เพื่อไทย เคาะประชุม 1 ต.ค. เลือก กรรมการบริหารพรรค ชุดใหม่ พร้อมเปลี่ยนโลโก้พรรค “ชูศักดิ์” บอกมีหัวดีกว่า ปัด “ตระกูลชินวัตร” คุมพรรค แค่วิเคราะห์กันไป
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 28 ก.ย. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคชุดรักษาการ มีนายชูศักดิ์ ศิรินิล รักษาการหัวหน้าพรรค เป็นประธาน มีวาระการเปลี่ยนแปลงสัญลักษณ์ของพรรค และการเตรียมจัดประชุมใหญ่วิสามัญ
นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติให้จัดประชุมใหญ่วิสามัญวันที่ 1 ต.ค. เวลา 10.00 น. ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย เพื่อเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ซึ่งต้องเชิญสมาชิกทั้งหลายมาประชุม ไม่ว่าคณะกรรมการบริหารชุดรักษาการ ตัวแทนเขตพรรคการเมืองประจำจังหวัด หัวหน้าสาขาพรรค ส.ส.พรรคทั้งหมด
และอดีตผู้สมัครของพรรค ไปจนถึงอดีตรัฐมนตรีของพรรคเข้าร่วมประชุม โดยองค์ประชุมไม่น้อยกว่า 250 คน นอกจากนี้ยังมีวาระเพิ่มเติม 1 วาระ คือการแก้ไขข้อบังคับพรรค และแก้ไขโลโก้พรรค จากเดิมที่มีอยู่ เป็นโลโก้ใหม่ให้ตัวอักษร พ และ ท มีหัว และมีชื่อพรรคกำกับอยู่บนโลโก้
เมื่อถามถึงจำนวนกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับที่ประชุมใหญ่ เมื่อได้หัวหน้าพรรคแล้ว ท่านจะเสนอต่อที่ประชุมใหญ่ว่าจะให้มีกรรมการบริหารพรรคกี่คน รองหัวหน้ากี่คน รองเลขากี่คน รวมแล้วเท่าไหร่
เมื่อถามว่าคณะกรรมการยุทธศาสตร์ยังต้องมีอยู่หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า เป็นนโยบายที่คณะกรรมการบริหารชุดใหม่ต้องไปพูดกัน
เมื่อถามว่าโครงสร้างที่ว่าจะปรับเอาคนรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ผสมผสานกัน จะปรับอย่างไร นายชูศักดิ์ กล่าวว่า หลักสำคัญที่ฟังจากหลายส่วนคือ การเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ต้องถือเป็นเรื่องปกติธรรมดาของพรรคการเมือง
โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยที่การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แต่ทุกคนก็ให้ความร่วมมือต่อการเปลี่ยนแปลง ไม่มีใครยึดติด พร้อมเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา อนาคตตั้งแต่นี้ไป พรรคการเมืองทั้งหลายต้องปรับตัวมาก
พรรคเพื่อไทยก็ต้องเปลี่ยนแปลงต่อไปในอนาคต และพยายามดึงองคาพยพทั้งหลายของพรรคมาร่วมมือกัน และคงเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ๆ เข้ามาช่วยงานพรรคด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็สุดแต่ที่ประชุมใหญ่ และผู้บริหารพรรคชุดใหม่
เมื่อถามว่าส.ส.อีสานซึ่งมีสัดส่วนมากในพรรคจะเข้ามามีบทบาทในพรรคมากขึ้นหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า สุดแต่ที่ประชุมใหญ่ คิดว่าเป็นสิ่งที่เขาคิดกันอยู่แล้ว ทั้งเรื่องสัดส่วนและอะไรทั้งหลาย ต้องคิดคำนึงถึงอยู่แล้ว
เมื่อถามว่าการปรับโครงสร้างพรรคครั้งนี้มีกระแสข่าวเรื่องเข้าร่วมเป็นรัฐบาลแห่งชาติ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ตนเป็นเพียงรักษาการหัวหน้าพรรค จะพูดอะไรเต็มปากเต็มคำก็ลำบาก แต่ตนยืนยันว่าไม่น่าเป็นไปได้ และที่การเปลี่ยนแปลงมาเกิดขึ้นในช่วงนี้
เท่าที่ตนรับรู้รับทราบ ความพยายามในการปรับโครงสร้างพรรคมีมานานพอสมควร เพื่อให้ทันสมัย ทันต่อเหตุการณ์ ช่วงนี้เป็นช่วงปิดสมัยประชุมสภา หัวหน้าพรรคจึงตัดสินใจลาออกเพื่อปรับเปลี่ยนโครงสร้างในช่วงนี้ จะได้ไม่กระทบต่อตำแหน่ง และอำนาจหน้าที่ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านที่ทำอยู่ ดังนั้น เรื่องรัฐบาลแห่งชาติ หรือร่วมกับพรรคนั้นพรรคนี้ ไม่น่าเป็นไปได้ ตนเชื่อว่าจะไม่เกิดขึ้น
เมื่อถามถึงกระแสข่าวกรณีคุณหญิงพจมาน ดามาพงษ์ จะเข้ามามีบทบาทบริการพรรค นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ท่านเป็นผู้ใหญ่ของพรรค แต่ตนก็ยังไม่เห็นสัญญาณใดๆ ที่ท่านจะมานำพรรคขณะนี้ แม้ท่านจะมีข้อแนะนำหรือข้อเสนอแนะต่างๆ แต่ที่จะมาบริหาร ยังไกลกว่าเหตุ ยังไม่มีกรณีเหล่านั้น เป็นเรื่องที่คาดเดากันไป
เมื่อถามย้ำว่ามีกระแสข่าวตระกูลชินวัตร จะเข้ามาเพื่อความเป็นเอกภาพ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ธรรมชาติของนักวิเคราะห์ก็มีการรวมอันนั้น รวมอันนี้ รวมสายนั้น สายนี้ ถ้าอ่านมากก็ปวดหัว วิเคราะห์กันไปได้ถึงขั้นนั้น
เราเป็นพรรคการเมืองที่บริหารกันมาช้านาน บุคลากรที่มีความารู้ความสามารถก็มาก ภาพที่ออกไปว่าจะไม่มีเอกภาพ หรือมีความขัดแย้ง เป็นเพียงภาพที่เห็น แต่ไม่ใช่ภาพที่สะท้อนว่าพรรคนี้ไปไม่รอด หรือไปไม่ได้
เมื่อถามว่านัยของการเปลี่ยนโลโก้พรรคช่วงนี้ คืออะไร นายชูศักดิ์ กล่าวว่า “ผมตอบได้ขณะนี้คือให้มันมีหัว เพราะทุกทีมันมีเหลี่ยม ก็ให้มันมีหัว เพราะมีหัวแล้วดีกว่าไม่มีหัว ยิ่งมีหลายหัวด้วยก็ดี” ทำให้สื่อมวลชนและผู้ร่วมประชุมหัวเราะกันทั้งห้อง
เมื่อถามว่าการที่นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ลาออกจากหัวหน้าพรรค จะทำให้พ้นไปจากตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาโดยปริยายหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ตำแหน่งผู้นำฝ่านค้านคือหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่ที่สุดซึ่งไม่ได้ร่วมรัฐบาล เมื่อลาออกก็เท่ากับพ้นไปทันที
วันนี้พรรคจะทำหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เพื่อแจ้งให้ทราบว่านายสมพงษ์ลาออก จากนี้เมื่อมีประชุมใหญ่วิสามัญ และได้หัวหน้าพรรคคนใหม่ พรรคจะทำหนังสือแจ้งไปยังนายชวนอีกครั้ง เพื่อนำรายชื่อหัวหน้าพรรคคนใหม่ ขึ้นทูลเกล้าฯ เป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาต่อไป
