ส.ส.ฝ่ายค้านลุยเยี่ยมหมู่บ้าน“ชาวบน” ใกล้จมอยู่ใต้เขื่อนโปร่งขุนเพชร “ทวี”ซัดรบ.อนุมัติโครงการไม่ฟังเสียงประชาชน สมัชชาคนจนจี้ครม.เร่งแก้

วันที่ 10 ต.ค.63 กลุ่มสมัชชาคนจนจัดเวทีระดมความคิดแก้ไขปัญหาผลกระทบจากเขื่อนโปร่งขุนเพชร ที่อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ โดยเชิญสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลร่วมหารือแก้ปัญหา โดยมีพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.พรรคประชาชาติ ในฐานะที่ปรึกษากรรมาธิการที่ดินฯ, นายอภิชาติ ศิริสุนทร ส.ส.พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานกรรมาธิการที่ดินฯ, นายคำพอง เทพาคำ ส.ส.พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกกรรมาธิการเกษตรและสหกรณ์ฯ มาร่วมหารือ และทางกลุ่มสมัชชาคนจนเชิญนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ (แรมโบ้อีสาน) ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรีมาร่วมหารือด้วย แต่ไม่สามารถมาได้

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

ที่บ้านห้วยทับนายน้อยวันนี้ จึงเต็มไปด้วยสมาชิกจากกลุ่มสมัชชาคนจนและกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาที่มาร่วมกันสะท้อนปัญหาและส่งกำลังใจแก่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ 28 ครัวเรือน ซึ่งได้รับผลกระทบจากโครงการก่อสร้างเขื่อนโปร่งขุนเพชรที่ได้อนุมัติให้ก่อสร้างในยุครัฐบาล คสช. ด้วยงบประมาณกว่า 900 ล้านบาท ท่ามกลางเสียงคัดค้านของประชาชนในพื้นที่ ปัจจุบันก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จ สามารถกักเก็บน้ำได้แล้ว ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในช่วงนี้ทำให้มีปริมาณน้ำเหนือเขื่อนเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียง บ้านเรือน 28 หลัง รวมทั้งเส้นทางเข้าหมู่บ้าน และพื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมเสียหาย

พ.ต.อ.ทวี นำ ส.ส.ฝ่ายค้าน ลงพื้นที่เดินเยี่ยมชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ โดยได้เยี่ยมบ้านของนางแอ๊ด ด้วงปัญญา ทราบว่า ชาวบ้านที่หมู่บ้านแห่งนี้เป็น “ชาวบน” ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่อาศัยหากินอยู่กับป่า บรรพบุรุษตั้งเดิมมีภาษาของตนเอง อาศัยหากินอยู่ในป่าโดยไม่ปักหลักถิ่นฐาน แต่ในรุ่นหลังได้เริ่มสร้างกระท่อมปักหลักอาศัยอยู่บนเขา จึงทำให้ไม่มีเอกสารสิทธิ์ครอบครองที่ดิน หากินโดยปลูกพืชไร่ เช่นข้าวโพดและมันสำปะหลังบนพื้นที่ภูเขา แต่ภายหลังสร้างเขื่อนทำให้น้ำท่วมบ้านและพื้นที่เพาะปลูกเสียหาย

พ.ต.อ.ทวี พูดคุยกับชาวบ้านว่า “ในฐานะฝ่ายค้านเพื่อประชาชน เราต้องทำให้หมู่บ้านอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขและสันติภาพให้ได้ ซึ่งสันติภาพจะต้องประกอบด้วยสามองค์ประกอบ คือหนึ่ง ประชาชนต้องอยู่ดีมีสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดี ประชาชนต้องมีปัจจัยสี่ที่สมบูรณ์ ต้องมีสิทธิเสรีภาพความเสมอภาค มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และได้รับความยุติธรรม การปกครองของทุกประเทศทั่วโลกไม่ว่าจะระบอบใดต้องมีองค์ประกอบนี้ วันนี้เราเห็นว่าพี่น้องประชาชนที่นี่ยังไม่มีคุณภาพชีวิตที่ดี เพราะมีแผ่นดินเกิดแต่ไม่มีแผ่นดินตาย”

“องค์ประกอบที่สองคือ กฎหมายรัฐธรรมนูญต้องเป็นกฎหมายที่ดีที่ประชาชนรักและหวงแหน ต้องยอมรับว่าการลงทุนสร้างเขื่อนต้องใช้เงิน แต่การลงทุนสร้างกฎหมายที่ดีไม่ต้องใช้เงิน ซึ่งตามกฎหมายแล้วอาชญากรคือผู้ที่กระทำผิดกฏหมาย แต่อาชญากรที่น่ากลัวที่สุดคือผู้บงการให้ร่างกฎหมาย และเนื้อหากฏหมาย ถ้ากฎหมายเขียนขึ้นเพื่อให้คนกลุ่มหนึ่งมีความสุขแต่คนจำนวนมากมีความทุกข์ นี่คือกฏหมายที่ไม่มีความยุติธรรม ในรัฐธรรมนูญฉบับปี 60 บอกว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งไม่เคยเขียนในรัฐธรรมนูญฉบับใดมาก่อนที่จะระบุว่าบังคับใช้กฏหมายอย่างเป็นธรรมหรือยุติธรรม หากเจ้าหน้าที่ไปบังคับใช้กฎหมายจริง เช่น ประเทศไทยมีที่ดินทั้งหมดประมาณ 320 ล้านไร่ มีการทำระบบรวบรวมแผนที่ ปรากฏว่าพบข้อมูลว่ามีที่ดินของรัฐรวมกันประมาณ 480 ล้านไร่เศษ ซึ่งมากกว่าพื้นที่ของประเทศทั้งหมด บางแห่งทั้งอำเภอเป็นที่ดินของรัฐทั้งหมด ที่ดินของรัฐคือเขตอุทยานหรือเขตป่า หากเจ้าหน้าที่ของรัฐบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดจริงแล้ว นั่นหมายถึงประชาชนทั้งหมดจะถูกจับกุม เพราะบุกรุกที่ดินของรัฐ! เราจะต้องไม่มองความมั่นคงของรัฐสำคัญกว่าความมั่นคงของมนุษย์ ดังนั้นเราจะเห็นว่าหากประชาชนพิพาทกับรัฐแล้ว ข้าราชการจะช่วยเหลือประชาชนลำบาก เพราะรัฐธรรมนูญเป็นกฏหมายสูงสุด”

“ในรัฐธรรมนูญฉบับก่อน รัฐจะต้องจัดสรรที่ดินให้เกษตรกรมีที่ดินทำกินและมีสิทธิในที่ดิน แต่รัฐธรรมนูญฉบับนี้ต้องเป็นผู้ยากไร้ก่อน นั่นหมายถึงรัฐให้ประชาชนว่าต้องไปพิสูจน์ว่าเป็นผู้ยากไร้ก่อน เป็นการลดค่าลดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ แล้วเจ้าหน้าที่ของรัฐจะเป็นผู้ชี้ว่าคุณอยู่บนที่ดินนี้ได้หรือไม่ได้!”

“เห็นว่าสิทธิของคนเกิดมาต้องมีถิ่นที่อยู่อาศัย ต้องมีปัจจัยสี่เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่รัฐต้องส่งเสริม และการพัฒนาจะต้องเป็นสิทธิ์ของคนในชุมชนว่าจะพัฒนาอย่างไร ไม่ใช่ให้คนส่วนกลางมาคิด และประโยชน์จากการพัฒนานั้นจะต้องเป็นของประชาชนในพื้นที่”

“ทฤษฎีการมองที่ดินของรัฐธรรมนูญปัจจุบันแย่มาก หากเป็นรัฐธรรมนูญฉบับก่อน เช่นรัฐธรรมนูญปี 2517 หรือฉบับต่อมาปัญหาเรื่องที่ดินมีเขียนไว้ว่า รัฐต้องจัดสรรที่ดินให้เกษตรกร หรือคนในชนบทมีที่ดินทำกิน และให้มีกรรมสิทธิ์ คือต้องไม่พรากคนในพื้นที่ออกจากพื้นที่”

“องค์ประกอบที่สามคือผู้นำเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องทำเพื่อประชาชนที่พลเมือของชาติ ต้องเป็นผู้มีความแข็งแกร่งทั้งร่างกายและจิตใจ ไม่ให้อยู่ในสภาพคนชั่วที่แข็งแกร่งใช้คนซื่อสัตย์ที่อ่อนแอ ซึ่งตามระบอบประชาธิปไตยนั้นผู้นำต้องมาจากการเลือกตั้งของประชาชนที่เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย ซึ่งผู้นำสูงสุดในประเทศคือนายกรัฐมนตรี แต่วันนี้ประชาชนเลือก ส.ส.แต่การเลือกนายกรัฐมนตรี รัฐธรรมนูญให้ ส.ว.ที่มาจากการแต่งตั้งของ คสช รวมเลือกด้วย เสียงของ ส.ส.จึงไม่เพียงพอ ถ้าผู้นำไม่ได้มาจากประชาชนก็จะมองความมั่นคงของรัฐและตัวเองสำคัญกว่าความมั่นคงของประชาชน”

พ.ต.อ.ทวี กล่าวเน้นย้ำว่า “การพัฒนาต้องควรต้องสิทธิของทุกคนมีส่วนรวมทุกขั้นตอนและคนทุกกลุ่มจะต้องได้รับประโยชน์ไม่ใช่บางส่วนได้ประโยชน์แต่พรากคนในพื้นที่ให้อพยพโดยไม่มีที่อยู่ การเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเขื่อนทำให้น้ำท่วมเป็นอำนาจของฝ่ายบริหาร หรือกฏหมายฝ่ายบริหาร คือ มติ ครม.ในการชดเชยความเสียหายที่ทำให้ชาวบ้าน 28 ครัวน้ำท่วมเพื่อโครงการพัฒนาของรัฐ ซึ่งทำให้ชาวบ้านต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด ทำไมจึงยากแสนยากที่กรณีกลุ่มคนรวยจะมีมติ ครม ช่วยเหลืออย่างง่ายๆ ไม่ต้องพิสูจน์ความลำบากด้วยการด้อยค่าของมนุษย์ ต้องให้หาหลักฐานแสดงบอกว่ามาอยู่ก่อนทั้งที่วิถีชีวิตและประเพณีคนดงจะอยู่กับป่าหลักฐานที่รัฐต้องการจะไม่มีความรู้หรือหามาแสดงได้อยาก ความจริงรัฐมีข้อมูลอยู่แล้ว มีข้อมูลท้องถิ่น หรือประวัติศาสตร์ท้องถิ่น จึงขอฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวบรวมข้อมูลและฟังเสียงประชาชน ส่งให้ ครม.อย่างรอบด้านเพื่อได้ทราบและใช้ตัดสินใจด้วย”

“วันนี้ พรรคฝ่ายค้านเพื่อประชาชนได้มาตรวจสอบปัญหาความเดือดร้อนผละกระทบที่เกิดจากการสร้างเขื่อน รับฟังข้อมูล เพื่อนำไปพิจารณาช่วยเหลือ หรือแจ้งให้รัฐบาลต้องแก้ไขปัญหาต่อไป และหากยังไม่ดำเนินการจะใช้ช่องทางสภาผู้แทนราษฎรเพื่อขับเคลื่อนการแก้ปัญหาตามแนวทางประชาธิปไตยแล้วสิทธิสิริภาพไม่ได้อยู่แค่ในรัฐสภา แต่ประชาชนทุกคนมีสิทธิเสรีภาพทุกที่ เราจะต้องรวมตัวกัน เพื่อทวงอำนาจและความเป็นธรรมแก่ประชาชน”

ภายหลังตัวแทน ส.ส.ได้หารือเสร็จแล้ว ชาวบ้านบ้านห้วยทับนายน้อยและสมัชชาคนจน ได้อ่านแถลงการณ์ส่งเสียงต่อรัฐบาลว่า สมัชชาคนจนขอเรียกร้องให้รัฐบาลแสดงความรับผิดชอบ และความจริงใจในการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อเป็นการแสดงความจริงใจ ต้องมีมติ ครม.ยกเลิกโครงการก่อสร้างเขื่อนท่าแซะ จังหวัดชุมพร โครงการก่อสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นจังหวัดแพร่ หรือเขื่อนยมบน-ยมล่าง และให้ดำเนินการเร่งรัดการแก้ไขปัญหากรณีเขื่อนโป่งขุนเพชร จังหวัดชัยภูมิ ให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2563 หากรัฐบาลยังคงเพิกเฉยต่อการแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจนอย่างที่เคยกระทำในระยะที่ผ่านมา สมัชชาคนจนก็พร้อมแล้วที่จะเดินทางไปปักหลักชุมนุมยืดเยื้อที่กรุงเทพมหานคร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน