รองนายกฯ “วิษณุ” เลี่ยงตอบ ล็อกดาวน์ แจงสถานการณ์โควิด อยู่ระยะ 1 ให้ผู้ว่าฯ มีอำนาจแก้ไข หากระบาดหนัก เพิ่มมาตรการระยะ 2 ดึงอำนาจกลับ นายกฯ

เมื่อวันที่ 5 ม.ค. เวลา 08.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ระบุจะมีการล็อกดาวน์ 5 จังหวัด ประกอบด้วย จ.สมุทรสาคร ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ว่า

ตนไม่รู้ว่าจะเรียกว่าล็อกดาวน์หรือไม่ แต่จะมีการเข้มข้นมาตรการใน 5 จังหวัดดังกล่าว ซึ่งไม่ถึงกับเข้มข้น 100 เปอร์เซ็นต์ จึงไม่เหมือนกับการล็อกดาวน์เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งรายละเอียดจะมีการแถลงภาพหลังการประชุมคณรัฐมนตรี (ครม.)

เนื่องจากเรื่องดังกล่าว ต้องนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม.โดยที่ประชุม ศบค.เมื่อวันที่ 4 ม.ค.ที่ผ่านมายังไม่ได้มีการพูดคุยรวมทั้งไม่มีเรื่องการประกาศเคอร์ฟิว ขณะนี้นายกรัฐมนตรีใช้คำว่าระยะที่ 1 คือการแพร่ระบาด ยังช้าอยู่ ควบคุมได้อยู่ก็จะใช้มาตรการเดิม

นายวิษณุ กล่าวว่า แต่หากสถานการณ์ไปถึงจุดหนึ่งที่จะกลายเป็นระยะที่ 2 อาจต้องเพิ่มความเข้มข้นขึ้น โดยยึดที่สถานการณ์หากพื้นที่สีแดง มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นและพื้นที่สีส้ม และสีเหลืองเปลี่ยนเป็นพื้นที่สีแดงมากขึ้น และการแพร่ระบาดของเชื้อทวีความรุนแรงก็ต้องประเมินสถานการณ์และมีโอกาสเพิ่มมาตรการเข้มข้นมากกว่าระยะที่ 1

ทั้งนี้ ขอให้ใช้คำสั้นๆว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการใช้มาตรการระยะที่ 1 ซึ่งมีความหนักเบา ในแต่ละพื้นที่สลับกันไปเมื่อครั้งโควิด-19 ระบาดใน 1 ปีที่ผ่านมา อำนาจจะเข้ามาอยู่ที่ศบค.ตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯแต่ครั้งนี้เราคืนอำนาจให้ผู้ว่าราชการจังหวัดใช้อำนาจตามพ.ร.บ.โรคติดต่อ เพียงแต่มีข้อความให้ผู้ว่าราชการจังหวัดมั่นใจว่าจะไม่ถูกฟ้องและได้รับการคุ้มครอง

โดยใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ไปคุ้มครองให้ออกคำสั่ง แต่ไม่ได้สั่งตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯซึ่งปัญหาที่ตามมาคือความลักลั่นในแต่ละพื้นที่ โดยในระยะที่ 1 ให้เป็นเช่นนี้ไปก่อน ซึ่งปัญหานี้ในที่ประชุมศบค.ก็มีการพูดถึงคงต้องปล่อยให้เป็นเช่นนี้ไประยะหนึ่ง แล้วค่อยปรับเข้าไปสู่มาตรฐานเดียวกัน ในระยะที่ 2 เป็นการเรียกอำนาจกลับคืนมาเป็นของนายกฯตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

เมื่อถามว่า มาตรการต่างๆกระทบกับภาคเอกชนรัฐบาลมีเงินเพียงพอในการเยียวยาหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการพูดถึงในส่วนนั้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน