พิชัย ประณาม บิ๊กตู่ ทำร้ายประชาชนอย่างป่าเถื่อนผิดหลักสากล ชี้ หมดหวังฟื้นเศรษฐกิจ-หมดสภาพบริหารประเทศ แนะ ไทยต้องรีบเปลี่ยนแปลงก่อนโลกฟื้นตัว

วันที่ 18 พ.ย.2563 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า ขอประณามการกระทำที่มีการใช้น้ำผสมสารเคมีฉีด และใช้แก็สน้ำตา กับผู้ชุมนุมที่เป็นประชาชน ที่รวมถึง นักเรียน นักศึกษาอย่างป่าเถื่อน ผิดหลักการสากล และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องการทำร้ายประชาชนนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าพล.อ.ประยุทธ์ยังติดนิสัยของการเป็นเผด็จการอยู่ จึงได้ปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนโดยขาดความสำนึกละอายใจเช่นนี้

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

“ข่าวการทำร้ายผู้ชุมนุมได้กระจายไปทั่วโลกแล้วจากสื่อหลักต่างประเทศ ซึ่งได้ทำลายความหวังของประเทศไทยในการฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างหมดสิ้น คงไม่มีนักลงทุนจากประเทศไหนอยากจะมาลงทุนในประเทศที่มีรัฐบาลที่ป่าเถื่อนขาดจริยธรรม และทำร้ายประชาชนได้ ภาพของเด็กนักเรียนถูกแก๊สน้ำตา แม้กระทั่งเด็กอนุบาลยังโดนทำร้าย ได้สร้างความสะเทือนใจคนที่เห็นในโซเชียลเป็นจำนวนมาก” นายพิชัย กล่าว

นายพิชัย กล่าวต่อว่า ทำให้พล.อ.ประยุทธ์หมดความชอบธรรมในการบริหารประเทศอีกต่อไป ยิ่งอยู่ต่อไป ประเทศจะยิ่งเสียหายและเสียชื่อ ดังนั้นพล.อ.ประยุทธ์จะต้องไม่เป็นนายกรัฐมนตรีอีกต่อไปแล้ว ประเทศไทยถึงจะเดินหน้าได้ มิเช่นนั้นจะไม่มีใครเชื่อถือประเทศไทยอีกต่อไป ทั้งนี้ ที่ผ่านมาประเทศไทยถูกสหรัฐตัดจีเอสพีถึง 2 ครั้งในปีนี้ และถูก 5 ทูตของประเทศคู่ค้าหลัก ทั้งสหรัฐ อังกฤษ เยอรมัน ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย ออกมาแนะนำอีกเป็นครั้งที่ 2 เหมือนเป็นการตำหนิความล้มเหลวในการบริหารประเทศ ไม่ต่างอะไรกับการถูกตบหน้า ถ้าหากพล.อ.ประยุทธ์จะเข้าใจและยังมีความละอายใจเหลืออยู่

นายพิชัย กล่าวอีกว่า ในภาวะที่โลกเผชิญวิกฤตการณ์ไวรัสโควิด ถ้าหากมองทางด้านดีแล้ว เหมือนกับโลกกำลังรอประเทศไทยให้รีบจัดการปัญหาภายในประเทศของเราให้เรียบร้อยและให้กลับมาเป็นที่ยอมรับของประชาคมโลก เพื่อประเทศไทยจะได้กลับมาฟื้นและก้าวไปพร้อมกับโลกได้ทัน เพราะถึงไม่มีวิกฤตการณ์ไวรัสโควิด ประเทศไทยก็ยังคงจะเสื่อมถอยจากความล้มเหลวในการบริหารประเทศของพล.อ.ประยุทธ์มาตลอด 6 ปีกว่า

รองหัวหน้าพรรค พท. กล่าวว่า และปีนี้ถึงไม่มีไวรัสโควิดเศรษฐกิจไทยก็จะยังคงติดลบ แต่อาจจะไม่มากเท่านี้ ซึ่งไทยจะถูกประเทศอื่นแซงไปไกลเลยถ้าไม่เกิดปัญหาไวรัสโควิด ดังนั้นไทยจะต้องใช้โอกาสนี้ในการแก้ไขปรับปรุงประเทศให้เป็นที่ยอมรับของประชาคมโลก และการแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นฉบับของประชาชนอย่างแท้จริง

“และการแก้รัฐธรรมนูญตามที่ไอลอว์เสนอก็เป็นแนวทางที่จะช่วยประเทศไทยให้เป็นที่ยอมรับ และพรรคเพื่อไทยก็สนับสนุนให้มีรัฐธรรมนูญที่มาจากประชาชนอย่างแท้จริงนี้ ซึ่งหากมีรัฐธรรมนูญที่มาจากประชาชนแล้ว เชื่อได้ว่าเผด็จการจะไม่สามารถสืบทอดอำนาจต่อไปได้ และจะไม่มีโอกาสจะมาทำร้ายประชาชนได้อีก” นายพิชัย กล่าว

นายพิชัย กล่าวด้วยว่า แต่ในระหว่างการแก้ไขรัฐธรรมนูญนี้ พล.อ.ประยุทธ์จะต้องออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไป เพราะไม่มีใครเชื่อถือแล้วทั้งในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้งรัฐธรรมนูญจะไม่สามารถแก้ไขได้ถ้ายังมีพล.อ.ประยุทธ์ในตำแหน่ง เพราะพล.อ.ประยุทธ์และพวกพ้องจะทำทุกวิถีทางเพื่อขัดขวางแม้แต่การทำร้ายประชาชนก็ได้ทำแล้ว ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ต้องออกไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน