กกต.ฟัน อดีตดาวร้ายดัง เอาผิดอาญา ผู้สมัคร ส.ส. ขาดคุณสมบัติแต่ลงเลือกตั้ง ปมถือหุ้นสื่อ เด็กพลังประชารัฐ โดนด้วย ผิดคดีเดียวกัน

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

วันที่ 31 ม.ค.64 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เผยแพร่คำวินิจฉัย กกต. กรณีมีคำสั่งให้ดำเนินคดีอาญาตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.)ว่าด้วย การเลือกตั้ง ส.ส. 2561 มาตรา 151 แก่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค.2562 รวม 2 ราย ประกอบด้วย น.ส.เกศกานดา อินช่วย ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เขตที่ 16 กทม. พรรคพลังประชารัฐ ได้กระทำอันเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 98(3) และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 2561 มาตรา 42(3) จากกรณีเป็นผู้ถือหุ้นและเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทก้าวไกล ครีเอทจำกัด ซึ่งมีพยานหลักฐานรับฟังได้ว่า ประกอบกิจการสื่อมวลชนใดๆ ประกอบกับน.ส.เกศกานดา ให้ถ้อยคำว่าขณะสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส. ยังเป็นผู้ถือหุ้นและกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว จึงรับฟังได้ว่า น.ส.เกศกานดา เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการสื่อมวลชนใดๆ ในวันสมัครรับเลือกตั้งโดยรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้าม

อีกราย นายดามพ์ เผด็จดัสกร (อดีตดาวร้ายชื่อดัง) ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 1 กาญจนบุรี พรรคเพื่อชาติ ได้กระทำอันเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 98(3) และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 2561 มาตรา 42(3) จากกรณีเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทวิชั้นคาวบอย เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด ซึ่งมีพยานหลักฐานรับฟังได้ว่าประกอบกิจการสร้างภาพยนตร์และละครทีวีอันเป็นกิจการสื่อมวลชนใดๆ แม้บริษัทดังกล่าวจะไม่ได้เป็นผู้รับอนุญาตใช้คลื่นความถี่เพื่อประกอบกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์ แต่บริษัทดังกล่าวย่อมสามารถที่จะดำเนินการขออนุญาตดำเนินการได้ ดังนั้นจึงรับฟังได้ว่าการที่นายดามพ์ เป็นผู้ถือหุ้นในกิจการสื่อมวลชนใดๆ ได้สมัครรับเลือกตั้ง โดยรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้าม

กกต.จึงมีคำสั่งให้ดำเนินคดีอาญาแก่ น.ส.เกศกานดา และนายดามพ์ ตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 98(3) และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 2561 มาตรา 42(3) และมาตรา 151 ทั้งนี้สำหรับฐานความผิดตาม มาตรา 151 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000 -200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน