คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
ท่วงที และลีลา – ทําไมสังคมการเมืองจึงสนใจต่อบทบาทของ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นอย่างมาก
ไม่ว่าเมื่ออยู่ ณ ที่จำขัง ไม่ว่าเมื่อได้รับการ พักโทษและปล่อยตัวออกมาจากที่จำขัง ก็ได้รับคำถามว่าจะดำเนินบทบาทในทางการเมืองต่อไปอย่างไร
จะเข้าร่วมจัดตั้งพรรคร่วมกับเพื่อนนักการเมืองหรือไม่
ต่อการเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทยในสายตาของ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ มีความเห็นอย่างไร ต่อการเคลื่อนไหวของน้องๆ เยาวชน นักเรียน นิสิตนักศึกษา มีความเห็นอย่างไร
ทั้งหมดนี้ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ล้วนมิอาจตอบได้
จําเป็นต้องรู้ต่อสถานะและการดำรงอยู่ของ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ในปัจจุบัน
นั่นก็คือ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ยังไม่ได้พ้นโทษตามคำพิพากษา เขาเพียงแต่ได้รับ “การพักโทษ” ตามระเบียบและกฎเกณฑ์ที่กระทรวงยุติธรรมกำหนดเอาไว้
สถานะของ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ จึงยังเป็น “นักโทษ”อยู่
เขาจึงถูกตัดสิทธิโดยสิ้นเชิงไม่ให้แสดงความเห็นในทางการเมือง เขาถูกตัดสิทธิโดยสิ้นเชิงไม่ให้เข้าร่วมการเคลื่อนไหวใดๆอันมีลักษณะในทางการเมือง
ยิ่งถูกห้าม สังคมกลับยิ่งให้ความสนใจ
เป็นความสนใจเพราะแวดวงการเมืองมากด้วยปัญหาและความขัดแย้ง
ตัวอย่างง่ายๆก็คือ ในห้วงที่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ได้รับการพักโทษ มีการเลือกตั้งนายกอบจ.และที่เชียงใหม่มีความขัดแย้งแหลมคมเป็นพิเศษ
สะท้อนความขัดแย้งเพราะมีอดีตคนเพื่อไทย ไม่เห็นด้วย
บังเอิญคนที่ไม่เห็นด้วยคนสำคัญ คือ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ซึ่งอยู่ในฐานะประธานนปช. ขณะที่ ตำแหน่งเลขาธิการนปช.เป็นของ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
สังคมจึงอยากรู้ว่า นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ คิดอย่างไรในเรื่องนี้
ไม่มีใครรู้ได้ว่า นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ คิดอย่างไรต่อความขัดแย้งที่เกิดขึ้นแล้ว
ตามปกติ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ระมัดระวังเป็นอย่างสูงต่อปัญหาในลักษณะเช่นนี้ อย่างมากที่แสดงออกก็เพียงแต่ใส่เสื้อออกโทน “แดง” ในตอนออกจากที่จำขังเท่านั้น
เป็นการตอบว่ายังคงเป็น “คนเสื้อแดง” ไม่แปรเปลี่ยน กระนั้นหรือ
