‘บิ๊กตู่’ ย้ำกองทัพซื้ออาวุธตั้งงบฯล่วงหน้า วอนเข้าใจรัฐบาลต้องเฉลี่ยงบฯดูแลทุกด้าน ให้กำลังใจนักร้อง ‘ตูน บอดี้สแลม’ วิ่งหาเงินช่วยโรงพยาบาล ลั่นทำดีไม่ต้องหวั่นไหวเสียงวิจารณ์ ตำรวจออกหมายเรียกคนบิน ‘โดรน’ ถ่ายสนามบินกองทัพอากาศเข้ารับข้อหา กระทรวงพาณิชย์แจงแจกบัตรคนจนแล้ว 10 ล้านใบ โต้อุ้มบริษัทใหญ่ขายสินค้า ยังพบปัญหาที่ จ.ปราจีนบุรี กรธ.กำหนดพิจารณาร่างพ.ร.บ.เลือกตั้งส.ส.เดือนพ.ย. ยันร่างกฎหมายป.ป.ช. ต้องคงอำนาจผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ตรวจสอบป.ป.ช.

กรธ.ถกที่มาส.ส.เดือนพ.ย.

วันที่ 15 ต.ค. นายชาติชาย ณ เชียงใหม่ กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงความ คืบหน้าการทำงานของกรธ.ว่า การพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. ขณะนี้เสร็จไปแล้วในรอบแรก กำลังทบทวนอีกครั้งว่ามีส่วนใดที่ขาดตกบกพร่องหรือไม่ โดยเฉพาะในส่วนของวิธีการเลือกไขว้และคุณสมบัติของผู้สมัครในแต่ละกลุ่มอาชีพ คาดว่าไม่น่าจะเกินสิ้นเดือนต.ค.นี้น่าจะเสร็จสมบูรณ์ ส่วนร่างพ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.จะเริ่มพิจารณากันในเดือนพ.ย. และจะเร่งให้เสร็จเพื่อทันส่งให้สนช.พิจารณาตามที่กรธ.ได้กำหนดไว้คือ 28 พ.ย. ซึ่งกรธ.เตรียมข้อมูลเบื้องต้นไว้หมดแล้ว ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

นายชาติชายกล่าวว่า ส่วนการประชุมกรธ. สัปดาห์นี้จะนำข้อเสนอของคณะกรรมการป.ป.ช.เกี่ยวกับร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐ ธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต มาพิจารณาว่ามีส่วนใดต้องปรับแก้หรือไม่ หากมีเหตุผลดีเราจะปรับแก้ให้ โดยจะทำให้เสร็จภายในสัปดาห์นี้และส่งให้สนช.ต่อไป

เร่งเคลียร์กฎหมายป.ป.ช.ให้จบ

นายอุดม รัฐอมฤต โฆษกกรธ.กล่าวว่า ในวันที่ 16-17 ต.ค.นี้ กรธ.จะพิจารณาร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตว่า มีประเด็นอะไรที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ตามที่ป.ป.ช.ร้องเรียนมา บางประเด็นก็เห็นว่าเราคิดดูอย่างรอบคอบแล้วว่าไม่ขัดรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อมีการทักท้วงมาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงก็ต้องมาพิจารณากันให้ชัดอีกครั้ง อาทิ ประเด็นที่จะให้หน่วยงานใดเป็นหน่วยงานที่ตรวจสอบป.ป.ช.ได้นั้นคงต้องมีการตั้งคณะกรรมการไต่สวนอิสระเพื่อตรวจสอบป.ป.ช. ส่วนประเด็นที่ป.ป.ช.ท้วงติงมาว่า กรธ.เขียนกฎหมายให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) ในการตรวจสอบป.ป.ช.นั้น ตรงนี้กรธ.ต้องพิจารณากันอีกครั้งให้ชัดเจนว่ามีมาตราใดที่ไปเขียนไว้อย่างนั้นจริงหรือไม่

กรธ.สู้ปมอำนาจผู้ตรวจการ

นายธิติพันธุ์ เชื้อบุญชัย กรธ. ฐานะกรรมาธิการวิสามัญ (กมธ.) พิจารณาร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน สนช. กล่าวถึงการปรับปรุงและแก้ไขเนื้อหาของร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว ซึ่งเตรียมเข้าที่ประชุมสนช.วันที่ 19 ต.ค.นี้ว่า มีหลายประเด็นของเนื้อหาที่ปรับปรุงที่ไม่สามารถยอมต่อการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงได้ โดยเฉพาะมาตรา 7 วรรคสาม ว่าด้วยอำนาจของผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ที่มีหน้าที่ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของสำนักงานป.ป.ช.ที่กระทำทุจริตต่อหน้าที่หรือทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ที่ กมธ.เสียงข้างมากให้ตัดออกทั้งวรรค โดย กรธ.เห็นว่าเป็นประเด็นที่ยอมไม่ได้ และหากการพิจารณาของสนช.วาระสองและวาระสามไม่สามารถนำบทบัญญัติดังกล่าวคืนร่างเดิมได้จะเป็นประเด็นที่กรธ.ขอตั้งกมธ.ร่วมกัน 3 ฝ่ายทันที เพราะบทบัญญัติที่ถูกปรับเปลี่ยนนั้นอาจเป็นประเด็นที่ทำให้ขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญใหม่ และทำลายส่วนของการตรวจสอบถ่วงดุลการทำงานของเจ้าหน้าที่ป.ป.ช. ขอให้สื่อมวลชนช่วยตรวจสอบด้วยว่าที่ผ่านมากรณีที่มีผู้ร้องเรียนเจ้าหน้าที่ป.ป.ช. แล้วสำนักงานสามารถตรวจสอบหรือดำเนินการใดๆ ได้มากน้อยเพียงใด

นายธิติพันธุ์ยังกล่าวถึงบทเฉพาะกาลว่าด้วยวาระดำรงตำแหน่งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ที่พบว่ามีระบุหมายเหตุให้แก้ไขให้ตรงข้อเท็จจริงด้วยว่า ฉบับล่าสุดที่ได้หารือเป็นที่ยุติ เมื่อวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา สรุปแล้วว่ากระบวนการสรรหาผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินต้องเกิดขึ้นใหม่ หากระหว่างที่กฎหมายใหม่ยังไม่ประกาศและมีกระบวนการสรรหาเกิดขึ้นต้องยุติและสรรหาใหม่ทันทีที่มีกฎหมายใช้บังคับ ขณะที่คุณสมบัติของผู้ที่จะเข้ารับตำแหน่งต้องไม่ขัดต่อบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญและกฎหมายฉบับใหม่ ทั้งประเด็นของการไม่เคยดำรงตำแหน่งใดๆ ในการตรวจเงินแผ่นดินมาก่อน บทบัญญัติยังเขียนด้วยว่า ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินที่มาตามกฎหมายว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.2542 ให้ถือเป็นการดำรงตำแหน่งตามกฎหมายใหม่ด้วย

ปราจีนพบปัญหาบัตรคนจน

ผู้สื่อข่าวรายงานจ.ปราจีนบุรี ถึงบรรยากาศหลังรัฐบาลเปิดใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือบัตรผู้มีรายได้น้อยพบว่าผู้ถือบัตรต่างพากันออกมารูดบัตรอย่างคึกคัก โดยเทศบาล ต.โพธิ์งาม อ.ประจันตคาม พบผู้มีบัตรออกมารูดบัตรอย่างต่อเนื่อง แต่ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการร้านค้าธงฟ้าประชารัฐที่นำของใช้ในครัวเรือนมาไว้บริการมีน้อย บางหมู่บ้านไม่มีร้านธงฟ้าเลยต้องไปใช้สิทธิ์ต่างหมู่บ้าน ขณะที่บางคนยังไม่เข้าใจว่าต้องทำอย่างไรแต่บัตรต้องใช้ในเวลา 1 เดือน/ต่อหนึ่งครั้งในวงเงินไม่เกินคนละ 300 บาท

สินค้าส่วนใหญ่ที่เลือกซื้อเป็นประเภทข้าวสาร อาหารแห้ง สบู่ ยาสีฟัน ขณะที่ข้าวสารถุงละ 300 บาท ชาวบ้านไม่ค่อยซื้อเพราะนอกจากจะซื้อข้าวสารได้ถุงเดียวแล้ว ยังพบว่าร้านใหญ่อ้างว่าต้นทุนซื้อข้าวมาราคา 320 บาท ต้องขายราคา 320 บาท หากจะซื้อผู้ถือบัตรจำเป็นต้องควักเงินสดจ่ายเอง นอกจากนี้สินค้าชนิดเดียวกันแต่บางร้านขายแพง บางร้านขายถูก แต่ชาวบ้านไม่สามารถนำบัตรไปใช้นอกเขตพื้นที่ได้

นางสมจิตย์ ใจมั่น อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 181 ม.3 ต.โพธิ์งาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่ได้มาใช้สิทธิรูดบัตรคนจนที่ร้าน ภ.พานิช (บ้านต้น) ต.โพธิ์งาม อ.ประจันตคาม มีของกินของใช้ในครัวเรือนทุกอย่าง ราคาตามข้อตกลงกับทางรัฐ แถมทางร้านยังเอาใจลูกค้า ใช้หางบัตรหรือเลขบัตรที่ทางร้านค้าจัดทำขึ้นจับสลากลุ้นชิงโชคจนถึงสิ้นเดือนต.ค.

พณ.ยันเปิดช่องผู้ผลิตรายเล็ก

ที่กระทรวงพาณิชย์ นายวิเชียร ชวลิต ที่ปรึกษารมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานคณะทำงานกำกับดูแลและประชาสัมพันธ์โครงการธงฟ้าประชารัฐที่ใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวหลังหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่า การซื้อสินค้าของผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ สามารถซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพได้ทุกชนิด เช่น อาหารสด ผักผลไม้ เครื่องปรุงรส อาหารและเครื่องดื่ม ของใช้ประจำวัน ยาสามัญประจำบ้าน รวมทั้งสินค้าชุมชน โอท็อป รวมทั้งสินค้าเพื่อการศึกษา เช่น เครื่องแบบนักเรียน เครื่องเขียน สมุด หนังสือ เป็นต้น และสินค้าวัตถุดิบเพื่อเกษตรกรรม ยกเว้นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ บุหรี่ หรือสินค้าฟุ่มเฟือย

นอกจากนี้ ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐจะมีสินค้าในโครงการที่จำหน่ายในราคาถูกกว่าราคาตลาด 10-20% เพื่อเป็นสินค้าทางเลือก ทำให้ผู้ถือบัตรใช้วงเงินตามสิทธิที่มีอยู่ซื้อสินค้าได้เพิ่มมากขึ้น โดยเปิดรับสมัครให้ ผู้ผลิตสินค้าทุกรายทั้งรายใหญ่ เอสเอ็มอี ผู้ผลิตสินค้าชุมชน สหกรณ์ และวิสาหกิจชุมชนเข้าร่วมโครงการธงฟ้าประชารัฐ โดยไม่เอื้อประโยชน์ให้บริษัทใหญ่แต่อย่างใด ปัจจุบันมีผู้ผลิตร่วมโครงการแล้ว 24 ราย 40 สินค้า 318 รายการ และมีผู้ผลิตสินค้าที่ติดต่อสมัครเข้าร่วมเพิ่มอีกจำนวนมาก

จัดรถธงฟ้าเคลื่อนที่บริการ

คณะทำงานฯ ชี้แจงเพิ่มเติมว่ากระทรวงพาณิชย์ได้ประสานกับกรมบัญชีกลางและธนาคารกรุงไทย เร่งรัดให้มีร้านค้าธงฟ้าประชารัฐที่ติดตั้งอุปกรณ์รับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์หรือเครื่องอีดีซี เพิ่มมากขึ้น และครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศอย่างน้อยตำบลละ 1 แห่ง สำหรับบางพื้นที่ที่ห่างไกลประชาชนผู้ถือบัตรอาจไม่สะดวกในการเดินทาง กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติเตรียมจัดรถธงฟ้าประชารัฐเคลื่อนที่ (Mobile Unit) เพื่อเข้าไปให้ผู้บริการแก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

สำหรับในเขตกรุงเทพฯ ซึ่งจะเริ่มใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้ตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค. 2560 ได้เตรียมร้านค้าธงฟ้าประชารัฐให้ครอบคลุมพื้นที่ที่สำคัญและเป็นแหล่งชุมชนเพื่อรองรับการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หากมีข้อสงสัยหรือต้องการทราบข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่กรมการค้าภายใน โทรศัพท์ 0-2507-5663-4 หรือที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด สำนักงานคลังจังหวัด และประชาสัมพันธ์จังหวัด

แจกบัตรคนจนแล้ว 10 ล้านใบ

น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง ให้สัมภาษณ์ว่า การจัดทำบัตรคืบหน้าไปมาก จากที่ช่วงสัปดาห์ก่อนแจกจ่ายไปแล้ว 70% หรือ 7 ล้านบัตร แต่ล่าสุดวันที่ 14 ต.ค. ได้รับรายงานแล้วพบว่าแจกจ่ายไปแล้วกว่า 90% หรือว่า 10 ล้านบัตร และในส่วนนี้ใช้บัตรรูดซื้อสินค้าไปแล้ว 6.9 ล้านบัตร รวมตั้งแต่วันที่ 1-14 ต.ค. มีการใช้วงเงินเกิดขึ้น 1,600 ล้านบาท หรือวันละ 114 ล้านบาท และได้โอนเงินให้กับร้านค้าไปแล้วกว่า 1,000 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่าประชาชนเริ่มเข้าใจและใช้สิทธิ์ที่ได้มาแล้ว

และวันที่ 17 ต.ค.นี้ ในส่วนของอีก 7 จังหวัดคือกรุงเทพฯ และปริมณฑล ก็ได้รับแจกบัตรตามกำหนดการเดิม ขณะนี้บัตรได้ผลิตออกมาครบแล้วตามจำนวนของผู้มีสิทธิ์ 100% และจะทยอยแจกจ่ายบัตรไปตามจุดที่ประชาชนสามารถมารับบัตรได้ จากนั้นประชาชนก็สามารถทยอยมารับบัตรเพื่อนำไปใช้ได้ตามสิทธิ์

ส่วนก่อนหน้านี้ที่มีประชาชนร้องเรียนว่าที่หน้าบัตรไม่มีระบุจำนวนเงินในบัตร ทำให้ประชาชนไม่แน่ใจในวงเงินที่ตนได้รับนั้น ในบัตรล็อตใหม่ที่จะออกมาแจกจ่ายนั้นจะมีสติ๊กเกอร์แปะติดให้เจ้าของบัตรได้รู้มูลค่าวงเงินทันที และสามารถใช้บัตรได้ทันที

1พ.ย.ใช้จ่ายค่ารถเมล์-รถไฟได้

ส่วนการใช้บัตรดังกล่าวเพื่อการเดินทางด้วยรถเมล์ รถไฟ และการขนส่งสาธารณะอื่นๆ ตามที่สำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กำหนดนั้นจะเริ่มใช้ได้จริงตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. เพราะขณะนี้ประชาชนยังใช้สิทธิ์ขึ้นรถเมล์-รถไฟฟรีได้อยู่ โดยขณะนี้การติดตั้งเครื่องเพื่อรับบัตรในรถเมล์นั้นก็ได้ทยอยติดตั้งไปเรียบร้อยแล้วตามแผน 800 คัน มีการทดลองใช้ไปแล้วก็พบว่าทำงานได้ดีไม่ติดขัด ซึ่งหากมีการใช้บัตรดังกล่าวได้จริงก็จะเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยมีการใช้ตั๋วร่วมหรือบัตรแมงมุมที่บัตรเดียวแต่สามารถใช้ซื้อสินค้า เดินทางได้หลากหลายรูปแบบ

ทั้งนี้ วันอังคารที่ 17 ต.ค.นี้ จะเป็นวันดีเดย์ในการแจกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้แจกบัตรให้กับประชาชนผู้มีสิทธิ์จำนวน 10 ราย ที่ทำเนียบรัฐบาล ส่วนการติดตั้งเครื่ออีดีซี เท่าที่ได้รับรายงานพบว่าติดตั้งไปแล้ว 6,000 กว่าเครื่อง เพิ่มจากสัปดาห์ก่อนที่ติดตั้งไปแล้ว 5,000 เครื่อง และไม่มีปัญหาติดขัด ซึ่งได้ทยอยติดตั้งไปเรื่อยๆ มีเป้าหมายจะให้ครบ 8,000 ตำบลทั่วประเทศ และจะให้ครบ 18,000 เครื่องทั่วประเทศต่อไป

หมายเรียกคนบินโดรนเหนือทอ.

พล.อ.ต.พงษ์ศักดิ์ เสมาชัย โฆษกกองทัพอากาศ กล่าวว่า ตามที่ ทอ.ได้แจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลที่นำอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ขึ้นบินถ่ายคลิปมุมสูงบริเวณสนามบินของกองทัพอากาศ และนำไปเผยแพร่ลงในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งเป็นการกระทำความผิดพ.ร.บ.คุ้มครองความลับในราชการ พ.ศ.2483 เมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมานั้น ทอ.ได้ติดตามความก้าวหน้าหลังการ แจ้งความดังกล่าว และได้รับแจ้งจากสน.ดอนเมือง ว่าได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหาครั้งที่ 1 แล้ว เมื่อวันที่ 6 ต.ค. ด้วยเหตุต้องหาว่า “ถ่ายภาพภายในที่สงวนตามพ.ร.บ. คุ้มครองความลับในราชการ พ.ศ.2483 มาตรา 4 และความผิดฐานไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่รัฐมนตรีกำหนดในการบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน โดยทำการบินในระยะ 9 กิโลเมตรจากสนามบินฯ” จึงขอขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่เร่งดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถออกหมายเรียกดังกล่าว

พล.อ.ต.พงษ์ศักดิ์กล่าวว่า ทอ.มุ่งหวังให้การใช้โดรนในกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานของหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน หรือส่วนบุคคล เป็นไปโดยถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ละเมิดสิทธิผู้อื่น ไม่เปิดเผยความลับทางราชการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในการบินซึ่งส่งผลกระทบให้องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ได้ปักธงแดงหน้าชื่อประเทศไทยมานานกว่า 2 ปี

สำหรับคนที่เจ้าหน้าที่ออกหมายเรียกคือนายจตุพล โพธิ์ดี อายุ 37 ปี

ตร.เตือนอีกห้ามบินเขตหวงห้าม

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า ได้รับรายงานจากสน.ดอนเมือง ในเรื่องดังกล่าว อยากเรียนประชาสัมพันธ์ ประชาชนที่นิยมนำโดรน บินในพื้นที่สาธารณะ โดยเฉพาะพื้นที่หวงห้าม ให้ศึกษาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องก่อน อาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.บ.เดินอากาศ พ.ศ.2497 ที่กระทรวงคมนาคมออกประกาศเรื่องหลักเกณฑ์การขออนุญาตและเงื่อนไขการบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบินประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก พ.ศ.2558 บังคับใช้อย่างชัดเจนกับผู้ที่กระทำผิด กรณีนำโดรนบินเข้าไปในพื้นที่หวงห้าม เช่น บินในรัศมี 9 กิโลเมตร ใกล้สนามบิน หรือบินในขณะที่อากาศยานมีนักบินประจำอยู่ รวมทั้งบินในพื้นที่ที่มีการชุมนุม ซึ่งหากมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ สามารถดำเนินคดีเอาผิดได้ จึงขอให้ผู้นิยมชอบบินโดรนต้องคำนึงถึงความปลอดภัยและข้อกฎหมายอย่างชัดเจน

บิ๊กตู่ให้กำลังใจ‘ตูน’อย่าหวั่นไหว

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกฯ เผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ฝากให้กำลังใจ นายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือ ตูน บอดี้สแลม ที่ตั้งใจวิ่งการกุศลเพื่อหาเงินช่วยเหลือโรงพยาบาล ตามโครงการก้าวคนละก้าวเพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ ในช่วงเดือนพ.ย.-ธ.ค.60 โดยขอให้ปฏิบัติภารกิจด้วยความสำเร็จและปลอดภัย รวมทั้งขอบคุณที่ได้ทำหน้าที่ของคนไทยคนหนึ่งในการช่วยเหลือประเทศชาติและเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

“นายกฯ เห็นว่ากิจกรรมนี้เป็นสิ่งที่มีประโยชน์และไม่ทำให้ใครเสียหาย โดยการทำความดี ไม่จำเป็นต้องรอให้ใครมาบังคับและหากมีความมุ่งมั่นแน่วแน่ก็ต้องไม่หวั่นไหวต่อการวิพากษ์วิจารณ์ของผู้อื่น พร้อมเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ยินดีให้การสนับสนุน และขอเชิญชวนให้ทุกคนลุกขึ้นมาทำสิ่งที่ดีเพื่อชาติบ้านเมืองเช่นเดียวกัน” พล.ท.สรรเสริญ ระบุ

อ้างซื้ออาวุธตั้งงบล่วงหน้า

พล.ท.สรรเสริญกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ยังได้กล่าวถึงกระแสวิจารณ์ในโซเชี่ยลมีเดียที่ระบุว่ารัฐบาลนำงบประมาณไปใช้ในทางที่ไม่จำเป็นหรือการบริหารภาษีของรัฐล้มเหลวจนทำให้ ตูน บอดี้สแลม ต้องออกมาวิ่งระดมทุนว่า ถือเป็นความเห็นของแต่ละบุคคล พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลมีหน้าที่บริหารบ้านเมืองให้ก้าวหน้าไปในทุกมิติ ทั้งด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคม รวมทั้งดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนทุกระดับ จึงไม่สามารถทุ่มเทงบประมาณไปในสิ่งหนึ่งสิ่งใดได้ จึงอยากให้ประชาชนเข้าใจในเรื่องนี้

พล.ท.สรรเสริญกล่าวว่า ส่วนการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพนั้น นายกฯ ระบุว่าเป็นการใช้งบประมาณประจำปีที่ได้ตั้งเอาไว้ล่วงหน้า เช่นเดียวกับการพัฒนาด้านอื่นๆ ทั้งการศึกษา การคมนาคมขนส่ง หรือแม้แต่การสาธารณสุข ซึ่งต้องพิจารณาจากหลายปัจจัยและสร้างให้เกิดความเป็นธรรม โดยเฉพาะการดูแลและพัฒนาโรงพยาบาลทั่วประเทศนั้นมีองค์ประกอบหลายอย่าง เช่น อัตราประชากร ผู้ป่วย จำนวนแพทย์ พยาบาล ขนาดโรงพยาบาล สถานที่ตั้ง ฯลฯ โดยรัฐบาลต้องดูแลในภาพรวมและเฉลี่ยงบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดความคุ้มค่าและประโยชน์สูงสุด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน