“ทิพานัน” ย้อน “ช่อ พรรณิการ์” สังคมอยากรู้ “คณะก้าวหน้า” เป็นคนไทยหรือเปล่า วอนเลิกทำลายความหวัง-ถ่วงความเจริญชาติ หลังตั้งคำถามถึง ‘วัคซีนโควิด’
เมื่อวันที่ 20 ม.ค. น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวกรณีที่ น.ส. พรรณิการ์ วานิช เผยแพร่ข้อมูลทางเฟซบุ๊กและไลฟ์ “7 ประเด็นกระทรวงสาธารณสุขแถลงกรณีวัคซีนพระราชทาน เราอยากถามต่อ” ว่า ทุกประเด็นคำถามล้วนตั้งป้อมโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์ และคณะทำงานทุกคน รวมถึงคนที่ตั้งใจทำงานแก้ปัญหาโควิด19 โดยเฉพาะบุคคลากรทางการแพทย์ ที่ใช้ทั้งประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการทำงานตัดสินใจทั้งสิ้น แสดงถึงข้อมูลและจิตใจที่ยังล้าหลัง
“ทั้ง 7 ข้อ ล้วนเป็นคำถามมุ่งโจมตีมากกว่าตั้งคำถามเพื่อความก้าวหน้า ทั้งทีมแพทย์-สาธารณสุข นักรบเสื้อกาวน์ ขณะนี้ทุกคนต่างมีหน้าที่ที่ต้องทำเร่งด่วนร่วมกันเพื่อให้ประเทศชาติพ้นวิกฤตโควิด ทุกคนกำลังทำงานหนักเพื่อรักษาชีวิตและสุขภาพของประชาชน เพื่อความหวังการรักษาโรค นักการเมืองที่ไม่ยอมลงมือช่วยทำอะไรให้เกิดประโยชน์ ก็ขอให้หยุดทำตัวคล้ายคนถ่วงความเจริญของชาติเถอะ และสังคมตั้งคำถามเดียวคือ บุคคลในคณะก้าวหน้าเป็นคนไทยหรือเปล่า จ้องแต่จะล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ของคนไทย และทำลายความหวังของคนไทยใช่หรือไม่” น.ส. ทิพานัน กล่าว
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ขอชี้แจงว่า บ.สยามไบโอไซเอนซ์ ได้รับเลือกจาก บ.AstraZeneca เพราะมีมาตรฐานทั้ง PIC/S และ GMP และเป็นบริษัทเดียวในประเทศไทยที่มีศักยภาพด้านชีววัตถุ มีศักยภาพ ผลิตยาคุณภาพเพื่อคนไทยในราคาที่ถูกได้ และรัฐสนับสนุนทุนในการวิจัยและผลิตวัคซีน 595 เพราะมั่นใจถึงความพร้อมของบริษัทนั้นๆ ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้เอกชนรายเดียว และไม่ได้เอาภาษีประชาชนแบกบริษัทเอกชนรายเดียวให้พร้อมผลิตวัคซีนให้ได้
และทุนวิจัยที่รัฐสนับสนุน บ.สยามไบโอไซเอนซ์ ไม่ได้ให้เปล่า จะต้องคืนทุนเป็นวัคซีนในจำนวนที่เท่ากับจำนวนเงินที่ได้รับทุน นอกจากนี้คณะก้าวหน้ายังกล่าวหาลอยๆ โดยไม่ได้แสดงข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือ ไม่ได้แสดงรายละเอียดเงื่อนไขการตกลงราคา เช่น ระยะเวลาจอง ช่วงเวลาที่ปลอดภัยในการนำมาใช้ ทุกอย่างล้วนสะท้อนถึงคุณภาพและราคา ดังนั้นการกล่าวหาว่าประเทศไทยซื้อวัคซีนแพงกว่าประเทศอื่นจึงเป็นการสรุปที่ไม่น่าเชื่อถือ เลื่อนลอย
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้รีบจองโดยยังไม่ทราบผลสำเร็จหรือผลข้างเคียง ที่เสี่ยงทั้งสุขภาพและงบประมาณของประเทศ บางประเทศที่ต้องการเริ่มฉีดวัคซีนเร็ว มีการตัดสินใจใช้วัคซีนที่อาจจะยังทดสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัยไม่ครบเพราะสถานการณ์ติดเชื้อในประเทศไม่สามารถควบคุมได้ แต่ไทยไม่ยอมรับความเสี่ยง ไม่ยอมให้รีบร้อนฉีดวัคซีนที่ยังทดสอบไม่ครบถ้วน และไม่ยอมเป็นประเทศทดลอง วัคซีนทั้งหมดจะต้องผ่านมาตรฐานองค์การอาหารและยา (อย.) ทั้งของไทยและต่างประเทศ ไม่ควรเร่งรีบและเน้นปลอดภัย ย้ำว่ารัฐไม่ได้ผูกขาดวัคซีนจากรายเดียว
ยังมีการเจรจากับอีก 4 บริษัท และยังมีการพัฒนาอีกหลายบริษัทภายในประเทศ ไม่ควรเบี่ยงประเด็นโจมตี ในปีแรกจะมีการใช้วัคซีนของ AstraZeneca ประมาณ 88% ปีต่อไปอาจมีการตกลงจัดซื้อวัคซีนจากบริษัทอื่นได้ ขอถาม น.ส.พรรณิการ์ ว่าการจัดหาวัคซีนที่ดีต้องเป็นการจัดซื้อจากทุกบริษัทในสัดส่วนที่เท่ากันหรือ ทำไมไม่พิจารณาที่คุณภาพ ความปลอดภัย ราคา ประสิทธิภาพและประสิทธิผล ความสะดวกรวดเร็วในการจัดหาให้ทันกับสถานการณ์
ทั้งนี้การบริหารประเทศได้ดี สามารถรับมือโควิดได้ดี มีการบริหารจัดการงบประมาณให้ครอบคลุมทุกกระบวนการอย่างมีประสิทธิภาพ การที่ได้รับพระราชทานอุปกรณ์ เวชภัณฑ์ทางการแพทย์ รวมถึงรถโมบายตรวจหาเชื้อนิรภัย ช่วยการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกได้อย่างรวดเร็วจากทรัพย์ส่วนพระองค์ของในหลวงรัชกาลที่ 10 รวมกว่า 4 พันล้านบาทเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้น ทำให้ทุกภาคส่วนมีความพร้อมในการทำงานมากยิ่งขึ้น และยังเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงานอีกด้วย
