ครอบครัว วันเฉลิม ออกแถลงการณ์รายงานความคืบหน้าของคดี หลังหายตัวครบ 5 เดือน พี่สาวเผยเตรียมขึ้นศาลกัมพูชา เชื่อมั่นจะได้หลักฐานชิ้นสำคัญ

เมื่อวันที่ 4 พ.ย. จากกรณีนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ หรือต้าร์ ผู้ลี้ภัยทางการเมืองชาวไทยในประเทศกัมพูชา ถูกอุ้มหายไปกลางกรุงพนมเปญ ตั้งแต่วันที่ 4 มิ.ย. 2563 รวมเป็นระยะเวลา 5 เดือน โดย น.ส.สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาวของวันเฉลิม ได้ออกแถลงการณ์ในนามของครอบครัว ดังนี้

ในนามของสมาชิกครอบครัวของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ถูกทำให้สาบสูญในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหน้าบ้านพักของตนเองกลางกรุงพนมเปญ กัมพูชา เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2553 เวลาประมาณ 17.00 น. เราขอรายงานความคืบหน้าของคดีและข้อมูลดังกล่าวต่อสาธารณะชนดังนี้:

1. จนถึงวันที่ 4 พฤศจิกายน คือวันนี้ เป็นเวลา 5 เดือนเต็มแล้ว สมาชิกครอบครัวของเรารวมไปถึงเพื่อนของนายวันเฉลิมทุกๆ คน ไม่ได้รับการติดต่อใดๆ ทั้งสิ้นจากตัวเขา เหตุการณ์ดังกล่าวนี้เป็นการยืนยันว่าเขาได้หายสาบสูญไปโดยเราไม่ทราบชะตากรรมแต่อย่างใด นอกจากนี้ เรายังไม่ได้รับการติดต่อใดๆ จากคนร้ายที่ลักพาตัวเขาไป ซึ่งทำให้เราสามารถตัดประเด็นว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการอุ้มเพื่อเรียกค่าไถ่

2. การดำเนินการต่างๆ ในประเทศไทยที่เกี่ยวข้องกับคดีได้รับความชะงักงัน ทั้งเนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในประเทศกัมพูชาซึ่งสร้างข้อจำกัดในการสืบสวนสอบสวน รวมไปถึงเหตุการณ์การระบาดของโรคโควิต -19 ซึ่งทำให้การติดต่อเดินทางระหว่างประเทศเป็นไปด้วยความยากลำบาก

3. ทางครอบครัวได้ยื่นเรื่องเพื่อฟ้องศาล เพื่อให้มีการสืบสวนสอบสวนผ่านทางระบบตุลาการในประเทศกัมพูชานับตั้งแต่เดือนสิงหาคมแล้ว โดยทางอัยการกัมพูชาได้อนุเคราะห์รับคดีดังกล่าวเพื่อดำเนินการสอบสวนตามกระบวนการ โดยดิฉันจำเป็นจะต้องไปให้ปากคำต่อหน้าศาลในเร็ววันนี้และเชื่อมั่นว่าจะได้รับความคืบหน้า

4. องค์กรระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นรัฐสภายุโรป องค์กรสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งองค์การสหประชาชาติ หรือ OHCHR ได้ดำเนินการต่างๆ เท่าที่จำเป็นในการสืบหาข้อมูลพยานและออกแถลงการณ์เพื่อให้รัฐบาลไทยและกัมพูชาไม่นิ่งเฉยต่อการดำเนินการ

5. สื่อมวลชนทั้งในประเทศและต่างประเทศได้ดำเนินการทำสารคดีเชิงสืบสวนเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจังไม่ว่าจะเป็น The Reporters ของไทย BBC ของอังกฤษ และ Aljazeera English ฯลฯ ซึ่งทำให้เรื่องดังกล่าวได้รับการตีแผ่และได้รับความสนใจจากประชาชนทั่วไป

นอกจากนี้ เรายังได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจากพยานบางส่วนที่ออกมาให้ข้อมูลเนื่องจากมีความเห็นใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าว โดยเราจำเป็นต้องปกปิดข้อมูลดังกล่าวเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อแหล่งข่าวรวมไปถึงรูปคดี เรายังได้รับหลักฐานเพิ่มเติมในระหว่างนี้และเราเชื่อว่าการเดินทางไปกัมพูชาในเร็ววันนี้ เราจะสามารถได้หลักฐานชิ้นสำคัญๆ เพื่อเป็นเบาะแสว่าเหตุการณ์ร้ายแรงดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างไร

ทีมงานทนายได้ตั้งข้อสันนิษฐานและสรุปแล้วว่า เหตุการณ์การสาบสูญไปของนายวันเฉลิมเกิดขึ้นโดยมีลักษณะเป็นอาชญากรรมต่อเนื่องโดยมีลักษณะคล้ายคลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้กับผู้ลี้ภัยทางการเมืองจำนวน 8 ราย ที่หายสาบสูญและพบศพแล้วในประเทศลาวและเวียดนาม อนึ่ง เหยื่อผู้สูญหายและเสียชีวิตดังกล่าวนั้นล้วนแล้วแต่เป็นนักกิจกรรมทางการเมืองเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยในไทย

การอุ้มหายนายวันเฉลิมยังเป็นหนึ่งในเหตุผลทางการเมืองที่ทำให้ประชาชนจำนวนมากได้ลุกฮือออกมาประท้วงรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันโอชา และเรียกร้องให้มีการปฏิรูปประเทศในฐานะครอบครัวของเหยื่อผู้สูญหาย เราขอแสดงความขอบคุณอย่างสูงสุดต่อเพื่อนร่วมอุดมการณ์ของนายวันเฉลิม และเราขอส่งกำลังใจให้พวกท่านให้ประสบความสำเร็จในการเรียกร้องประชาธิปไตย เพื่อให้ประเทศมีเสรีภาพ ความเสมอภาค และภราดรภาพในหมู่พลเมืองโลก

อนึ่ง ดิฉันได้เปิดบัญชีธนาคารเพื่อรับบริจาคเพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการสืบสวนและดำเนินคดีดังกล่าว เนื่องจากเป็นการเดินทางไปกัมพูชานานนับเดือนและค่าใช้จ่ายด้านกฎหมายสูงมาก โดยท่านสามารถช่วยเหลือได้ผ่านทางบัญชีธนาคาร ดังนี โอนเงินทางธนาคาร Bangkok Bank ชื่อบัญชี Ms. Sitanun SATSAKSIT เลขที่บัญชี 024-7-12830-9 สาขา PTT Raminthra-No.340 Raminthra rd., Bangkok 10230 Thailand. Swift code BKKBTHBK หรือผ่านทาง PayPal [email protected]

พวกเราขอเป็นกำลังใจและเป็นแนวร่วมให้กับทุกผู้ทุกนามที่ร่วมกันเรียกร้องสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาค ความยุติธรรมตามเจตจำนงค์ของนายวันเฉลิมที่ฝากไว้บนเพจของตนเองว่า

“ผมลี้ภัยจากประเทศไทยเพราะผมสนับสนุนประชาธิปไตย” “I am exiled from Thailand because I support democracy.”

ขอแสดงความเคารพอย่างสูงสุด

น.ส.สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์

4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน