“บิ๊กตู่” เล็ง ขึ้นทะเบียนแรงงานข้ามชาติชั่วคราวบัตรสีชมพู แก้ปัญหา เล็งออกมาตรการแบ่งโซนพื้นที่ควบคุมการแพร่ระบาด ฟุ้ง สถิติ “โควิด” เริ่มลดลง

เมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 23 ธ.ค. ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมพิจารณากำหนดวงเงินงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ถึงสถานการณ์โควิด-19 ว่า

เท่าที่ได้รับรายงานในขณะนี้ทราบว่าสถิติการติดเชื้อใหม่รายวันเริ่มลดลง เนื่องจากมีการตรวจสอบและควบคุมพื้นที่มากขึ้น ส่วนใดที่เป็นอุปสรรคปัญหาตนได้มอบหมายทุกหน่วยงานไปแล้วว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือหากวิเคราะห์สาเหตุขั้นต้นมาจากแรงงานต่างด้าว

ซึ่งหากถูกกฎหมายอยู่ในประเทศไทยมานานไม่มีปัญหา เว้นแต่ผู้ที่ลักลอบ จึงต้องขจัดขบวนการลักลอบให้ได้มากที่สุด ทั้งนี้ตนมีความกังวลกับแรงงานที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนและมีการหลบเลี่ยง จากผู้ที่เห็นแก่ตัวที่จ้างงานโดยไม่จ่ายค่าแรงตามกำหนดและมีขบวนการนำส่งแรงงานกลุ่มนี้เข้ามา วันนี้จึงกำลังรื้อทั้งหมดให้ติดตามขบวนเหล่านี้

“สิ่งที่กังวลเรื่องเดียว ขณะนี้คือมีบางโรงงานหรือหลายโรงงานใช้แรงงานไม่ถูกต้องตามกฎหมายเอาไปปล่อยในพื้นที่อื่นๆ หรือลาออกจากงาน เมื่อเช้าผมก็ได้สั่งการ ศบค. ให้หามาตรการตรงนี้มาว่าจะทำยังไง โดยให้แนวทางไปว่า ให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาดู

เหมือนสมัยที่เราขึ้นทะเบียนแรงงานสมัยก่อนมีวิธีการขึ้นทะเบียนชั่วคราวไปก่อนบัตรสีชมพู ก็กำลังดำเนินการตรงนี้ เพราะถ้าเราไปดำเนินการอย่างเข้มข้นมากเกินไปก็มีการเอาแรงงานนี้ไปปล่อยที่อื่น ขณะนี้จึงหากำลังหามาตรการเหล่านี้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความร่วมมือระหว่างกัน โดยในการประชุม ศบค. ในวันพรุ่งนี้(24 ธ.ค.) ก็จะได้ข้อยุติว่าจะทำอย่างไรกันต่อไปในส่วนของมาตรการในช่วงนี้ รวมถึงในช่วงปีใหม่ และจะกำหนดพื้นที่ทั้งหมดว่าจะดำเนินการในพื้นที่ตรงไหนอย่างไร

แบ่งเป็นพื้นที่แพร่ระบาดมากและแพร่ระบาดน้อย พื้นที่ความเสี่ยงมากหรือความเสี่ยงน้อย โดยจะกำหนดพื้นที่ทุกจังหวัด ให้เป็นสีต่างๆ สีเขียว สีส้ม และสีแดง เพื่อมีมาตรการเฉพาะลงไปว่าทำอย่างไรได้บ้าง เราต้องเตรียมการไว้เช่นนี้ จึงขอแจ้งเตือนให้ทุกคนได้รับทราบว่าเราอาจจะต้องลำบากและเสียสละ เพราะถ้าเราแก้ปัญหานี้ไม่ได้ในช่วงนี้ มันก็คือปัญหาต่อไป

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นอกจากนี้ในเรื่องการนำเสนอข่าว ขอให้รับฟังข้อมูลจาก ศบค. อย่าเอาข้อมูลจากที่อื่นที่ไม่ใช่ข้อมูลที่ถูกต้องหรือพิสูจน์ไม่ได้ไปเผยแพร่ เพราะจะทำให้เกิดความตื่นตระหนก และสร้างความรับรู้ไปยังต่างประเทศ อย่างไรก็ตามยังยืนยันว่าตอนนี้เป็นการระบาดแบบรู้ที่มา และเรามีมาตรการเฉพาะต่างๆ รวมถึงมาตรการด้านสาธารณสุขที่ครบถ้วนทุกอย่าง

ยังสามารถรับมือได้ทั้งหมด ไม่เช่นนั้นก็จะกลายไปสู่ประเทศไทยกลับมาระบาดร้ายแรงอีก ทำให้เราขาดความเชื่อมั่นในด้านสาธารณสุขไทย ย้ำว่าเราทำมากกว่าหลายประเทศ ดังนั้นต้องขอความร่วมมือสื่อมวลชนอะไรที่พูดจาออกมาโดยไม่ใช่ข้อเท็จจริงบางครั้งก็ทำให้เกิดปัญหา ซึ่งตนรับฟังทุกส่วน แต่ต้องแยกแยะว่า เรื่องใดเป็นข้อมูลจริงหรือเท็จ

“ขอร้องบรรดาผู้ที่ชอบออกมาทางโซเชียล เอาข้อมูลเท็จข้อมูลอะไรออกไปทั้งหมด แพร่ระบาดไปแล้วโน่นนี่ มันไม่เกิดประโยชน์อะไรเลยกับประเทศไทยของเรา คุณเป็นคนไทยหรือเปล่า ถ้าเป็นคนไทยก็ต้องช่วยกันแก้ปัญหาไม่ใช่ปกปิด

แต่ต้องเอาข้อมูลที่แท้จริงบางทีไปเขียนอะไรที่ไม่มีความรู้ ผมก็ไม่โทษเพียงแต่ขอร้องและให้ทุกคนมองว่าประโยชน์ของชาติอยู่ตรงไหน แล้วเราจะอยู่กันยังไงต่อไปถ้าจะอยู่อยากให้ดีขึ้นก็ต้องช่วยกัน สิ่งดีๆ เยอะแยะไป อย่าไปขยายความขัดแย้งกันมากนัก” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน