จากกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมมารวมตัวกันที่บริเวณแยกราชประสงค์ ภายหลังครบกำหนดเส้นตายให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีลาออก แต่ไม่มีการลาออก นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ “ไผ่ ดาวดิน” แกนนำคณะราษฎร ได้ประกาศนัดรวมตัวชุมนุมที่แยกราชประสงค์ ในเวลา 16.00 น. และได้มีการผลัดเปลี่ยนปราศรัย ก่อนจะยุติการชุมนุมในเวลา 21.20 น.
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 25 ต.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.นิวัฒน์ แสนสิ่ง ผกก.สน.ลุมพินี ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวน สน.ลุมพินี รวบรวมพยานหลักฐานเกี่ยวกับการชุมนุมบริเวณแยกราชประสงค์ ภายหลังจากช่วงเวลาประมาณ 19.45 น.ได้มีรถกระบะโตโยต้ารีโว่ สีขาว ทะเบียนป้ายแดง จ-2010 กรุงเทพมหานคร จะขับขี่เข้ามาบริเวณแยกราชประสงค์ โดยใช้เส้นทางจากแยกชิดลม มุ่งหน้าแยกประสงค์
จากการตรวจสอบเจ้าพนักงานจราจรได้พบว่า รถคันดังกล่าวเป็นรถป้ายแดง มีการดัดแปลงสภาพรถโดยการต่อเติม ติดตั้งเครื่องขยายเสียง เจ้าพนักงานจราจร จึงเรียกเพื่อขอให้หยุดรถเพื่อตรวจสอบ แต่ไม่ได้รับความร่วมมือจากผู้เกี่ยวข้องแต่อย่างใด
จากนั้นเวลาประมาณ 20.15 น. กลุ่มผู้ชุมนุมเป็นกลุ่มเด็กช่างกลหลากหลายสถาบันประมาณ 200 คน เข้าปิดล้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจและรถคันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ต้องการเข้าปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณดังกล่าวจึงเฝ้าสังเกตการณ์ไว้ จากนั้นกลุ่มเด็กช่างกลที่ได้ปิดล้อมรถได้เคลื่อนขบวนไปโดยไม่หยุดรถตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจร้องขอ ก่อนเคลื่อนย้ายรถไปยังกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณแยกราชประสงค์
ด้าน พ.ต.อ.นิวัฒน์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี อยู่ระหว่างตรวจสอบว่ามีใครที่เกี่ยวข้องมีการกระทำความผิดอย่างใด และมีความผิดในข้อหาใดบ้าง แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นกรณีที่มีการขับขี่รถกระบะป้ายแดง ซึ่งห้ามวิ่งหลังพระอาทิตย์ตกตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก อาจจะมีการเรียกผู้ขับขี่รถคันดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ส่วนกรณีของเด็กช่างกลที่ปิดล้อมรถนั้น ผกก.สน.ลุมพินี กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเป็นเพียงการปิดล้อมรถไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้รถคันดังกล่าวเคลื่อนไปยังบริเวณที่มีการชุมนุม หากพบว่ามีการกระทำความเพิ่มเติมก็จะมีการออกหมายเรียกให้เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี สอบสวนการกระทำความผิดต่างๆ เพิ่มเติมต่อไป
