก็ตก็จะถูกกล่าวหาเป็นจังหวัดหนูทดลองยา ซึ่งอาจจะหาจังหวัดที่พร้อมนำร่องก่อน

ผู้สื่อข่าวถามว่าที่ประชุมศบค.วันนี้ จะมีการเสนอขยายพ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่ทราบ เพราะการต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต้องนำเสนอเข้าที่ประชุม ครม. เมื่อถามย้ำว่าจำเป็น ต้องต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า มีหลายมิติที่ต้องดู ถามว่าสาธารณสุขไปสั่งตำรวจ สั่้งผู้ว่าฯ หรือทหารเต็มที่ได้หรือไม่ ก็ไม่ได้ บางครั้งการใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินก็มีประโยชน์ในเรื่องของความฉับพลันรวดเร็วและเด็ดขาด หากมีสถานการณ์เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง ขอย้ำว่าพ.ร.ก.ฉุกเฉินเป็นการประกาศใช้เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด โควิด-19 ไม่ได้เป็นการประกาศใช้เพื่อลิดรอนสิทธิส่วนบุคคล หรือสิทธิการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง หรือทางประชาธิปไตย

“จริงๆมันไม่ใช่พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ถ้าจะทำใจให้สบายมันคือพ.ร.ก.พิเศษ ฉบับหนึ่ง ที่จะทำให้เกิดความปลอดภัยกับประเทศไทยและประชาชน นี่คือเจตนารมณ์ของพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ถูกใช้มาในช่วง 4-5 เดือน เพราะไม่มีการจำกัดสิทธิอะไรสักอย่าง”


 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน