ขบวนเสด็จ – เมื่อเวลา 14.05 น. วันที่ 26 ต.ค.2563 ที่รัฐสภา น.ส.สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา ส.ส.นครปฐม พรรคก้าวไกล อภิปรายถึงการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงซึ่งเป็นเหตุมาจากกลุ่มผู้ชุมนุมมีการกระทำที่กระทบต่อขบวนเสด็จพระราชดำเนิน ที่สะพานชมัยมรุเชษฐ เมื่อวันที่ 14 ต.ค. ที่ผ่านมาว่า กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ได้มีเจตนาขัดขวางขบวนเสด็จพระราชดำเนิน และยังต้องการเลี่ยงเส้นทางเสด็จ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดจากความผิดพลาดในการจัดเส้นทางขบวนเสด็นจนยากต่อการถวายการอารักขา และความผิดพลาดนี้ต้องมีผู้รับผิดชอบ ประชาชนและนักศึกษาไม่ทราบล่วงหน้าว่ามีขบวนเสด็จ ผู้ชุมนุมที่อยู่ในขบวนใหญ่ไม่ได้ผ่าแนวกัน
แต่มีบางส่วนเกาะกลุ่มรอที่สะพานชมัยมรุเชษฐ ตรงทำเนียบรัฐบาล รวมทั้งพล.ต.อ.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.1 และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยืนอยู่ตรงนั้นด้วย แต่ไม่ได้แจ้งให้แก่ผู้ชุมนุมทราบว่าขบวนเสด็จจะเสด็จผ่าน ไม่มีใครทราบ และไม่มีการเคลียร์เส้นทางล่วงหน้า
น.ส.สุทธวรรณ กล่าวอีกว่า ต่อมาตำรวจตั้งแถวแต่ก็ไม่ได้บอกว่าทำอะไร คำถามคือทำไมตำรวจไม่แจ้ง เพื่อเคลียร์เส้นทาง ทั้งนี้ อยากถามว่าการจัดเส้นทางมีเส้นทางสำรองหรือไม่ ถ้ามี ทำไมถึงใช้เส้นถนนพิษณุโลก เรื่องนี้รัฐบาลไม่ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และปล่อยให้มีการโยนความผิดให้แก่ผู้ชุมนุม
ผลคือการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง จนเป็นเหตุให้มีการใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุม ดังนั้น พรรคก้าวไกลจึงขอยื่นญัตติด่วนขอให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในข้อบกพร่องการกำหนดเส้นทางเสด็จ และการถวายความปลอดภัยของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2563
“ขอวิงวอนว่าอย่านำเหตุการณ์ขบวนเสด็จเมื่อวันที่ 14 ตุลา มาให้ร้ายประชาชน และอยากให้รัฐบาลรับผิดชอบ เลิกบิดเบือนข้อเท็จจริง รัฐบาลต้องทำหน้าที่ธำรงค์ให้สถาบันพระมหากษัตริย์ทรงอยู่เหนือความขัดแย้งทางการเมือง เป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนทุกฝ่าย ขอยืนยันว่าพวกเราต้องหาทางออกร่วมกันเพื่อหาทางออกให้สถาบันพระมหากษัตริย์ธำรงค์อยู่อย่างสง่างามภายใต้รัฐธรรมนูญ” น.ส.สุทธวรรณ กล่าว
