ด่วน! จนท.ยกระดับคุมพื้นที่ รอบรัฐสภา หลังจาก “เสื้อเหลือง” เดินผ่านด่านฉลุย เข้ายื่นหนังสือ ด้าน “ไทยภักดี” ก็มาด้วย ยื่นหนังสือถึงวุฒิสภา คว่ำหมดทั้ง 3 ร่าง

เมื่อเวลา 09.40 น. วันที่ 17 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศโดยรอบหน้ารัฐสภา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ได้ยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยเต็มพื้นที่ 100% บริเวณแยกเกียกกาย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดเส้นทางการจราจร และการสัญจรทางเท้าไม่ให้ประชาชนเข้าในพื้นที่แล้ว โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนผลัดละ 9 กองร้อย พร้อมอุปกรณ์ควบคุมฝูงชน มาเตรียมเมื่อมีเหตุฉุกเฉิน

ทั้งนี้เนื่องจากมีการนัดหมายของมวลชน 2 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มไทยภักดี ที่จะมาทำกิจกรรมคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญในช่วงเช้า ตั้งแต่เวลา 09.00 -12.00 น. เพื่อรอยื่นหนังสือ แล้วแยกย้าย และ 2 กลุ่มราษฎร ที่นัดหมายชุมนุมตั้งแต่เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป และคาดว่าจะปักหลักค้างคืนจนกว่ารัฐสภาจะมีมติรับหลักการร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนของไอลอว์

ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 9.10 น. วันที่ 17 พ.ย. ที่แยกเกียกกาย นพ.วรงค์ เดชวิกรม แกนนำกลุ่มไทยภักดี กล่าวถึงเจตนาการมายื่นหนังสือที่รัฐสภาวันนี้ว่า ยื่นหนังสือวันนี้ให้ประธานวุฒิสภาและมาให้ความรู้ความเข้าใจอก่ประชาชนถึงประโยชน์ของรัฐธรรมนูญปี60

และร่วมแสดงออกคัดค้านร่างทั้ง 3 ร่างที่จะนำมาสู่การตั้งส.ส.ร. และจะนำไปสู่วิกฤตการณ์ทางการเมือง โดยเฉพาะร่างของไอลอว์ ที่ต้องต่อต้านให้ถึงที่สุด เพราะเป็นร่างที่เลวร้ายที่สุดและเพื่อกันไม่ให้ต่างชาติเข้ามาครอบงำประเทศ การแก้รัฐธรรมนูญทั้งหมดก็เพื่อประโยชน์ของพรรคการเมืองเท่านั้น การตั้งส.ส.ร.เป็นข้ออ้างในการโกงกิน

คนที่เข้ามาส.ส.ก็จะมาเป็นหน้าเดิม เป็นนายทุนในพื้นที่ แต่เมื่อมีรัฐธรรมนูญ60 ก็เกิดนักการเมืองหน้าใหม่เข้ามามากมายอย่างที่เห็นอยู่ทุกวันนี้ นี่คือสิ่งที่รัฐธรรมนูญ60 ทำได้ และยืนยันว่าเป็นประโยชน์ต่อประชาชนตลอดมา ตนทำนายไว้เลยว่าร่างฉบับใหม่จะไม่มีการปฏิรูปนักการเมือง

ซ้ำทำให้สว.เป็นขี้ข้านักการเมือง และเผด็จการรัฐสภา แต่รัฐธรรมนูญ60 นักการเมืองจะเป็นอิสระ ยืนยันว่า60 เป็นฉบับปราบโกง จากที่เราได้เห็นแล้วว่ามีนักการเมืองโกงก็จะถูกตัดสิทธิ์จากการเป็น ส.ส.ทันที นั่นจึงเป็นเหตุผลที่รัฐธรรมนูญ 60 นักการเมืองจะไม่ชอบ ดังนั้น เราต้องร่วมกันต่อต้านการแก้รัฐธรรมนูญ 60 และปกป้องประโยชน์ของประชาชน

เมื่อถามว่าเหตุใดถึงยื่นหนังสือถึงประธานวุฒิสภา นพ.วรงค์ กล่าวว่า วันนี้สภาผู้แทนราษฎรเป็นนักการเมืองที่มีผลประโยชน์ทั้งสิ้น ตนมองว่ามีเพียงส.ว. 84 คนเท่านั้นที่จะยับยั้งได้ เพราะนักการเมืองทุกคนล้วนเอาแต่ประโยชน์ส่วนตัว ตนจึงตั้งใจส่งหนังสือไปยังประธานวุฒิสภาเท่านั้นว่าอย่าไปกลัวการข่มขู่

เมื่อถามว่าพร้อมจะพูดคุยกับฝ่ายที่เห็นต่างหรือไม่ นพ.วรงค์ กล่าวว่า ต้องถามว่าฝ่ายนั้นจริงใจหรือไม่ พฤติกรรมที่แสดงออกต่อเจตนาในการปฏิรูปต้องเป็นแบบไหน เห็นมีแต่ชี้หน้า ขัดขวาง ดูหมิ่น ล้อมรถ ตะโกนคำหยาบ บุกสถานทูต นี่คือการปฏิรูปหรือล้มล้างกันแน่ ปัญหาการเมืองอยู่ที่นักการเมือง ก็ต้องแก้ที่นักการเมือง ไม่ใช่มาทำพฤติกรรมแบบนี้ มันไม่ตรงประเด็นกับปัญหาของประเทศ

“นี่คือขบวนการล้มล้างสถาบัน ปากบอกปฏิรูปแต่พฤติกรรมที่ผ่านมาคือการล้มล้าง จาบจ้วง ดูหมิ่น ใช้คำพูดการกระทำที่เลวร้ายต่อสถาบัน ผมเชื่อว่าอนาคตคนพวกนี้คงไม่ได้อยู่ในประเทศไทย เพราะนี่เป็นเรื่องที่คนไทยยอมไม่ได้เด็ดขาด วันนี้อย่างไรต้องตัดสินใจคว่ำให้หมด”

นพ.วรงค์ กล่าวอีกว่า หากมีสมาชิกรัฐสภายังดื้อดึงให้ร่างใดร่างหนึ่งผ่าน เราจะถือว่านี่เป็นหนึ่งในกระบวนการล้มล้างการปกครองประชาธิปไตย โดยตนจะเป็นตัวแทนนำเรื่องยื่นผ่านอัยการสูงสุดวันนี้ ที่สำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ว่าร่างทั้ง 3 ร่างหากผ่านแม้หนึ่งร่าง เท่ากับเรากำลังจะทำลายระบอบการปกครองประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข


 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน