7 พรรคเล็กประกาศจุดยืนเทิดทูนสถาบัน ลั่นขอร่วมรัฐบาลต่อ-ไม่ทิ้ง‘ประยุทธ์’ แต่จี้รบ.ทบทวนใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินยังจำเป็นหรือไม่
เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ที่รัฐสภา 7 พรรคเล็ก ประกอบด้วย พรรคประชาธิปไตยใหม่ พรรคพลังธรรมใหม่ พรรคครูไทยเพื่อประชาชน พรรคพลังชาติไทย พรรคพลังไทยรักไทย พรรคประชาภิวัฒน์ และพรรคพลเมืองไทย จะแถลงภายหลังการประชุมถึงจุดยืนต่อสถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้
นายสัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์ หัวหน้าพรรคพลเมืองไทย กล่าวว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกเราพร้อมปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ เทิดทูนสถาบันชาติและศาสนา
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
ด้านนพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวว่า สถานการณ์ความขัดแย้งในประเทศลุกลามจากไล่นายกรัฐมนตรี แก้ไขรัฐธรรมนูญ ตอนนี้กลายมาเป็นเปิดหน้าจาบจ้วงสถาบัน ภายใต้ข้ออ้างว่าต้องปฎิรูปสถาบัน พรรคพลังธรรมใหม่มีจุดยืนปกป้องสถาบัน ซึ่งเป็นสถาบันหลักของชาติ จึงขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องดำเนินการจัดการชุมนุมโดยสันติวิธี ไม่ใช้ความรุนแรง
“รัฐบาลต้องพิจารณาทบทวนว่าพ.ร.ก.ฉุกเฉินร้ายแรงฯ ยังจำเป็นอยู่หรือไม่ วันนั้นอาจจะมีความจำเป็น เพราะมีการจาบจ้วงสถาบันอย่างไม่เคยมีมาก่อน แต่พอมาถึงวันนี้แล้วรัฐบาลต้องทบทวน และต้องอำนวยความสะดวกให้กับม็อบ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า รถสุขา ระบบไฟฟ้าในสถานที่ชุมนุม เพื่อป้องกันมือที่สามที่จะมาลอบทำร้ายผู้ชุมนุม เพราะจะมีการป้ายสีว่ารัฐบาลเป็นคนทำ รัฐบาลควรจะใช้หลักรัฐศาสตร์แทนหลักนิติศาสตร์ต่อผู้ชุมนุมที่ล้วนแต่เป็นลูกหลานของเราที่จะเป็นผู้สร้างอนาคตของชาติต่อไป เชื่อว่าอีกไม่นานเขาเหล่านี้จะสรุปบทเรียนได้ว่าความจริงคืออะไรและสถาบันพระมหากษัตริย์มีคุณูปการต่อชาติไทยอย่างไร” นพ.ระวีกล่าว
ขณะที่พล.ต.ทรงกลด ทิพยรัตน์ หัวหน้าพรรคพลังชาติไทย กล่าวว่า สถานการณ์ในขณะนี้ เมื่อ 7 พรรคเล็กยังร่วมรัฐบาลอยู่ ก็จะช่วยเสนอแนะแนวทางในการแก้ไขปัญหา และจะขออยู่ร่วมกับรัฐบาล ไม่มีการถอนตัว
