“หมอชลน่าน” ชี้เป็นความรับผิดชอบรัฐบาล ทำโควิดระบาด ระลอก 2 หลุดจากด่าน ช่องทางธรรมชาติ เตรียมนำกรณีดังกล่าว อภิปรายไม่ไว้วางใจ
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 21 ธ.ค.2563 ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย และนายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ในฐานะทนายความโจทก์ เดินทางมาตามที่ศาลแพ่งนัดชี้สองสถาน
ในคดีฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นจำเลย กรณีออกคำสั่ง ประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินในสถานการณ์ร้ายแรง ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ช่วงเหตุการณ์ชุมนุมกลุ่มราษฎร 2563 กลางเดือนต.ค.ที่ผ่านมา โดยเป็นคดีแพ่งหมายเลขดำที่ พ.5327/2563 โจทก์มี นายชลน่าน ศรีแก้ว, นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย, นายวรพล มนทิรารักษ์, และนายธนวัฒน์ วงค์ไชย เป็นโจทก์ที่ 1-4
นายนรินท์พงศ์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากที่เราฟ้อง พลอ.ประยุทธ์ ที่ออกประกาศ พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินฯ โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งในวันที่ 22 ต.ค. เราขอให้ศาลแพ่งไต่สวนฉุกเฉิน แต่ปรากฏในวันนั้น รัฐบาลมีคำสั่งถอนประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินร้ายแรงดังกล่าวออกไป แต่คดีนี้ยังปรากฏอยู่ เพราะฝ่ายโจทก์ นพ.ชลน่านเห็นว่า รัฐบาลออกประกาศที่ขัดต่อกฎหมายไปแล้ว ศาลจึงเลื่อนมาวันนี้เพื่อนัดพร้อมและกำหนดประเด็น จะสืบโจทก์หรือสืบจำเลยในคราวหน้าวันเวลาใดบ้าง
เมื่อถามว่ามีความเห็นกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ขณะนี้อย่างไร นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นความประมาทเลินเล่อ สะเพร่าของฝ่ายรัฐบาลที่ปล่อยปละละเลย ทั้งที่จริงๆแล้วทางสาธารณสุข ระบบแพทย์มีมาตรการจัดการที่ชัดเจน
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเห็นได้ว่ามีการนำเข้าแรงงานมาจากชายแดนโดยเฉพาะด่านธรรมชาติ เหตุดังกล่าวฟังได้ชัดเจนว่า แทนที่รัฐจะเข้มงวดกับในประเทศของเรา แต่กลับปล่อยปละละเลย จนกระทั่งเกิดเหตุนี้ขึ้น รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบ
ถ้าเรามีรัฐบาลอย่างนี้ เราก็ต้องช่วยเหลือตัวเองเป็นหลัก มาตรการต่างๆ ที่จะป้องกันไม่ให้ติดเชื้อ ไม่ว่าการใส่หน้ากากอนามัย การล้างมือ ประชาชนต้องระมัดระวัง ช่วยตัวเองเป็นหลัก
เมื่อถามว่าจะนำเรื่องแพร่ระบาดโควิด-19 รอบนี้ ไปอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในปีหน้าด้วยหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นประเด็นที่ถือว่าประเทศเสียหายมาก ทีมงานต้องนำมาพิจารณาว่าสมเหตุสมผลหรือไม่ เพราะผลกระทบเยอะมาก ถ้ามีการล็อกดาวน์อีกรอบคงจะเสียหายหนัก อย่างไรก็ตามในวันพรุ่งนี้ คณะทำงานพรรคเพื่อไทยจะประชุมกำหนดประเด็นในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะถึงนี้
