“หญิงหน่อย” เสนอ 3 ขั้นบันได สู่ทางออกวิกฤตการเมือง ย้ำ ต้องมีเวทีปลอดภัย-เร่งแก้ รธน. วอนทุกฝ่ายใช้สติ ชี้ บ้านเมืองเปราะบางเกินกว่าจะจบด้วยรัฐประหาร

วันนี้ (13 พ.ย.) ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ สมาชิก พท. และผู้ก่อตั้งสถาบันสร้างไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ยอมรับว่าวิกฤตชาติครั้งนี้ เป็นเรื่องที่น่าหนักใจมาก จึงขอเสนอทางออกประเทศ ด้วยบันได 3 ขั้น

ขั้นแรก ต้องสร้างเวทีที่ปลอดภัยให้ผู้ที่เห็นต่าง และ นายกฯ ได้พูดคุยกัน ซึ่งนายกฯจะทำตัวเป็นกรรมการกลางไม่ได้ เพราะนายกฯ คือคู่ขัดแย้ง พร้อมกันนี้ เสนอให้ตั้งคณะกรรมการแสวงหาทางออกของประเทศ โดยมีกฎหมายรองรับ ที่จะต้องสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจให้ผู้เห็นต่างยอมเข้ามา

ต้องนำผลสรุปของการพูดคุยไปเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา อะไรที่เห็นพ้องกัน หน่วยงานต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หากไม่ทำ ถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 157 เชื่อว่าใช้เวลาไม่เกิน 3-5 เดือน ให้มีผู้เห็นต่างที่เข้ามาหลากหลาย รวมถึงนักวิชาการต้องเป็นกลางอย่างแท้จริง

ขั้นที่สอง เร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญให้พิจารณาทั้ง 7 ร่างใน 3 วาระ ให้เสร็จภายในต้นเดือนธ.ค. ซึ่งนับแล้วทำได้ และจัดให้มีกระบวนการเลือกตั้ง ส.ส.ร. โดยให้ ส.ส.ร.ทำงาน 8 เดือน

ส่วนบันไดขั้นที่สาม เมื่อร่างรัฐธรรมนูญผ่านวาระ 3 ต้นเดือน ธ.ค. โดยเฉพาะประเด็นตัดสิทธิ์ส.ว. 250 คน ไม่ให้โหวตนายกฯแล้ว นายกฯในฐานะคู่ขัดแย้ง น่าจะพิจารณาลาออก แต่คิดว่าคงบังคับไม่ได้ ให้สภาคัดสรรกันใหม่ตามระบบ

และรัฐบาลชุดนี้ เป็นรัฐบาลชั่วคราวที่มีภารกิจเฉพาะ อาจมีเวลาแค่ 8 เดือนในการสนับสนุนให้เกิดการร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน เมื่อร่างจบก็คืนอำนาจให้กับประชาชนเลือกตั้ง ไม่เกินสิ้นปี 2564 ถ้าเป็นไปตามนี้ เชื่อว่าจะผ่านวิกฤตได้ ซึ่งเป็นรัฐบาลจากสภาแบบเฉพาะกิจ ย้ำว่าไม่ใช่รัฐบาลแห่งชาติ ซึ่งเป็นความคิดเห็นส่วนตัว ไม่ใช่ความเห็นของพรรค เพราะตนไม่ได้เป็นผู้บริหารพท.

“การชุมนุมหลายเดือนที่ผ่านมา ผู้มีอำนาจ หรือนายกฯ ไม่รับฟังหรือฟัง แต่ไม่ได้นำมาแก้ไข ซึ่งไม่เป็นผลดี หากเกิดการใช้กำลังหรือเกิดการรัฐประหาร ประเทศไทยจะเข้าสู่วิกฤต จะล่มสลายทางด้านเศรษฐกิจและสังคม พูดไป จับไป มันไม่มีความไว้วางใจ

และความจริงใจที่จะกลับเข้ามาในเวทีที่จะพูดคุยกัน ดีกว่าการไปใช้กำลัง สถานการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคมไทยเปราะบางเกินกว่าจะไปรองรับรัฐประหาร หรือการใช้กำลังอีกครั้ง ขอทุกฝ่ายใช้สติ ลดทิฐิ หาทางออกที่เป็นธรรมร่วมกัน” คุณหญิง สุดารัตน์ กล่าว

ส่วนจะให้นายกฯลาออก แล้วเลือกจากแคนดิเดตที่มีหรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ก็มี 3 ขั้นตอน ตามที่ตนเสนอ และเมื่อผ่านวาระ 3 แล้ว ถ้านายกฯจะเสียสละลาออก ก็ให้ลาออกตอนนั้น เพราะหัวใจสำคัญคืออำนาจ ส.ว.ที่ทั้งประเทศและโลกไม่ยอมรับ

ทั้งนี้ ยอมรับว่ายังมีชื่อของตนอยู่ในแคนดิเดตนายกฯ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องไปยกตัวเองหรืออย่างไร แต่พูดในระบบ สิ่งที่คิดว่าทุกฝ่ายจะพอยอมรับได้ เช่น ให้พักการดำเนินคดีกับผู้เห็นต่าง เปิดให้เข้ามาสู่เวทีพูดคุยที่ปลอดภัย ทั้งนี้ เรามีคณะกรรมการลักษณะแบบนี้หลายชุด แต่ไม่เคยมีกฎหมายรองรับ มีก็เหมือนอยู่บนหิ้ง


 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน